วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ผักตบรุกแม่วัง ยึดเต็มผืนน้ำ ชาวบ้านหวั่นน้ำเสีย อยู่มา70ปีไม่เคยเกิด


ผักตบชวาแพร่หนักเต็มผืนน้ำวัง ชาวบ้านใกล้เคียงเผยอยู่มากว่า 70 ปีไม่เคยเห็น  เชื่อสาเหตุจากปัญหาเดิมๆคือการปล่อยน้ำเสีย   ด้านเทศบาลเมืองเขลางค์เตรียมหารือกรมเจ้าท่าในการกำจัด
           
แม่น้ำวังสายน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวลำปาง ต้องประสบปั­หาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้งแม่น้ำแห้งขอดและเกิดการเน่าเสีย เป็นที่มาของวัชพืชน้ำหลายประเภท แม้ว่าที่ผ่านทางทางเทศบาลนครลำปางจะแก้ปั­หาด้วยการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์แม่น้ำวัง แต่ก็มีผลเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น  เมื่อน้ำแห้งและน้ำนิ่งลงก็กลับมาเน่าเสียอีกเหมือนเดิม และล่าสุดแม่น้ำวังในเขตเทศบาลนครลำปางยังประสบปั­หาผักตบชวาที่ลอยอยู่เต็มแม่น้ำ แต่เมื่อทางกรมเจ้าท่าได้มาทำการขุดลอกท้องน้ำให้ลึกขึ้นทำให้น้ำไหลได้สะดวก ประกอบกับทางฝายยางเฉลิมพระเกียรติ ได้ปรับลดยางลงเพื่อปล่อยน้ำออกไป ทำให้ผักตบลอยไปตามแม่น้ำ เข้าไปยังเขตของเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ซึ่งปัจจุบันได้ประสบปั­หาผักตบชวาแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เขตชุมชนบ้านต้า หมู่ 10 .ชมพู  บ้านหมอสม และบ้านวังแคว้ง หมู่ 2 .ปงแสนทอง ซึ่งอยู่สองฝากฝั่งแม่น้ำวัง  โดยผักตบชวาได้อัดแน่นเป็นทางน้ำ กว้างประมาณ  50  เมตร ส่วนความยาวประมาณ 500 เมตร
           
นายเลา การะกัน อายุ 75 ปี  คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านหมอสม กล่าวว่า เมื่อก่อนแม่น้ำวังใสสะอาด มองเห็นพื้นทราย สามารถลงไปอาบเล่นได้สบายๆ และน้ำไม่ลึกบ้าน เดินข้ามฝั่งไปหากันได้ โดยชาวบ้านนิยมน้ำผักบุ้งมาปล่อยไว้ริมน้ำ เพื่อปลูกขายและนำไปทำกิน  ริมฝั่งแม่น้ำจะก็มีการปลูกดอกบานไม่รู้โรย และดอกหงอนไก่ไว้ขาย ซึ่งดอกไม้บานสวยงามทั้งสองฝั่ง ไม่เคยมีปั­หาผักตบชวามาก่อนเลย แต่พอช่วงหลังมาได้มีการขุดทรายเพื่อนำไปขาย ทำให้แม่น้ำลึกและไม่มีพื้นที่ให้ทำการเพาะปลูกอีก ชาวบ้านจึงได้เลิกปลูกดอกไม้ไป   ตั้งแต่อาศัยอยู่ที่นี่มาตนก็เพิ่งเคยเห็นผักตบชวาที่มากมายขนาดนี้มาก่อน  และเห็นว่าควรจะแก้ปั­หา อาจจะตักขึ้นเอาไปสับให้ละเอียดแล้วเอามาทำเป็นปุ๋ยก็ได้ เชื่อว่ามีชาวบ้านต้องการเป็นจำนวนมาก แต่หากจะให้ชาวบ้านไปตักเอามาเองนั้น คงลำบากเพราะผักตบชวาต้นให­่ น้ำหนักมาก ลอยอยู่ในน้ำ ชาวบ้านไม่มีอุปกรณ์ จึงต้องอาศัยทางเทศบาลเข้ามาช่วยเหลือแก้ปั­หานี้
           
นางลิด คำวัง อายุ 63 ปี  เปิดเผยว่า แม่น้ำวังที่ไหลผ่านหมู่บ้านไม่เคยมีผักตบชวามากขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่เด็กก็ยังไม่เคยเห็น ซึ่งเดิมจะมีแต่ผักบุ้งที่ชาวบ้านนำมาปล่อยไว้ เพื่อขายและเก็บไปทำอาหาร  ตอนนี้เห็นว่าผักตบชวาแพร่กระจายอยู่จำนวนมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด แต่ก็ต้องการให้หน่วยงานเข้ามาแก้ไข กลัวจะมีปั­หาน้ำเสียตามมา
           
นอกจากนั้นพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายอยู่ในละแวกดังกล่าว กล่าวว่า ผักตบชวาน่าจะลอยมาจากเขตเทศบาลนคร หลังจากที่เขื่อนยางปล่อยน้ำออกมา แต่ไม่คิดว่าจะแพร่เร็วขนาดนี้ เพราะเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็เต็มทั่วทั้งผืนน้ำไปหมด
           
เมื่อสอบถามไปยังเทศบาลเมืองเขลางค์นคร เจ้าหน้าที่เทศบาลฯได้แจ้งให้ทราบว่า ทางส่วนที่เกี่ยวข้องได้หารือถึงปั­หาผักตบชวาเช่นกัน แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้น จะต้องสอบถามไปยังกรมเจ้าท่า ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลแม่น้ำวังอยู่ หากจะ  ทำอะไรพลการอาจจะมีปั­หาเรื่องกฎหมายได้ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ จะมีส่วนกับการเกิดปั­หานี้หรือไม่ ทางเทศบาลฯแจ้งว่าขอตรวจสอบข้อมูลก่อน
           
ด้านนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ทสจ.ลำปาง กล่าวว่า การแพร่กระจายของผักตบชวามีปัจจัยง่ายๆ คือ น้ำนิ่ง และมีธาตุอาหารในน้ำสมบูรณ์ ซึ่งธาตุอาหารในน้ำก็มาจาก 2 ส่วนหลักคือ น้ำจากครัวเรือน และน้ำจากการเกษตร  ปัจจุบันบ้านเรือนก็ยังทิ้งน้ำเสียลงในแม่น้ำวังอยู่  อาจจะไม่ได้ทิ้งลงในจุดที่ผักตบก่อตัวเจริ­เติบโต แต่ทิ้งลงจุดใดจุดหนึ่งและไหลมาตามแม่น้ำ มาเจอจุดที่น้ำนิ่งผักตบชวาก็ดูดซึมและแพร่ขยายพันธ์ุได้เป็นอย่างดี  ซึ่งการจะแก้ปั­หาต้องแก้ที่ต้นเหตุคือ ตรวจสอบการทิ้งน้ำเสียจากครัวเรือน โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หรือให้มีการดัก            ไขมัน มีบ่อซึม ก่อนที่จะทิ้งน้ำลงแม่น้ำวัง ลำพังจะให้หน่วยงานมาแก้ไขแต่ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมก็เหมือนกับการทิ้งงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์  หากแก้ปั­หาไม่ถูกจุดแล้วปั­หาที่เกิดขึ้นก็ไม่มีทางจบ  ส่วนการแก้ปั­หาเบื้องต้นเมื่อพบว่าผักตบชวาเกิดการขยายพันธุ์ก็ควรจะตักขึ้นตั้งแต่ตอนที่ยังเล็ก เพราะหารอให้แก่ตัวเต็มที่แล้ว ดอกจะให­่แข็งแรง มีรากยาว มีน้ำหนักมากจะยากต่อการกำจัดมากขึ้น  จึงควรจะแก้ไขแต่เนิ่นๆดีกว่า


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1032 วันที่  12 - 18 มิถุนายน 2558) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์