ถ้ าคุณ
ป้า คุณย่า คุณยาย เหล่านั้น เป็นป้า
เป็นย่า เป็นยายของเรา เราจะยังรู้สึกดีอยู่ไหม
หากสื่อเสนอข่าวข่มขืนผู้ที่เราเคารพนับถือ
ซ้ำๆ วิพากษ์วิจารณ์ซ้ำๆ หรือกระทั่งเอามาล้อเล่น
เหมือนบทตลกของนักแสดงตลกบางคนที่นำเรื่องราวความกตัญญูของเด็กหญิงวัลลีที่
ดูแลแม่ที่ป่วยเป็นอัมพาตมาล้อเลียน
เรื่องราวของโจรซิกแพกก็ได้นำมาซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้
ทั้งในแง่มุมของสื่อที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือคิดไม่ถึง เช่น
รายการของเนชั่นทีวี
ที่ไปสัมภาษณ์หญิงสูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียวในบริเวณที่คนร้ายก่อคดี เห็นหน้า
เห็นตา เห็นสภาพที่อยู่ชัดเจน
หรือในมุมของนักร้องร็อคสตาร์ชื่อดังที่จงใจเอาเรื่องทุกข์โศกของคนอื่นมาเป็นเรื่องเล่นสนุกของตัวเอง
ไม่ว่าจะเรียกว่าเป็น
จอมโจรซิกแพค หรือฆาตกรซิกแพค
นามเรียกขานนี้ได้มาเพราะจากคำให้การจากผู้เคราะห์ว่า คนร้ายสูงประมาณ 170
เซนติเมตร ร่างกายบึกบึน มีกล้ามเนื้อซิกแพคบริเวณท้อง
ที่ตอนนี้กลายเป็นกระแสที่ยึดพื้นที่สื่อทุกชนิด
เพราะผู้ก่อเหตุรายนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกับที่ได้กระทำการต่อเนื่องยาวนาน
มาตั้งแต่ปี 2553-2557 เพราะแต่ละคดีมีความคล้ายกัน ตรงที่มีการกระทำชำเรา “หญิงชรา”
คดีที่
1 วันที่ 26 ก.ย. 2553 เวลา 23.00 น. ข่มขืนหญิงชราวัย 70 ปี สภ.บ้านแพ้ว จ.นครปฐม
คดีที่
2 วันที่ 10 พ.ย. 2553 เวลา 02.00 น. ข่มขืนหญิงชราวัย 71 ปี ในพื้นที่
สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
คดีที่
3 วันที่ 8 ม.ค. 2555 เวลา 01.00 น. ข่มขืนหญิงชราวัย 61 ปี สภ.บางคนที
จ.สมุทรสงคราม
คดีที่
4 วันที่ 8 ธ.ค. 2555 เวลา 03.00 น. ข่มขืนหญิงชราวัย 70 ปี สภ.บางคนที
จ.สมุทรสงคราม
คดีที่
5 วันที่ 6 ธ.ค. 2555 เวลา 03.00 น. ข่มขืนสาวใหญ่วัย 59 ปี สภ.บางคนที
จ.สมุทรสงคราม
คดีที่
6 วันที่ 16 ธ.ค. 2555 เวลา 03.40 น. ข่มขืนสาวใหญ่วัย 47 ปี สภ.บางคนที
จ.สมุทรสงคราม
คดีที่
7 วันที่ 23 มี.ค. 2556 เวลา 23.00 น. ข่มขืนหญิงชราวัย 75 ปี สภ.สามพราน จ.นครปฐม
คดีที่
8 วันที่ 11 มิ.ย. 2556 เวลา 00.30 น. ข่มขืนแล้วฆ่าหญิงชราวัย 78 ปี สภ.พุทธมณฑล
จ.นครปฐม
คดีที่
9 วันที่ 25 ธ.ค. 2557 เวลา 01.30 น. ข่มขืนสาววัย 39 ปี ที่อยู่กับแม่วัย 70
กว่าปี สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
คดีล่าสุด
คดีที่ 10 วันที่ 25 ม.ค. 2558 เวลา 01.00 น. ข่มขืนหญิงชราวัย 71 ปี ในพื้นที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เห็นข้อมูลการเกิดเหตุข่มขืนแล้วปล้นทรัพย์
หญิงชราเป็นส่วนใหญ่ซึ่งนั่นคงเห็นว่าเหยื่อคงไม่สามารถต่อสู้ได้ ในคดีเหล่านี้นอกจากจะข่มขืน
ชิงทรัพย์แล้วยังมีการฆ่าข่มขืนอีกด้วย และพื้นที่ที่เกิดเหตุก็เป็นพื้นที่ซ้ำๆกัน
บางครั้งก็ทำให้รู้สึกได้ว่าความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนที่ตำรวจควรจะดูแลนั้นคงหวังได้ยากยิ่ง
ทุกวันนี้ต่างคนต่างต้องดูแลชีวิตกันเอง
แต่ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้าย
ซ้ำเติมผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลาย คงไม่พ้นความคะนองปากของ เสก โลโซ
ที่โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า
“เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายที่ชอบข่มขืนหญิงชราในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐมได้
ทำให้มีหญิงชราหลายร้อยคนเดินทางไปยังจังหวัดนครปฐมแล้ว เป็นเหตุให้ที่พัก
เต็มทุกแห่ง.. ปล.น้ำหมากงี้กระจาย กระจาย และกระจาย”
แน่นอนว่าหลังจากที่
เสก โลโซ โพสต์ข้อความนี้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์
เพราะนั่นไม่ต่างอะไรกับการซ้ำเติมผู้สูญเสียโดยการนำความเจ็บปวดมาเป็นเรื่องล้อเล่น
เพราะหลายคอมเมนท์ที่ปรากฏบนเฟสบุ๊คของ เสก โลโซ นั้น
ก็มีไม่น้อยที่คอมเมนท์ด้วยความสนุก แต่หากฉุกคิดสักนิดว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นี้กับ
แม่เรา พี่เรา หรือญาติเราบ้างละ ไม่ว่าใครก็คงขำไม่ออกเป็นแน่
และหลังจากกลายเป็นกระแสแล้ว
เสก โลโซ
ก็มาโพสต์ว่าเฟสบุ๊คถูกแฮกตัวเองไม่ได้เป็นคนโพสต์และข้อความนั้นก็ถูกลบออกไปจากหน้าเฟสของเสก
โลโซ เหลือไว้แต่ภาพที่เหล่าเฟสบุ๊คเกอร์แค๊ปหน้าจอไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น
จะว่าไปแล้ว
ข้อความที่ เสก โลโซ โพสต์จนเป็นกระแสครึกโครมนี้ คนที่เล่น LINE คงจะได้รับข้อความนี้ส่งต่อๆกันจากกลุ่มหนึ่งไปยังกลุ่มหนึ่ง
ทำให้ข้อความนี้แพร่สะพัดอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ไม่ว่าข้อความนี้จุดเริ่มต้นจะอยู่ที่ เสก โลโซ หรือ เสก โลโซ เป็นเพียงผู้รับสารแล้วเอามาโพสต์ผ่านเฟสบุ๊ค
แต่ด้วยความที่เขาเป็นร็อคสตาร์ชื่อดังของเมืองไทย ข้อความที่โพสต์ย่อมเป็นที่สนใจ
แต่หากตาสีตาสีเป็นคนโพสต์ เรื่องราวอาจจะเปลี่ยนไปเป็นหนังคนละม้วน
ไม่ว่าข้อความที่พี่เสก
โลโซ บอกว่าถูกแฮกเฟสให้โพสต์ และข้อความที่ส่งต่อทาง LINE ล้วนแล้วแต่เป็นความสนุกบนความทุกข์ของคนอื่น
เป็นการข่มขืนซ้ำที่สมควรประณามอย่างยิ่ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1014 ประจำวันที่ 30
มกราคม - 5
กุมภาพันธ์ 2558)