วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่องเล่าเคล้ารสชาติ ใน 5 ร้านอาหารเก่าแก่เมืองลำปาง



อะไรที่ทำให้ร้านอาหารสักร้านหนึ่งยืนหยัดผ่านกาลเวลามาได้ไม่ต่ำกว่า 30 ปี หากไม่ใช่รสชาติที่โดดเด่น ก็คงเป็นอดีตหอมหวานที่เคล้าอยู่ในบรรยากาศของการกิน ที่ซึ่งเราจะระลึกถึงได้ ยามเมื่อนั่งลงที่โต๊ะตัวเดิม พร้อมกับละเลียดอาหารจานโปรดตรงหน้า นี่คือ ร้านอาหารที่ใครสักคนอาจคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก

โอชาวัฒนา  คลาสสิกไม่เคยเปลี่ยน

หากใครเคยเป็นลูกค้าของโอชาวัฒนามาตั้งแต่เมื่อเริ่มเปิดในปี พ.ศ. 2522 คุณคงรู้ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ทั้งบรรยากาศภายในร้านและรสชาติของอาหาร โอชาวัฒนายังคงเสิร์ฟเมนูอาหารเป็นชุดในร้านที่ดูราวกับภัตตาคารจีนแสนคลาสสิก

โอชาวัฒนาสร้างชื่อมาจากร้านข้าวขาหมูของอากงแถวสี่แยกดอนปาน ก่อนที่สูตรขาหมูพะโล้รสเลิศจะตกทอดมาถึงสุรศักดิ์ ตรรกไพจิตร สุรัตน์ ตรรกไพจิตร-ภรรยา และลูกสาว ซึ่งช่วยกันทำให้ร้านอาหารร้านนี้ถูกพูดถึงกันแบบปากต่อปากในหมู่ข้าราชการที่นับเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก

จุดเด่นของร้านอยู่ที่เมนูอาหารชุดระดับเชลล์ชวนชิม โดย ชุด ประกอบไปด้วยอาหาร อย่าง ได้แก่ เป็ดพะโล้ ขาหมูพะโล้ ต้มจืดสาหร่ายทะเล ไส้กรอกเซี่ยงไฮ้ หมู / เนื้อผัดน้ำมันหอย และผัดคะน้าน้ำมันหอย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ไส้กรอกเซี่ยงไฮ้ (ฟองเต้าหู้ห่อไข่เค็มและกุนเชียง) ซึ่งหากินได้ไม่ง่ายนัก ส่วนขาหมูพะโล้เลือกใช้เฉพาะขาแก่ เคี่ยวด้วยเตาถ่านนานถึง วันเพื่อให้เข้าเนื้อ กระทั่งได้ขาหมูเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำเช่นเดียวกับเป็ดพะโล้

นอกจากอาหารชุด ลูกค้าสามารถเลือกสั่งอาหารจานเดียว หรือจานเด็ดที่ไม่ได้อยู่ในเมนู แต่รู้กันในหมู่ลูกค้าประจำ นั่นคือ เห็ดหูหนูผัดไข่ รวมถึงเมนูพิเศษเฉพาะวันพุธ-พฤหัสบดีอย่างเกาเหลาเนื้อตุ๋น ซึ่งอาหารทั้งหมดในร้านปลอดผงชูรสและเน้นความสะอาด สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจต่อสุขภาพของลูกค้า

โอชาวัฒนาเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-15.00 นาฬิกา

ข้าวซอยคำแสน  42 ปีแห่งความอร่อย

เมื่อครั้งที่แม่คำแสน วิรบุตร์ ได้สูตรข้าวซอยมา ก็ค่อย ๆ ปรับจนได้ข้าวซอยในแบบเฉพาะของตนเอง และเปิดร้านข้าวซอยคำแสนในปี พ.ศ. 2515 ซึ่งนับเป็นข้าวซอยในยุคแรก ๆ ของเมืองลำปาง

ข้าวซอยเนื้อเปื่อยคือจุดเด่นของร้านนี้ นี่คือสูตรดั้งเดิมของแม่คำแสนที่ไม่เคยเปลี่ยน เนื้อวัวต้องนำมาคั่วน้ำมันเพื่อดับคาวก่อน จากนั้นจึงต้ม ขั้นตอนนี้มีสูตรลับที่ทำให้ข้าวซอยเนื้อยังคงมัดใจลูกค้าประจำได้อยู่หมัด ส่วนข้าวซอยหมูทางร้านใช้หมูแดง ข้าวซอยไก่จะนำไก่ไปทอดก่อน แล้วจึงหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ส่วนข้าวซอยลูกชิ้นนั้นเพิ่มเข้ามาภายหลัง โดยน้ำแกงข้าวซอยจะแยกหม้อเนื้อออกไปสำหรับลูกค้าที่ไม่กินเนื้อ นอกจากนี้ ยังมีซุปข้าวซอย คือ ข้าวซอยไม่ใส่เส้น แต่โรยด้วยหมี่กรอบแทน มีข้าวซอยสำหรับเด็ก และก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมูครบครัน

แม้ว่าวันนี้แม่คำแสนในวัย 84 ปีจะวางมือให้ทายาทรุ่นที่สองอย่างนวรัตน์ จิโนรส-ลูกสาว และวรยุทธ์ วิรบุตร์-ลูกชาย ช่วยกันดูแลร้านแทน คนหนึ่งปรุงและดำรงไว้ซึ่งรสชาติที่สั่งสมมา คนหนึ่งบริการอย่างนอบน้อมและเป็นกันเอง เมื่อบวกรวมเข้ากับบรรยากาศโปร่งโล่ง นั่งสบาย ก็กลายเป็นส่วนผสมลงตัวทำให้ข้าวซอยคำแสนยังคงกลมกล่อมจนถึงทุกวันนี้

ข้าวซอยคำแสนเปิดทุกวัน เวลา 08.00-14.00 นาฬิกา

อัศวินชวนชิม  หนึ่งเดียวในลำปาง        

ซามเซียนเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2520 อาหารของชาวจีนแคะจานนี้ประกอบด้วยวัตถุดิบ อย่าง ซึ่งคนจีนแคะเรียกว่า ซามเซียน ได้แก่ ซี่โครงหมู กระเพาะหมู และเห็ดฟ้า ตุ๋นจนเปื่อยเข้ากันแบบพอดิบพอดี

ยิ่ง จันทร์เขียว สืบทอดเคล็ดลับความอร่อยนี้จากอากงชาวจีนแคะ เดิมที่ขายเพียงก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น เมื่อเพิ่มซามเซียนเข้าไปก็ถูกอกถูกใจลูกค้ายิ่งนัก กลายเป็นจุดขายเพราะหากินได้ที่นี่ที่เดียว เท่านั้นยังไม่พอ จากไก่ตุ๋นคราวนี้ลองนำไก่ไปทอด ก่อนจะวางลงเคียงข้างกับบะหมี่แห้ง กลายเป็นเมนูยอดฮิตอย่างบะหมี่แห้งไก่ทอดหนึ่งเดียวในลำปาง ขวัญใจเด็ก ๆ โดยแท้ นอกจากเส้นบะหมี่สั่งทำพิเศษที่เหนียวนุ่ม ไม่เละ น่าสนใจตรงที่ร้านนี้มีเส้นมักกะโรนีให้เลือกอีกอย่าง พิเศษไม่เหมือนใครอีกเช่นกัน

แม้ดูเหมือนจะเน้นไปที่เมนูแห้ง ๆ อย่างบะหมี่แห้งไก่ทอด บะหมี่แห้งซามเซียน บะหมี่แห้งไก่ตุ๋น และบะหมี่แห้งลูกชิ้น แต่การทำน้ำซุปของที่นี่ก็พิถีพิถันด้วยการใช้ซี่โครงหมูกับซี่โครงไก่ต้มรวมกัน ใส่รากผักชี พริกไทย ซีอิ๊ว เหยาะเกลือนิดหน่อยเพื่อความใสน่ากิน ซึ่งก็ไม่แปลกหากใครจะสั่งชามที่ ต่อเวลาความอร่อยออกไปอีก

อัศวินชวนชิมเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 นาฬิกา

ร้านอาหารแม่แห   รสมือแม่แบบดั้งเดิม

ร้านอาหารแม่แหเปิดขายอาหารพื้นเมืองบนถนนอุปราชมาตั้งแต่รุ่นแม่แห รัตนทากุล โดยสูตรอาหารทั้งหมดได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ ซึ่งเป็นแม่ครัวอยู่ในคุ้มหลวงของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต

สุวภีร์ เตียสิริวโรดม ลูกสาวของแม่แหในวัย 70 ปี ยังคงรักษารสชาติดั้งเดิมของอาหารพื้นถิ่นลำปางไว้อย่างไม่ตกหล่น โดยของต้องใหม่และสดเสมอ สุวภีร์ยังคงตื่นเช้าเพื่อไปเลือกของสดที่ตลาดด้วยตนเอง แม้แต่ขั้นตอนการทำอาหารหลายอย่างก็ยังคงแบบเดิม ๆ อย่างการนำพริก หอมแดง กระเทียม เสียบไม้ปิ้งด้วยเตาถ่าน หรือไส้อั่วที่ย่างด้วยวิธีโบราณจากกาบมะพร้าวกว่า ชั่วโมง กว่าจะได้ไส้อั่วที่หอมควันเจืออยู่บาง ๆ เป็นเอกลักษณ์

เมนูเด่น ๆ อย่างไส้อั่ว แกงโฮะ น้ำพริกต่าง ๆ ตำมะเขือ และแกงฮังเล โดยอย่างหลังจะเคี่ยวจนน้ำแกงชุ่มอยู่ในเนื้อหมูติดมันหอมกลมกล่อม นักท่องเที่ยวฝรั่งและญี่ปุ่นติดใจกันมานักต่อนัก ทั้งหมดนี้จะทำยืนพื้นขายทุกวัน โดยมีเมนูอื่นสลับสับเปลี่ยนกันมาเป็นสีสัน รวมถึงเมนูพิเศษตามฤดูกาล ใครไม่อยากกินอาหารเมืองก็มีอาหารไทยให้เลือกหลายอย่าง ร้านนี้ยังมีเอกลักษณ์อยู่ที่การใช้ข้าวเหนียวและข้าวสวยที่เป็นข้าวกล้อง ช่วงไหนได้ข้าวใหม่มาหุงร้อน ๆ นุ่ม ๆ ยิ่งทำให้เจริญอาหารกันเข้าไปใหญ่

คุณชายถนัดศรียังกล่าวไว้ว่า อาหาร Original เหมือนมากินที่บ้าน”              

ร้านอาหารแม่แหเปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.30 นาฬิกา แต่จะปิดในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ ของทุกเดือน

ข้าวมันไก่พงษ์หลี  ข้าวมันไก่ครึ่งศตวรรษ !          

แม้จะไม่สามารถยืนยัน พ.ศ. ที่แน่ชัดได้ แต่หลังจากไล่เรียงกันในครอบครัวแล้ว กฤตนันท์ หาญหฤทโยดม ก็พอจะกะอายุอานามคร่าว ๆ ของข้าวมันไก่พงษ์หลีว่าราว ๆ 50 ปีเห็นจะได้

อากงของกฤตนันท์ได้สูตรข้าวมันไก่มาจากกรุงเทพฯ แล้วจึงให้อาม่าลองทำขายที่ใต้ถุนโรงแรมย่านสถานีรถไฟลำปาง ช่วงเวลานั้นดูเหมือนข้าวมันไก่จะเป็นของใหม่สำหรับคนลำปาง จึงขายไม่ดีนัก ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเป็นที่รู้จัก

ร้านพงษ์หลีใช้ไก่พันธุ์เนื้อที่เน้นความสดใหม่ ต้มด้วยกรรมวิธีที่ไม่ทำให้หนังแตก ความพิเศษยังอยู่ที่การเลือกใช้ข้าวหอมมะลิแท้ หุงแล้วได้ข้าวเม็ดสวยน่ากิน และน้ำจิ้มสูตรเด็ด หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของร้านข้าวมันไก่ รวมถึงเทคนิคอย่างการสับไก่ให้สวย และจัดเรียงไก่บนข้าวอย่างไรให้ดูน่ากิน นี่คือเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งกฤตนันท์ยอมรับว่าในช่วงแรก ๆ ที่มารับหน้าที่ยืนอยู่หน้าเขียงยังทำได้ไม่ดีเท่าอาม่า

ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านพงษ์หลีเป็นลูกค้าเก่าแก่ สมัยเป็นเด็กปู่ย่าตายายเคยเดินจูงมือไปซื้อกับอาม่าของกฤตนันท์ พอมาถึงวันนี้ก็จูงมือลูกหลานของตนมากินรสมือที่ตนเองคุ้นเคยบ้าง อาจบางที มากกว่ารสชาติอาหาร มันคือความผูกพันที่ร้านอาหารร้านหนึ่งพึงต้องเก็บรักษาไว้

ข้าวมันไก่พงษ์หลีเปิดทุกวัน เวลา 06.00-12.00 นาฬิกา

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์