หนุ่มเบญจเพสขับรถสิบล้อบรรทุกจักรยานกว่า
300 คันไปส่งที่ จ.เชียงใหม่ เตรียมนำไปร่วมกิจกรรมวันเด็ก หลังแวะเติม
NGV ที่สบปราบขับออกจากปั๊มไม่ถึง 10
นาทีเกิดไฟลุกไหม้ด้านหลังรถ เจ้าตัวและเพื่อนรีบหนีเอาตัวรอด
ทั้งรถบรรทุกและจักรยานที่อยู่ท้ายรถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
เมื่อเวลาประมาณ
18.45 น วันที่ 7 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชุมพร ธุรกิจ พนักงานสอบสวน สภ สบปราบ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้รถบรรทุกสิบล้อ
บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 661-662 ถ.พหลโยธินขาขึ้น
เขตบ้านแม่กั๊วะ ต.แม่กั๊วะ อ.สบปราบ จ.ลำปาง จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัย ร่วมให้การช่วยเหลือ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
ต.สบปราบ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัย
ลำปาง จุดสบปราบ นำรถน้ำจำนวน 2 คัน เข้าทำการระงับเหตุเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถบรรทุกสิบล้ออย่างรุนแรงทั้งคัน โดยใช้เวลาฉีดน้ำอยู่นาน 20
นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
หลังตรวจสอบแล้ว ทราบว่าเป็นรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 82-8739 จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งด้านหลังรถบรรทุกรถจักรยานของเด็กมาจำนวนหลายร้อยคัน
ได้รับความเสียหายถูกไฟไหม้วอดทั้งหมด ส่วนคนขับรถโชคดีที่หลบหนีออกมาได้ทัน
จากการสอบถามนายวัฒนพล กิจพิทักษ์
อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/168 หมู่ 4 ต.ท่าข้าม อ. สามพราน
จ.นครปฐม ให้การว่า ตนเองพร้อมเพื่อน บรรทุกรถจักรยานทั้งหมดมาจาก
จ.ฉะเชิงเทรา จะเดินทางไปส่งให้ร้านค้าที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากร้านค้าได้สั่งรถจักรยานทั้งหมด
ไปใช้ในกิจกรรมสนับสนุน งานวันเด็ก ในวันที่ 10 ม.ค.58 โดยก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร
ตนเองแวะเติมก๊าซ NGV จนเต็มถัง และขับออกมาสัก 10 นาทีเท่านั้น ได้เห็นชาวบ้านที่อยู่แถวริมถนน หลายคนตะโกนบอกว่า มีไฟไหม้ที่หลังรถบรรทุก ตนเองจึงจอดรถไว้ข้างทาง
และหาน้ำมารดน้ำเพื่อสกัดเพลิงแต่เอาไม่อยู่
จึงแจ้งขอความช่วยเหลือ ไม่นานนักแจ้ง
รถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียง
เข้ามาช่วยกันฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิง แต่ก็ไม่ทันการ รถจักรยานได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
380 คัน มูลค่า 5 แสนบาท
เบื้องต้น ทางตำรวจ สภ สบปราบ เปิดเผยว่า
ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ ว่าเกิดจากการติดก๊าซ NGV ที่ตัวรถหรือไม่
หรือจะเกิดจากไฟไหม้จากตัวรถ
จะต้องรอเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนความเสียหายในครั้งนี้ นอกจากรถจักรยาน 5 แสนบาทแล้ว และรถบรรทุกอีกมากว่า
5แสนบาท รวมมูลค่าความเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1011 ประจำวันที่ 9 - 15 มกราคม 2558)