เกือบ 2 ทศวรรษที่หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ได้ทำหน้าที่สื่อของคนลำปาง จากพื้นฐานเทคนิคการแพทย์ อันผิดแผกจากนักหนังสือพิมพ์ทั่วไป แต่ “สุรศักดิ์ ภักดี” ก็ก่อกำเนิดหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งขึ้นมาในคุณภาพไม่แพ้นักหนังสือพิมพ์ที่ร่ำเรียนมาโดยตรงในสายนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ และแม้มิได้ถูกเคี่ยวกรำในบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบของสื่อที่มีต่อสังคมเหมือนหลายคนที่เรียนมาในระบบ
แต่ลานนาโพสต์ ภายใต้ร่างเงาสุรศักดิ์ ภักดี
ก็ดำรงตนในฐานะสื่อมวลชนที่ดี ซื่อสัตย์ต่อคนอ่าน ยึดมั่นในหลักการ “พูดความจริง”
เป็นที่ยอมรับและเชื่อถืออย่างสูงยิ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ตลอดเวลา ราว 4 ปี ที่ แร็ค
ลานนา
มารับหน้าที่สานต่อเจตนารมณ์ และจิตวิญญาณคนข่าว
เป็นลานนาโพสต์รุ่นที่ 2
รุ่นต่อยอดจากรากฐานพร้อมด้วยทีมงานทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจที่จะสร้างสรรค์สื่อคุณภาพของคนลำปาง แม้ว่าวันนี้ แร็ค ลานนา จะยังไม่ได้เศษเสี้ยวของพ่อสุรศักดิ์ ภักดี แต่ด้วยความที่ได้ติดสอยห้อยตามตั้งแต่ยังเป็นละอ่อนน้อยผูกผมเปีย เดินตามหลังผู้ใหญ่ ทำให้ได้เห็นเบื้องหน้าและเบื้องหลังของวงการ ครั้น แร็ค
ลานนา
ได้เติบโตจนรู้ความได้มีโอกาสเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา
พ่อก็ไม่เคยบังคับว่าต้องเรียนนิเทศศาสตร์ ไม่ได้บังคับว่าต้องสานต่องานสื่อมวลชน หากแต่ยังให้อิสระในการ “เลือก” เรียนในสิ่งที่ลูกอยากจะเรียน จนสำเร็จการศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และดั้นด้นเรียนต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เรียกได้ว่าวิทยาศาสตร์ล้วนๆ แถมด้วยประสบการณ์ทำงานในเมืองหลวงในด้านการตลาดและการเป็นผู้ช่วยผู้บริหารที่ทำให้ได้ประสบการณ์อีกมากมาย หากแต่ประสบการณ์เหล่านั้นอาจไม่เกี่ยวข้องกับวงการสื่อสารมวลชนแม้แต่น้อย
อาจเรียกว่าเป็นคนข่าว ข้าวนอกนา แต่เป็นข้าวบนพื้นที่ข่าวที่เขียวไสว
เปี่ยมด้วยคุณภาพ
เมื่อถึงคราวที่ต้องมารับบทบาทในการสานต่อภารกิจการทำหน้าที่สื่อ ยิ่งในยุคสมัยที่ต้องมีการปฏิรูปสื่ออย่างในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สื่อกลายเป็นอุตสาหกรรมทำให้ความน่าเชื่อถือดูจะถูกสั่นคลอนด้วยสื่อใหม่ แต่หากเรายึดจริยธรรม และทำหน้าที่บนพื้นฐานจรรยาบรรณ และยึดหลัก “เสรีภาพ
บนความรับผิดชอบ” ในการนำเสนอข้อเท็จจริง
ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะแล้ว ลานนาโพสต์เชื่อว่าจะยังมีผู้ให้การสนับสนุนเราจนทำให้เรามีก้าวต่อไปที่เดินหน้าด้วยความมั่นคง แข็งแรง แม้ว่าจะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
จนถึงวันนี้
ลานนาโพสต์ อาจจะไม่ต้องตอบคำถามอีกว่า เราจะพ่ายแพ้ เราจะล้มเหลวไหม เมื่อผู้สร้างลานนาโพสต์ให้มีชีวิตขึ้นมา
รวมทั้งบรรดาผู้ใหญ่ของลานนาโพสต์ที่เคยเป็นหลัก เป็นหลังอิงที่วางใจได้ในการทำงานต่างล่วงหน้าลาลับไปแล้วทั้งสิ้น
เนื่องเพราะการส่งต่อภารกิจจากรุ่นสู่รุ่นนั้น
คือการถ่ายทอดจิตวิญญาณในการต่อสู้เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม
ต่อชุมชนบ้านเกิด ซึ่งได้แสดงผลออกมาในภาพของการเปลี่ยนแปลง
การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการยกระดับการเป็นสื่อท้องถิ่น สื่อภูธรฉบับเล็กๆที่ได้รับการยอมรับในคุณภาพระดับประเทศ
เพราะ
ลานนาโพสต์ไม่ได้เป็นของใคร
เพราะเราไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะใช้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้
เป็นเครื่องมือในการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ใดๆที่ไม่ชอบธรรม
หากแต่เป้าหมายสำคัญคือการทำหน้าที่สื่อที่เคารพความจริง
ซื่อสัตย์ต่อคนอ่าน
และความพยายามในการสร้างทัศนคติใหม่ๆให้กับสังคมเมืองที่มักมองหนังสือพิมพ์
ท้องถิ่นด้วยความดูแคลน
ด้วยความรู้สึกว่าเป็นหนังสือพิมพ์บ้านนอก ที่หาสาระไม่ได้
นอกจากการเสนอข่าวฉาบฉวย
หรือเป็นเพียงกระบอกเสียงของกลุ่มนักการเมือง
หรือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเท่านั้น
ลานนาโพสต์
ไม่ได้เป็นหนังสือพิมพ์ที่นำเสนอข่าวคุณภาพของท้องถิ่น แต่ประการเดียว หากภาพของลานนาโพสต์
คือ “พื้นที่สาธารณะ” ของคนในชุมชน ของปัญญาชนในชุมชม ในการสะท้อนความคิด
มุมมองต่างๆ ที่มีต่อสังคมทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติด้วย กล่าวได้ว่า
ลานนาโพสต์เป็นหนังสือภูมิภาค ที่มีพื้นที่ มีคอลัมน์ มีบทความ
มีบทวิเคราะห์วิจารณ์ ทั้งในเรื่องราวของสังคม เศรษฐกิจและการเมืองมากที่สุดฉบับหนึ่งในประเทศนี้
ปีที่
19
แล้ว ลานนาโพสต์ซึ่งเป็นเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของสุรศักดิ์ ภักดี
ยังคงมีชีวิตอยู่ และเป็นชีวิตที่มั่นคง แข็งแรงขึ้นเป็นลำดับ “ลานนาโพสต์”
จะยังคงสืบทอดภารกิจนี้ด้วยความแน่วแน่ มั่นคง
และด้วยความสำนึกในการตอบแทนคุณบ้านเกิดตลอดไป