รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ
เปิดรณรงค์ไม่เผาป้องกันปัญหาหมอกควัน ด้านกรมป่าไม้
จัดชุดการศึกษาพิเศษเหยี่ยวไฟ พร้อมดับไฟ นำเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์(GPS) หาพิกัดความร้อนที่จุดเกิดเหตุเพิ่มความแม่นยำ
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.58
พลเอกดาว์พงษ์
รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานเปิดโครงการรณรงค์
“ไม่เผา รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์” จัดขึ้นโดย
กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถเคลื่อนที่รณรงค์ประชาสัมพันธ์
ไปตามเส้นทางหลักของถนนเมืองลำปาง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ความรู้
ความเข้าใจ และตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้น
พร้อมทั้งสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการร่วมมือในการป้องกันและควบคุมไฟป่า
พลเอกดาว์พงษ์
รัตนสุวรรณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากสถานการณ์หมอกควันที่เกิดจากไฟป่าใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
ได้แก่ จังหวัดลำปาง จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน จังหวัดลำพูน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
จังหวัดตาก จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่
สาเหตุสำคัญมาจากปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่งและในที่เกษตรกรรม
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน ทางด้านเศรษฐกิจ
และการท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนของทุกปีที่หน่วยงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หันมาร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า โดยเมื่อวันที่ 21 ม.ค.58
กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทย ได้ Kick off เปิดโครงการรณรงค์ไม่เผาป่า ลดหมอกควัน ประจำปี 2558 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พร้อมทั้งประชุมเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ
โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้
โดยหนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน
ได้แก่กรมป่าไม้ที่ได้ดำเนินการด้านการป้องกันมาอย่างต่อเนื่อง
และหาแนวทางการรับมือเพื่อเป็นการบรรเทาสถานการณ์ไฟป่าให้ลดลงในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
นายสมชัย
มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้
กล่าวต่อว่า
ในส่วนของกรมป่าไม้ได้ประชุมหารือเพื่อวางแผนมาตรการในการป้องกันและควบคุมไฟป่า
ปีงบประมาณ 2558
โดยกรมป่าไม้ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆแยกเป็น การเตรียมความพร้อมในการควบคุมไฟป่า โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมไฟป่า จัดชุดเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไฟป่า
และมีการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันไฟป่าเพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือ รวมถึงกำหนดมาตรการห้ามบุกรุกพื้นที่ป่าที่เสียหายจากไฟป่า
,การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า
ทางกรมป่าไม้ได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายฯ ไว้จำนวน 100 เครือข่ายโดยมีการมอบทุนให้กับหมู่บ้านเครือข่าย
เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่า และจัดหาอาสาสมัครช่วยกันดูแล
ทั้งนี้กรมป่าไม้ยังได้ประสานงานกับเครือข่ายที่สร้างในปี 2556-2557 กว่า
200 เครือข่ายให้ช่วยดูแลพื้นที่ของตนเอง ,การจัดทำแนวกั้นไฟในพื้นที่ไฟไหม้ซ้ำซ้อน
จำนวน 3,500
ก.ม.
ทั้งยังมีการให้ความรู้การทำกล่องลดปริมาณเชื้อเพลิง
ทีได้จาก ใบไม้แห้ง กิ่งไม้ ดิน เพื่อนำไปใช้เป็นปุ๋ยต่อไป ,รวมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ โครงการ “ไม่เผาป่า รักธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์” โดยมีการรณรงค์ทั้ง 9
จังหวัดภาคเหนือ จัดทำกิจกรรม “วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า” ซึ่งจะจัดทุกวันที่
24 เดือน ก.พ.ของทุกปี และจัดการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน และป้ายประชาสัมพันธ์ และการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ได้ใช้เทคโนโลยีGIS ในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าโดยใช้ข้อมูลจุดพิกัดความร้อน
และติดตามผลผ่านช่องทางเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นไลน์
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
นอกจากแผนมาตรการในการดำเนินงานที่กรมป่าไม้ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว กรมป่าไม้
ยังได้ประสานงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือสอดส่องดูแลมิให้มีการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าที่เสียหายจากการเกิดไฟป่า
รวมถึงการจุดเผาวัชพืชทางการเกษตร/ตอซังข้าว ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุของการเกิดไฟป่าได้
โดยกรมป่าไม้เองได้ประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช ทหาร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
เครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่าและ อปท. ในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมไฟป่าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการเกิดไฟป่าบริเวณใด สามารถแจ้งกลับมาที่สายด่วนกรมป่าไม้ หมายเลข 1310 กด 3
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและประสานงานไปยังหน่วยงานที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ
และเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ทันเวลา