ผักตบชวาแพร่หนักเต็มผืนน้ำวัง ชาวบ้านใกล้เคียงเผยอยู่มากว่า 70 ปีไม่เคยเห็น เชื่อสาเหตุจากปัญหาเดิมๆคือการปล่อยน้ำเสีย ด้านเทศบาลเมืองเขลางค์เตรียมหารือกรมเจ้าท่าในการกำจัด
แม่น้ำวังสายน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวลำปาง ต้องประสบปัหาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้งแม่น้ำแห้งขอดและเกิดการเน่าเสีย เป็นที่มาของวัชพืชน้ำหลายประเภท แม้ว่าที่ผ่านทางทางเทศบาลนครลำปางจะแก้ปัหาด้วยการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์แม่น้ำวัง แต่ก็มีผลเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น เมื่อน้ำแห้งและน้ำนิ่งลงก็กลับมาเน่าเสียอีกเหมือนเดิม และล่าสุดแม่น้ำวังในเขตเทศบาลนครลำปางยังประสบปัหาผักตบชวาที่ลอยอยู่เต็มแม่น้ำ แต่เมื่อทางกรมเจ้าท่าได้มาทำการขุดลอกท้องน้ำให้ลึกขึ้นทำให้น้ำไหลได้สะดวก ประกอบกับทางฝายยางเฉลิมพระเกียรติ ได้ปรับลดยางลงเพื่อปล่อยน้ำออกไป ทำให้ผักตบลอยไปตามแม่น้ำ เข้าไปยังเขตของเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ซึ่งปัจจุบันได้ประสบปัหาผักตบชวาแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เขตชุมชนบ้านต้า หมู่ 10 ต.ชมพู บ้านหมอสม และบ้านวังแคว้ง หมู่ 2 ต.ปงแสนทอง ซึ่งอยู่สองฝากฝั่งแม่น้ำวัง โดยผักตบชวาได้อัดแน่นเป็นทางน้ำ กว้างประมาณ 50 เมตร ส่วนความยาวประมาณ 500 เมตร
นายเลา การะกัน อายุ 75 ปี คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านหมอสม กล่าวว่า เมื่อก่อนแม่น้ำวังใสสะอาด มองเห็นพื้นทราย สามารถลงไปอาบเล่นได้สบายๆ และน้ำไม่ลึกบ้าน เดินข้ามฝั่งไปหากันได้ โดยชาวบ้านนิยมน้ำผักบุ้งมาปล่อยไว้ริมน้ำ เพื่อปลูกขายและนำไปทำกิน ริมฝั่งแม่น้ำจะก็มีการปลูกดอกบานไม่รู้โรย และดอกหงอนไก่ไว้ขาย ซึ่งดอกไม้บานสวยงามทั้งสองฝั่ง ไม่เคยมีปัหาผักตบชวามาก่อนเลย แต่พอช่วงหลังมาได้มีการขุดทรายเพื่อนำไปขาย ทำให้แม่น้ำลึกและไม่มีพื้นที่ให้ทำการเพาะปลูกอีก ชาวบ้านจึงได้เลิกปลูกดอกไม้ไป ตั้งแต่อาศัยอยู่ที่นี่มาตนก็เพิ่งเคยเห็นผักตบชวาที่มากมายขนาดนี้มาก่อน และเห็นว่าควรจะแก้ปัหา อาจจะตักขึ้นเอาไปสับให้ละเอียดแล้วเอามาทำเป็นปุ๋ยก็ได้ เชื่อว่ามีชาวบ้านต้องการเป็นจำนวนมาก แต่หากจะให้ชาวบ้านไปตักเอามาเองนั้น คงลำบากเพราะผักตบชวาต้นให่ น้ำหนักมาก ลอยอยู่ในน้ำ ชาวบ้านไม่มีอุปกรณ์ จึงต้องอาศัยทางเทศบาลเข้ามาช่วยเหลือแก้ปัหานี้
นางลิด คำวัง อายุ 63 ปี เปิดเผยว่า แม่น้ำวังที่ไหลผ่านหมู่บ้านไม่เคยมีผักตบชวามากขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่เด็กก็ยังไม่เคยเห็น ซึ่งเดิมจะมีแต่ผักบุ้งที่ชาวบ้านนำมาปล่อยไว้ เพื่อขายและเก็บไปทำอาหาร ตอนนี้เห็นว่าผักตบชวาแพร่กระจายอยู่จำนวนมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด แต่ก็ต้องการให้หน่วยงานเข้ามาแก้ไข กลัวจะมีปัหาน้ำเสียตามมา
นอกจากนั้นพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายอยู่ในละแวกดังกล่าว กล่าวว่า ผักตบชวาน่าจะลอยมาจากเขตเทศบาลนคร หลังจากที่เขื่อนยางปล่อยน้ำออกมา แต่ไม่คิดว่าจะแพร่เร็วขนาดนี้ เพราะเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็เต็มทั่วทั้งผืนน้ำไปหมด
เมื่อสอบถามไปยังเทศบาลเมืองเขลางค์นคร เจ้าหน้าที่เทศบาลฯได้แจ้งให้ทราบว่า ทางส่วนที่เกี่ยวข้องได้หารือถึงปัหาผักตบชวาเช่นกัน แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้น จะต้องสอบถามไปยังกรมเจ้าท่า ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลแม่น้ำวังอยู่ หากจะ ทำอะไรพลการอาจจะมีปัหาเรื่องกฎหมายได้ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ จะมีส่วนกับการเกิดปัหานี้หรือไม่ ทางเทศบาลฯแจ้งว่าขอตรวจสอบข้อมูลก่อน
ด้านนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ทสจ.ลำปาง กล่าวว่า การแพร่กระจายของผักตบชวามีปัจจัยง่ายๆ คือ น้ำนิ่ง และมีธาตุอาหารในน้ำสมบูรณ์ ซึ่งธาตุอาหารในน้ำก็มาจาก 2 ส่วนหลักคือ น้ำจากครัวเรือน และน้ำจากการเกษตร ปัจจุบันบ้านเรือนก็ยังทิ้งน้ำเสียลงในแม่น้ำวังอยู่ อาจจะไม่ได้ทิ้งลงในจุดที่ผักตบก่อตัวเจริเติบโต แต่ทิ้งลงจุดใดจุดหนึ่งและไหลมาตามแม่น้ำ มาเจอจุดที่น้ำนิ่งผักตบชวาก็ดูดซึมและแพร่ขยายพันธ์ุได้เป็นอย่างดี ซึ่งการจะแก้ปัหาต้องแก้ที่ต้นเหตุคือ ตรวจสอบการทิ้งน้ำเสียจากครัวเรือน โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หรือให้มีการดัก ไขมัน มีบ่อซึม ก่อนที่จะทิ้งน้ำลงแม่น้ำวัง ลำพังจะให้หน่วยงานมาแก้ไขแต่ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมก็เหมือนกับการทิ้งงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ หากแก้ปัหาไม่ถูกจุดแล้วปัหาที่เกิดขึ้นก็ไม่มีทางจบ ส่วนการแก้ปัหาเบื้องต้นเมื่อพบว่าผักตบชวาเกิดการขยายพันธุ์ก็ควรจะตักขึ้นตั้งแต่ตอนที่ยังเล็ก เพราะหารอให้แก่ตัวเต็มที่แล้ว ดอกจะให่แข็งแรง มีรากยาว มีน้ำหนักมากจะยากต่อการกำจัดมากขึ้น จึงควรจะแก้ไขแต่เนิ่นๆดีกว่า
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1032 วันที่ 12 - 18 มิถุนายน 2558)