เทศบาลลำปางจัดประชุมหาข้อสรุปการก่อสร้างศาลหลักเมืองใหม่
ยังคงถกเรื่องย้ายหรือไม่ย้ายเสาหลักเมือง
เพื่อสร้างความสง่างามให้คนเข้ามากราบไหว้
ซึ่งปัญหาหลักยังคงเป็นเรื่องนกพิราบนับร้อยตัวที่มาอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 เทศบาลนครลำปาง ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในโครงการการก่อสร้างปรับปรุงอาคารศาลหลักเมือง
จังหวัดลำปาง ณ ห้องประชุมราชาวดี โดยมี นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
เป็นประธานเปิดการประชุม ซึ่งภายในงานได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ด้วย
นายฤทธิพงศ์
เตชะพันธ์ รองผู้วาราชการจังหวัดลำปาง
ได้กล่าวถึงความสำคัญต่อการก่อสร้างและปรับปรุงศาลหลักเมือง
เนื่องจากทางศาลหลักเมืองได้ขาดการดูแลจากหน่วยงานรัฐมาเนิ่นนาน
ซึ่งเราควรมีการริเริ่มในการปรับปรุง
ซึ่งทางเทศบาลมีนโยบายหลักคือไม่ต้องการย้ายศาลหลักเมือง
เนื่องจากศาลหลักเมืองมีอายุความเป็นมายาวนานหลายปี
และประเด็นที่สองคือต้องการให้ศาลหลักเมืองมีภูมิทัศน์ที่สวยงามสอดคล้องกับ
ศิลปวัฒนธรรมของชาวลำปาง
รวมทั้งเรื่องของการบำบัดน้ำเสีย
เพื่อให้ศาลหลักเมืองเป็นจุดศูนย์กลางในการท่องเที่ยวในอนาคต
จากนั้นภายในที่ประชุมทางเทศบาลนครลำปาง
ได้มีการกล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดการก่อสร้างปรับปรุงอาคารศาลหลักเมือง
เนื่องจากเป็นการปรับปรุงทัศนียภาพสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดลำปางเกิดความภาคภูมิใจในท้องถิ่น
และเป็นแรงบันดาลใจต่อแนวคิดที่เป็นรากเหง้าทางอารยธรรมของคนในท้องถิ่น
ลำปาง เป็นการเสริมสร้างอาคารให้มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมท้องถิ่น
เพื่อเป็นการสนองตอบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง
โดยจะจัดทำการรื้ออาคารศาลหลังเมืองเดิมออกแล้วทำการก่อสร้างอาคารใหม่
พร้อมปรับปรุงบริเวณโดยรอบ และมีการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง
โดยใช่งบประมาณในการก่อสร้างจำนวน
9 ล้านบาท
จากที่ประชุมทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงประชาชนส่วนใหญ่ได้ มีความคิดเห็นให้แก้ไขปัญหาเรื่องของนกพิราบ
เนื่องจากเป็นปัญหาที่มีมายาวนาน และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งเรื่องของความสะอาดในบริเวณดังกล่าว
จึงอยากให้ทางเทศบาลแก้ไขปัญหาในจุดนี้เป็นส่วนแรก ประกอบกับเรื่องการย้ายเสาหลักเมืองออกมาไว้ตรงกลาง
เพื่อให้เปิดประตูได้รอบด้าน
นายประสงค์ แสงแก้ว
ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า การสร้างศาลหลักเมืองตามรูปแบบมณฑปนั้นเป็นรูปแบบทางศาสนาพราม ซึ่งการสร้างศาลหลักเมืองไม่เกี่ยวกับศาสนาแต่อย่างใด จึงขอให้ทางเทศบาลพิจารณาในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องสถานที่ตั้งของศาลหลักเมืองที่หลายท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานที่แห่งนี้อับและแคบไม่เหมาะต่อการตั้งศาลหลักเมือง
นายอำพร เทพปินตา
ข้าราชการบำนาญ ได้ให้ความเห็นว่า สถาน
ที่เดิมมีความแคบมากและเป็นที่อับซึ่งหากมีการปรับปรุงใหม่ก็อาจจะไม่ต่าง
จากเดิมมากจึงอยากให้ทางเทศบาลพิจารณาเรื่องที่ตั้งของศาลหลักเมืองว่าควร
จัดตั้งอยู่ในที่แห่งใดรวมถึงเรื่องการย้ายเสาหลักเมืองให้อยู่ตรงกลาง
พื้นที่เพื่อให้เป็นจัตุรมุขซึ่งเป็นฮวงจุ้ยที่ดีสำหรับเมืองลำปาง
นายคงศักดิ์
อินทราชัย เจ้าของโรงแรมเอเชียลำปาง กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า
ในการสร้างศาลหลักเมืองในแต่ละครั้งควรดูทั้งความเหมาะสมและฮวงจุ้ยด้วยว่า
การตั้งศาลในแต่ละทิศมีความหมายต่อเมืองลำปางอย่างไร และต้องตั้งในตำแหน่งใดเพื่อให้เมืองลำปางเจริญยิ่งๆขึ้นไป
ทั้งนี้การสร้างศาลหลักเมืองควรสร้างในจุดที่ประชาชนสามารถเข้าได้ทั้งสี่ทิศที่เราเรียกกันว่าจัตุรมุข
เพื่อความเป็นมงคลแก่นครลำปางของเรา
นอกจากนี้ยังคงมีประเด็นการก่อสร้างสำหรับ
ผู้ที่จะเข้ามารับเหมา
ควรมีมาตรฐานและเชื่อถือได้
และมีมาตรการในการดูแลในอนาคตเพื่อให้การก่อสร้างปรับปรุงครั้งนี้ไม่เสีย
เปล่า
รวมถึงความคิดเห็นในเรื่องของการขอพื้นที่ถนนบริเวณข้างศาลแขวงลำปาง
เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานในส่วนนี้มากนัก
ซึ่งอาจจะนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างศาลหลักเมืองเพื่อความกว้างขวางและสวย
งามยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายความคิดเห็นในที่ประชุมในครั้งนี้
ที่เป็นข้อถกเถียง
และเป็นโจทย์ใหญ่ให้ทางเทศบาลนครลำปางได้พิจารณาเห็นควรกันต่อไปว่า
สุดท้ายแล้วศาลหลักเมืองลำปางเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต ส่วนทางด้านนายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ได้กล่าวปิดท้ายหลังจากได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนแล้ว
ได้มีความเห็นว่าในการจัดการปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน
ซึ่งปัญหาที่พบหลักๆทั้งเรื่องของนกพิราบที่สร้างความกังวลใจให้กับประชาชน
เรื่องสถาปัตยกรรมในการออกแบบศาลหลักเมืองใหม่
รวมถึงการบริหารงบประมาณและการดูแลในอนาคต ซึ่งจะนำไปพิจารณาและปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป