คนร้ายบุกยิง
หัวหน้าศูนย์เด็กเล็กพีระยานาวินแจ้ห่ม ดับในสวนท้ายหมู่บ้าน ตำรวจยังมึนเพราะคนตายเป็นคนเงียบขรึมไม่มีประวัติด่างพร้อย
และขณะเกิดเหตุก็ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ คาดผู้ตายกับคนร้ายคงจะรู้จักกันดี ตั้งปมฆ่า
ขัดแย้งส่วนตัว ชู้สาว ที่ดิน
และเรื่องงาน
เมื่อเวลา 19.45น.วันที่ 18
พ.ย. 57 พ.ต.ท.นครศักดิ์ ชัยชนะวงค์ พนักงานสอบสวน .สภ.แจ้ห่ม
รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในส่วนผลไม้ท้ายบ้าน ม.1 ต.แจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม
จ.ลำปาง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และออกไปทำการสอบสวนร่วมกับ
พ.ต.อ.อานุภาพ เกื้อหนุน ผกก.สภ.แจ้ห่ม พ.ต.ท.สุเทพ แก่ราช รอง.ผกก.สส.
พ.ต.ท.พรมมิน สมสุภาพรุ่งยศ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง
แพทย์เวรโรงพยาบาลแจ้ห่ม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้ห่ม
พบที่เกิดเกตุเป็นสวนผลไม้ไม่มีเลขที่
พบศพนายวสันต์ เจนคิด อายุ 46 ปี
มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าศูนย์เด็กเล็กของมูลนิธิพีระยานาวินแจ้ห่ม อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.1 ต.แจ้ห่มฯ
ถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณใต้รักแร้ซ้ายทะลุออกด้านขวา
นอนเสียชีวิตอยู่กลางลานดิน สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีดำ
และเมื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดๆเลย
จึงได้ส่งศพไปยังโรงพยาบาลแจ้ห่มเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นนี้
ทราบว่าผู้ตายหลังจากที่เลิกงานจากมูลนิธิแล้วจึงได้เลยไปดูสวนผลไม้ตัวเองที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน
เพื่อทำการพรวนดินใส่ปุ๋ยตามปกติทีเคยทำมาเหมือนเช่นทุกวัน
และก็มาถูกยิงตายในที่สุด
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกับใครที่ไหนหรือไม่
แต่จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายแล้วพบว่า นายวสันต์
เป็นคนที่เงียบขรึมและไม่ค่อยจะสุงสิงกับใคร
เอาแต่ทำงานพอเลิกงานประจำก็จะเข้าไปขลุกอยู่แต่ในสวนผลไม้ของตัวเอง
และขณะเกิดเหตุก็ไม่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์เลยแม้แต่คนเดียว
เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ในสวนผลไม้ของผู้ตายเองและยังเป็นเวลามืดค่ำแล้ว
แต่ในเบื้องต้นนี้เจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานการตายเอาไว้กว้างๆไปที่ประเด็นเรื่องชู้สาว
เรื่องธุรกิจ และปัญหาส่วนตัวเอาไว้ก่อน
พ.ต.อ.อานุภาพ เกื้อหนุน ผกก.สภ.แจ้ห่ม เปิดเผยว่า
ตอนนี้เรียกสอบพยานไปแล้วกว่าสิบปากทั้ง แม่ผู้ตายคือนางแสงดาว และพี่สาว
น.ส.ดวงสุดา ที่สอนอยู่ที่เดียวกัน รวมทั้งผู้ที่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน
แต่ก็ไม่พบพิรุธอะไร เพราะส่วนใหญ่ปัญหาเคลียร์ได้หมด ทั้งเรื่องที่ดินที่เคยมีข้อพิพาทกัน
คือผู้ตายเคยไปปิดทางเดินรถที่ผ่านที่ดินของตัวเองให้เจ้าของที่ใช้ได้แค่คนเดินผ่านเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่สองเป็นการพิพาทกันเรื่องการสร้างอาคารเรียนในวัด ซึ่งก็พูดคุยกันจนเคลียร์และมีการสร้างอาคารต่อจนเสร็จและใช้งานไปแล้ว
และสุดท้าย คือเรื่องส่วนตัวซึ่งเจ้าหน้าที่ฯให้น้ำหนักมากสุด เพราะลึกๆแล้วคนตายมีลักษณะนิสัยไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป
อาจจะมีเรื่องส่วนตัวที่ยังเข้าไม่ถึง เจ้าหน้าก็ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มาก แต่ยืนยันว่ายังไม่ตัดประเด็นไหนทิ้งไปอย่างแน่นอน
ที่ทำได้ตอนนี้ คือขอเวลาให้ชุดสืบสวนทำงานสักพักหนึ่งก่อน
จากนั้นก็จะรู้ได้ว่าสาเหตุการตายมาจากเรื่องอะไร และใครเป็นคนร้าย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1005 ประจำวันที่ 21 - 27 พฤศจิกายน 2557)