เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 29 เม.ย.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจาก สภ.เสริมงามว่าขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธร จ.ลำปาง
ร่วมตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้ออิซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ แค็ป สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน
ผน 1056 เชียงใหม่
ซึ่งได้ขับรถแหกด่านตรวจและพบนำมาจอดทิ้งไว้ ส่วนคนขับและผู้โดยสารจำนวน 2 คน หลบหนีไป คาดว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ภายในรถคันดังกล่าว
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที
จากนั้น พ.ต.อ.สุเทพ ฐานปวรกุล รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง
จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.อ.บุญเทียม ฮาวบุญปั๋น ผกก.สภ.เสริมงาม
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ท.วัชรชล เปียงชมภู รอง
สวป.สภ.เสริมงาม ได้นำกำลังมาตั้งจุดตรวจอยู่บริเวณป้อมยามทุ่งงาม เขตบ้านแม่กึ๊ด
หมู่ 1 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม เพื่อป้องกันและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย
และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่
จากนั้นได้มีรถกระบะยี่ห้ออิซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ แค็ป สีบอร์นเงิน ทะเบียน ผน
1056 เชียงใหม่ ขับมุ่งหน้ามาจาก อ.เกาะคา เมื่อสังเกตเห็นเป็นป้ายทะเบียนต่างจังหวัด จึงเรียกให้จอดและได้เข้าไปขอตรวจดูใบขับขี่คนขับรถ
ซึ่งภายในรถมีชายโดยสารมาด้วยกัน 2 คน โดยคนขับได้ยื่นบัตรประชาชนให้
ทราบชื่อ นายวิรัตน์ แซ่ซัง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่
32 หมู่ 9 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
พอเห็นนามสกุลว่าเป็นชาวเขา เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้นำรถเข้าจอดข้างทาง
แต่ปรากฏว่านายวิรัตน์ได้เหยียบคันเร่งขับรถหลบหนี เข้าไปเขตบ้านนาบอน หมู่ 2 ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ติดตามอยู่ ได้มีรถบรรทุกขวางข้างหน้าอยู่ 1
คัน จึงทำให้คลาดกันกับรถของนายวิรัตน์
เมื่อตามไปแล้วไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงย้อนกลับไปดูตามเส้นทางที่ขับติดตามมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งพบว่ารถเลี้ยวเข้าไปจอดรถทิ้งไว้ในป่าติดกับลำห้วยซึ่งอยู่จากด้านหลังโรงฆ่าสัตว์ห่างไปประมาณ
50 เมตร เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ กลับไม่พบตัวนายวิรัตน์และเพื่อนที่โดยสารมา
คาดว่าวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า
จึงได้ตรวจสอบรถคันดังกล่าว กระทั่งเจอกระเป๋าเป้สีเขียว 3 ใบวางอยู่ด้านหลังแค็ป เปิดดูในกระเป๋าพบห่อยาบ้าขนาดใหญ่
จึงได้นำมาตรวจสอบ พร้อมกับยกรถมาไว้ที่ สภ.เสริมงาม เพื่อตรวจค้นอย่างละเอียด และจากการตรวจนับ
มียาบ้าจำนวน 202 ห่อ มีตัวอักษร YI
ติดอยู่ทุกห่อ รวมทั้งหมด 404,000 เม็ด
วันที่
30 เม.ย.58 พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดดังกล่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธร
จ.ลำปาง โดยกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มลักลอบขนยาเสพติดพยายามใช้เส้นทางสายรองในการหลบเลี่ยงด่านตรวจใหญ่
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหันมาตั้งด่านตรวจและคอยจับตาสังเกตรถยนต์ต่างจังหวัดที่วิ่งผ่านในพื้นที่หลายๆครั้ง จึงต้องสุ่มตรวจและตรวจสอบและพบว่าจะสามารถตรวจค้นจับกุมยาบ้าได้ตลอด
จึงได้สั่งการไปยัง
สภ.ต่างๆที่มีเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดที่เป็นถนนสายรองให้เข้มงวดกวดขัน ตั้งด่านตรวจอย่างต่อเนื่อง
เพื่อป้องกันการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้าไปในพื้นที่ภาคกลาง ส่วนมูลค่ายาเสพติดที่ตรวจยึดในครั้งนี้หากหลุดเข้าไปยังตลาดทางภาคกลางแล้วมูลมีมูลค่ามากกว่า
100 ล้านบาทเลยทีเดียว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1026 วันที่ 1 - 7 พฤษภาคม 2558)