วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วงเวียน วิงเวียน มาหลัง ไปก่อน !


าจมีที่เดียวในโลกที่วงเวียน ต้องบังคับกันด้วยไฟเขียว ไฟแดง เพราะประเทศไทยตามใจฉัน ไม่สนใจกติกา ไม่ใส่ใจวิธีใช้รถใช้ถนนในวงเวียนที่ถือเป็นหลักสากลว่าให้รถในวงเวียนไปก่อน ไปดูปรากฎการณ์นี้กันที่ห้าแยกหอนาฬิกา มาช้าแต่เหยียบคันเร่งให้เข้าถึงวงเวียนก่อน เพื่อจะได้ไปก่อนโดยไม่เคารพสิทธิรถในวงเวียน

ว่ากันว่าวงเวียนเป็นระบบการจราจรที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนเส้นทาง ทั้งปลอดภัยกว่า และง่ายต่อการดูแลรักษา ไปจนถึงยังช่วยลดมลภาวะจากการจราจรให้รถไม่ติดขัดและสามารถคล่องตัวได้ดี เป็นระบบจราจรสากลที่ไม่ใช้ไฟแดง ที่ใช้หลักการไหลเป็นวงกลม โดยให้รถในวงเวียนไปก่อน  ทั่วทั้งโลกก็เป็นเช่นนี้

แต่วงเวียนในประเทศไทย ถ้าจะให้รถในวงเวียนไปก่อน ต้องบังคับด้วยไฟเขียว ไฟแดง ฉะนั้น วงเวียนใหญ่ 2 แห่งในกรุงเทพ คือวงเวียนอนุสาวรีย์ชัย และวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่แต่เดิมใช้กติกานี้ ก็เปลี่ยนมาใช้สัญญาณไฟจราจรบังคับแทนเนิ่นนานมาแล้ว แล้ววงเวียนในเมืองเล็กๆ อย่างลำปาง อาการจะเป็นอย่างไร

ประเทศอังกฤษได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการใช้วงเวียนมากที่สุดในโลก ผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการขับรถผ่านแยกที่นำการจราจรแบบวงเวียนอาจจะรู้สึกว่ายาก แต่หากได้ทดลองใช้จะพบว่าการขับรถผ่านวงเวียนที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกติกา เคารพกฎจราจร จะสะดวกมาก  เพราะเมื่อเข้าใกล้วงเวียนเพียงให้ทางรถที่วิ่งอยู่ในวงเวียน รวมทั้งชำเลืองหรือมองไปดูรถที่วิ่งมาทางขวา หากไม่มีรถหรือมีแต่กำลังวิ่งเข้ามาในระยะที่ปลอดภัย เขาก็สามารถขับรถเข้ารอบวงเวียน และได้สิทธิในการยึดครองทางเอก (รถในวงเวียน) เป็นการชั่วคราว โดยที่รถคันอื่นๆ จะต้องคอยสังเกตและให้ทางแก่เรากันต่อไป กลายเป็นหลักกติกาสากลทั่วโลกว่า

ให้รถในวงเวียนไปก่อน

หันกลับมามองบ้านเรา ห้าแยกหอนาฬิกา เป็นจุดกลางเมืองลำปางที่เชื่อมต่อไปหลายเส้นทาง ก่อนหน้านั้นมีการใช้สัญญาณไฟจราจร แต่เมื่อราวปี 2550 ได้มีการจัดทำโครงการปรับภูมิทัศน์ข่วงนคร โดยใช้งบประมาณสูงถึง 75 ล้านบาท จนเมื่อข่วงนครสร้างเสร็จในปี 2551 จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการจราจรมาเป็นใช้วงเวียน

พรบ.จราจร ลักษณะ 6 การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกหรือวงเวียน มาตรา 73 ในกรณีที่วงเวียนใดได้ติดตั้งสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตาม สัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรนั้น  ถ้าไม่มีสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรตามวรรคหนึ่ง เมื่อผู้ขับขี่ขับรถมาถึงวงเวียน ต้องให้สิทธิแก่ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถอยู่ในวงเวียนทางด้านขวาของตนขับผ่านไป ก่อน ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรเพื่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการ จราจรจะให้สัญญาณจราจรเป็นอย่างอื่นนอกจากที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่งหรือวรรค สองก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามสัญญาณจราจรที่พนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดให้ นั่นคือ ให้รถในวงเวียนไปก่อน

หากนับจากห้าแยกหอนาฬิกา กลายมาเป็นข่วงนคร ก็ประมาณเกือบ 7 ปีแล้ว เมืองลำปางคึกคักขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงของสังคม  จำนวนรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์บนท้องถนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาการจราจรช่วงเวลาเร่งรีบ บริเวณวงเวียนข่วงนครก็เช่นกัน  มีรถสัญจรผ่านไปมาก เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง หลายคนบอกว่าเป็นเพราะไม่มีสัญญาณไฟจราจร ทั้งที่กฎจราจรทั่วโลกที่มีวงเวียนนั้นต่าง ต้องให้รถในวงเวียนไปก่อน

สัญญาณไฟจราจรอาจะเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น

เพราะเท่าที่สังเกตรู้ว่าเมื่อต้องให้รถในวงเวียนไปก่อนทำให้รถแต่ละคันพยายามเร่งความเร็วเพื่อให้เข้ามาอยู่ในวงเวียนเพียงเพื่อจะได้ ไปก่อนดังนั้น จากหลักสากล ให้รถในวงเวียนไปก่อนจึงกลายเป็น ให้รถ ตูไปก่อน จึงไม่แปลกที่จะเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง

การรณรงค์เรื่องการรักษากฏจราจรจึงเป็นสิ่งที่จะทำให้วงเวียนไม่ใช่เรื่องน่าวิงเวียนหรืองุนงงสงสัยอีกต่อไป หากทุกคนร่วมใจกันปฏิบัติตามกฎจราจร มีน้ำใจบนท้องถนน ปัญญาวงเวียนที่วนเวียนจนรถชนกันโครมครามคงหายไป

เราลงมาคิดถูกว่าหาบริเวณหอนาฬิกา กลับมาใช้ระบบไฟแดงเหมือนเมื่อก่อน หารจราจรจะติดขัดเพียงใด ยิงโดยเฉพาะช่วงเวลาโรงเรียนเลิก เพราะเส้นถนนนั้นเชื่อมต่อ หลายโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนเทศบาล 4 ประชาวิทย์ อัสสัมชัญ อรุโณทัย มัธยมวิทยา และยังไม่นับโรงเรียนอื่นๆที่รถรับส่ง รถผู้ปกครองที่มารับลูกๆหลังเลิกเรียน

เราอาจต้องมาพิจารณากันบ้างว่าสิ่งที่หายไปนั้น คือ สัญญาณไฟจราจร  หรือ “น้ำใจ”ในการใช้รถ ใช้ถนน ที่สาบสูญไปจากสังคมเมืองลำปางกันแน่
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1016 ประจำวันที่ 13 - 19  กุมภาพันธ์ 2558)   


Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์