จับมือ 4 ฝ่าย ดันวังเหนือเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวดอยหนอก
ชูจุดแข็งเส้นทางธรรมชาติ-อารยธรรมโบราณ เดินถึงยอดดอยเพียง 3 กม. เปิดตัวกลางปีนี้
ขณะเดียวกันจับตาพะเยาเสนอโครงการกระเช้าขึ้นดอยหนอก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยหลวงชี้เป็นพื้นที่ต้นน้ำชั้น
1 ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาหลายขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวลานนา Bizweek รายงาน ว่าตามที่ ชุมชนบ้านปงถ้ำ-ปงทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง
จัดเวทีเสวนาแนวทางการพัฒนาท่องเที่ยวประตูสู่ดอยหนอก ดอยเดียวเที่ยว 4 จังหวัด
โดยความร่วมมือและตัวแทนของ 4 ฝ่าย คือ ชุมชนบ้านปงถ้ำ-ปงทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง
นายอำเภอวังเหนือ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยหลวง และ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง
เมื่อ วันที่ 27 ม.ค.2558
เพื่อความร่วมมือในการพัฒนาให้อำเภอวังเหนือเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวดอยหนอก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่ในเทือกเขาดอยหลวง
เขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง มีลักษณะนูนขึ้นมาเป็นรูปรีคล้ายโหนกวัว
เป็นภูเขาที่มีหน้าผาสูงชัน มีโบราณสถานที่ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้สร้างไว้
และเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าที่หายาก ที่มีแนวเขต ติดต่อกัน
3 จังหวัด คือ ลำปาง พะเยา และเชียงราย และสามารถมองเห็น 4 จังหวัด โดยสามารถมองเห็นพื้นที่ดอยนางแก้ว
จังหวัดเชียงใหม่ มองเห็นกว๊านพะเยา และพื้นที่จังหวัดลำปาง
โดยพื้นที่อำเภอวังเหนือเป็นเส้นทางที่สามารถเดินทางเท้าขึ้นดอยหนอกได้ระยะสั้นที่สุด
(ประมาณ 3 กม.) เมื่อเทียบกับเส้นทางอื่นจะใช้เวลานานมากกว่า 6 ชม.ในการเดินขึ้นถึงยอดดอยหนอก
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า
สภาประชาชนจังหวัดพะเยามีการนำเสนอโครงการกระเช้าลอยฟ้าขึ้นดอยหนอก
ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดและนำเสนอแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เป็นโครงการที่ขับเคลื่อนโดยภาคประชาชนจังหวัดพะเยา
และเป็นกระแสข่าวที่เริ่มมีการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในพื้นที่ชุมชนรอบอุทยาน
ซึ่งรวมถึงชุมชนที่อยู่อาศัยในเขตอำเภอวังเหนือ ด้วยเช่นกัน
เรื่องนี้ นายเสน่ห์ ซองดี ผู้ใหญ่บ้านปงถ้ำ อ.วังเหนือ
จ.ลำปาง เผยว่า กระแสข่าวดังกล่าว ชาวบ้านที่อยู่รอบพื้นที่อุทยานในเขตจังหวัดลำปางได้ยินข่าวมาบ้างแต่ไม่ทราบรายละเอียด
เนื่องจากยังไม่มีการประสานเรื่องราวมาเกี่ยวข้องกัน แต่ในส่วนของพื้นที่ดอยหนอกเป็นที่รู้กันทั่วไปว่ามีทางขึ้นถึงยอดดอยได้ทั้งหมด
7 เส้นทาง และดอยหนอกเป็นจุดกึ่งกลางที่มีแนวเขตสันเขาแบ่งตามแนวสันเขาพอดี ทั้งนี้จังหวัดลำปาง
ที่บ้านปงถ้ำเป็นเส้นทางที่สามารถเดินขึ้นถึงยอดดอยหนอกได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเพียง
3 กม. เมื่อเทียบกับเส้นทางอื่นที่ต้องใช้เวลานาน กว่า 6-10 ชม. ดังนั้นชาวบ้านปงถ้ำและบ้านปงทอง
จึงหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันผลักดันและส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวขึ้นดอยหนอก
ที่บ้านปงถ้ำให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับการดูแลส่งเสริมอย่างจริงจัง
“คำว่าประตูสู่ดอยหนอก มาจากเส้นทางขึ้นดอยหนอกที่บ้านปงถ้ำ
เป็นเส้นทางที่เดินขึ้นง่ายและใกล้ที่สุด และเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีชีวิตชีวา
เริ่มตั้งแต่เส้นทางจากหมู่บ้านปงถ้ำ มีพระบรมสารีริกธาตุในหมู่บ้าน มีถ้ำ 7
ถ้ำที่มีร่องรอยอารยธรรมวิถีชีวิตคนโบราณ มีภาพแกะสลักหน้าผา สูงเท่าตึก 6 ชั้น
และเป็นแหล่งศึกษากำเนิดพระไตรปิฏกฉบับล้านนา
มีจุดพักแรม ทั้งแบบนอนเต็นท์ และแบบโฮมสเตย์พักกับชาวบ้านในชุมชนที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
มีน้ำตกและแหล่งน้ำตลอดเส้นทาง
ดังนั้นการร่วมมือจากหลายฝ่ายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน
จะเป็นการเริ่มต้นในการพัฒนาท่องเที่ยวไปพร้อมๆกับการอนุรักษ์ และจะเปิดตัวเส้นทางดอยหนอกสมบูรณ์ในกลางปี
58 นี้”
ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงเรื่องกระเช้าขึ้นดอยหนอก
นั้นนายเสน่ห์กล่าวว่า ชาวบ้านก็ให้ความสนใจมาก
แต่เป็นเรื่องที่ต้องพุดคุยกันอีกมากในวงกว้าง
เพราะดอยหนอกถือเป็นพื้นที่กลางที่มีแนวเขตสันเขาแบ่งระหว่างจังหวัดบนยอดดอยพอดี
ที่ผ่านมามีการบูรณะโบราณสถานต่างๆบรรพบุรุษและชาวบ้านปงถ้ำมีส่วนร่วมมาโดยตลอด
ดังนั้นการจะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับดอยหนอกคงต้องถามความเห็นจากทุกฝ่ายทุกพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับดอยหนอกด้วย
หากมีเหตุที่ต้องกระทบต่อสภาพแวดล้อม ธรรมชาติของดอยหนอกชาวบ้านย่อมต้องร่วมมือปกป้องแน่นอน
ด้านนาย บัญชา
รามศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยหลวง เผยว่า อุทยานแห่งชาติดอยหลวง มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่รอยต่อ
3 จังหวัด คือ ลำปาง พะเยา และเชียงราย (เป็นอุทยานแห่งชาติที่ได้ยกฐานะมาจากวนอุทยานน้ำตกจำปาทอง
วนอุทยานน้ำตกผาเกล็ดนาค วนอุทยานน้ำตกปูแกง และวนอุทยานน้ำตกวังแก้ว รวม 4 แห่ง)
ที่มีพื้นที่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน
มีสภาพธรรมชาติและจุดเด่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่งของภาคเหนือ
การไปเที่ยวดอยหนอกเริ่มต้นจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยหลวงที่ 6 (น้ำตกจำปาทอง) ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 10 ชั่วโมง แต่เส้นทางจากอำเภอวังเหนือเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยง
4 จังหวัดได้ง่าย สามารถขึ้นชมดอยหนอกได้ใกล้ที่สุด ซึ่งทางอุทยานฯมีหน้าที่ดูแลพื้นที่โดยตรง
การลงนามความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นเรื่องดีเพราะ โครงการนี้
ชาวบ้านขอคืนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกได้ประมาณเกือบ 2
พันไร่และเป็นแนวทางการร่วมมือกันดูแลพื้นที่ป่า
และเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน
สำหรับกรณีของโครงการ กระเช้าลอยฟ้าขึ้นดอยหนอก
โดยภาคประชาชนจังหวัดพะเยานั้น ขณะนี้เป็นเพียงโครงการ
ซึ่งยังต้องผ่านขึ้นตอนอีกมากมาย และต้องมีประชาคมหลายฝ่ายและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) เนื่องจากดอยหนอกเป็นพื้นที่ต้นน้ำ ชั้น 1 A การทำโครงการใดๆที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อุทยานต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอีกหลายขั้นตอน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1014 ประจำวันที่ 30
มกราคม - 5
กุมภาพันธ์ 2558)