คณะอนุกรรมาธิการการประสารภารกิจ
สปช.ด้านการปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง ติดตามข้อเท็จจริง กรณีอดีต
ผวจ.ลำปางพร้อมพวกอีก 15 คน ละเว้นดำเนินการกับผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
อ.แม่เมาะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้
ด้านอดีต ผวจ.ย้ำทำตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน เผยผู้ถูกกล่าวหาเตรียมฟ้องกลับ
เมื่อวันที่
11 พ.ค.58 นายชาญวิทย์ วสยางกูร ประธานอนุกรรมาธิการการประสานภารกิจสภาปฏิรูปแห่งชาติ
ด้านการปกครองท้องถิ่นและคณะ ลงพื้นที่จังหวัดลำปางเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ชี้มูลความผิด
นายดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางพร้อมกับพวกรวม 15 คน ข้อกล่าวหาละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม
อ่างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หล่วง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
อำเภอแม่เมาะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ตามที่นายสมยงค์ หมูแก้วเครือ
ยื่นร้องเรียนต่อ
ปปช.โดยการก่อสร้างใช้เงินจากกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจังหวัดลำปาง
ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน
จากนั้นคณะอนุกรรมาธิการฯ
ได้เข้าพบ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และผู้เกี่ยวข้อง
ที่ห้องประชุมเวียงละกอน ศาลากลางจังหวัดลำปาง โดยมี นายดิเรก ก้อนกลีบ
อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น
และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนถูกดำเนินการทางวินัยให้ออกจากราชการไปแล้ว
นายธานินทร์
สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า สืบเนื่องจากราษฎรที่อพยพ
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้รับความเดือดร้อน
ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร
จึงขอสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจังหวัดลำปาง
เพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม ต.จางเหนือ อ่างเก็บน้ำแม่หลวงตอนบน
ต.นาสัก อ่างเก็บน้ำแม่ทู ต.บ้านดง และอ่างเก็บน้ำบ้านปงชัย ต.แม่เมาะ
ซึ่งได้ก่อสร้างเรียบร้อยไปแล้วแต่ถูกร้องเรียนว่าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ในเขตอำเภอแม่เมาะ ซึ่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง)
ได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด
ขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด และจังหวัดได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป่าไม้ ขอใช้ประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำ
เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตั้งแต่ปี 2557
แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
นายดิเรก
ก้อนกลีบ ตั้งข้อสังเกตว่า การอพยพราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
ดำเนินการมาถึง 7 ครั้ง และทุกครั้งได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมจากกรมป่าไม้แล้ว
แต่ยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ และเพิ่งทราบว่าพื้นที่ก่อสร้างอ่าง
3 อ่าง อยู่ในเขตที่กระทรวงกลาโหม
โดยค่ายประตูผาขอใช้ประโยชน์ ขณะที่อ่างเก็บน้ำอีก 1 แห่ง
คืออ่างปงชัย ได้คืนให้ กฟผ.เป็นผู้รับผิดชอบ การดำเนินการที่ผ่านมาทั้งตนเองและกำนันผู้ใหญ่บ้าน
และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนที่เดือดร้อน การชี้มูลว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 3 คน
ถูกหน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยให้พ้นออกจากราชการ
ทั้งที่ไม่มีสำนวนใดที่บ่งชี้ว่าทุจริตงบประมาณแผ่นดิน
ผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นผู้นำท้องถิ่น ได้เตรียมข้อมูลหลักฐานยื่นต่อศาลปกครอง
และขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
นายชาญวิทย์
กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียน
ซึ่งการตรวจติดตามพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่รู้
ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯ จะได้รวบรวมหลักฐานจากทุกฝ่าย
เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายต่อไป
สำหรับเรื่องเดิม
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.55 ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
หรือ ป.ป.ช. ได้ออกบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา หลังจากเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 53
ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งที่ 526/2553 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีนายดิเรก
ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางในขณะนั้น พร้อมพวกรวม 15 คน
ประกอบด้วย นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายอำเภอแม่เมาะ , นายประสาน ฝ่ายคำมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง
ปลัดอำเภอแม่เมาะ , นายมงคล ธงสิบเจ็ด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ทำหน้าที่ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 17 (แม่จางตอนขุน),
นายถนอม
โพธิวิจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5
ทำหน้าที่ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 38 (ท่าสี) , นายอำนวย
ศรีบุญชู เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) , นายธนชาติ มังกิตะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง
เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง นายสุทัศน์ กาวิชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง
เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ทำหน้าที่
หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 17 (แม่จางตอนขุน), นายสว่าง
จาคำมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจางเหนือ , นายพิสิฐ
ทักษิณาพิมุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสัก , นายมนตรี
จำปาคำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กำนันตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ , นายปรีดา ผลดี
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านดง
อำเภอแม่เมาะ ,นายคำเภา บุญมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ , นายวินัย ตันใจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ และนายวิช อินจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
ในคดีละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ กิ่วข้าวหลาม
อ่างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หล่วง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ
เห็นว่าการดำเนินการก่อสร้างอย่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งโดยไม่รอใบอนุญาตให้ก่อสร้างจากกรมป่าไม้
โดยได้จัดทำสัญญาก่อสร้างให้ผู้รับจ้างและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
จึงเป็นความผิดทางวินัยฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือปฏิบัติหรือ
ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต กระทั่งเดือน มิ.ย.57 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
15 ราย ดังกล่าว