อดีตคณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อ.แม่เมาะ นำชาวบ้านแม่เกี๋ยง ต.สบป้าด 30 ราย ร้อง ป.ป.ช. ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ไม่นำเงินมาใช้จริงตามโครงการที่ยื่นเสนอ แต่กลับไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านบางกลุ่มหัวละ 7,000 บาท โดยเลือกให้เฉพาะที่เป็นพวกพ้องของตนเอง ด้าน สมาชิก อบต.หญิง ผู้ถูกกล่าวหาโต้ ยื่นขอโครงการในนามของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จึงช่วยเหลือเฉพาะในส่วนสมาชิกกลุ่ม ยันไม่มีการจ่ายเงินรายบุคคล หรือจ่ายค่าทำโครงการให้เจ้าหน้าที่ พร้อมให้ตรวจสอบได้ทุกเวลา ขณะที่ สตง.สั่งกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องที่ได้รับการร้องเรียน อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน
-ร้อง ป.ป.ช.
เมื่อวันที่ 15 ก.ค.58 เวลา 09.30 น. ชาวบ้านแม่เกี๋ยง หมู่ 7 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ประมาณ 30 คน นำโดยนายสุข กุลพินิจมาลา ซึ่งเป็นอดีตคณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าอำเภอแม่เมาะ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดลำปาง ศาลากลางหลังเก่า ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง ให้ตรวจสอบเงินโครงการของบ้านแม่เกี๋ยง ปี 2557-2558 ที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เนื่องจากกลุ่มพวกตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว โดยมีนายวรวิทย์ อลังการนันท์ เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริต ประจำสำนักงาน ป.ป.ช.ลำปาง เป็นผู้รับหนังสือ
-ไม่นำเงินไปใช้จริง
นายสุข เปิดเผยว่า ในปี 2557 กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้จัดสรรงบประมาณตามโครงการที่ชุมชนได้ร่วมกันจัดประชาคมหมู่บ้าน และเสนอของบประมาณเข้าไป ซึ่งเป็นโครงการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด 300,000 บาท โครงการจัดซื้อยาปราบวัชพืช 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 400,000 บาท แต่เมื่อได้รับเงินมาแล้วกลับไม่ได้นำเงินไปจัดซื้อของตามที่ได้ทำประชาคมไว้ โดยมี ส.อบต.หญิง บ้านแม่เกี๋ยง คนหนึ่ง และสามีซึ่งเป็นคณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตำบล และเป็นคนเสนอโครงการ พร้อมพวกอีก 3 คน ได้นำเงินไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านจำนวน 40 คน คนละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 280,000 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 120,000 บาท ส.อบต.หญิงคนดังกล่าว อ้างว่านำไปให้เจ้าหน้าที่กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะคนหนึ่ง ส่วนชาวบ้านอีก 29 คน ที่ไม่ใช่หัวคะแนนของเขา กลับไม่ได้รับเงินหรือใช้ประโยชน์ใดๆจากเงินในส่วนนี้ ดังนั้นตนเองจึงได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายพร้อมพงษ์ วงค์มณีนิล หัวหน้าสำนักงานกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ แต่เวลาล่วงเลยมานานเกือบ 1 ปีแล้วยังไม่มีความคืบหน้าใดๆแจ้งให้ทางกลุ่มตนเองทราบเลย
-แจกจ่ายของเฉพาะคนของตัวเอง
นายสุข กล่าวต่อไปว่า และในปี 2558 นี้ ทาง ส.อบต.หญิง คนดังกล่าวก็ได้มีการยื่นเสนอโครงการเข้ามาอีก ได้มีการทำประชาคมหมู่บ้านเรียบร้อย และได้รับอนุมัติโครงการแล้ว คือ โครงการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด 300,000 บาทท โครงการจัดซื้อปุ๋ย 300,000 บาท โครงการจัดซื้อพันธุ์ข้าว กข.6 300,000 บาท รวมเป็นเงิน 900,000 บาท โดยได้นำเงินไปให้ เจ้าหน้าที่กองทุนฯ ซึ่งเป็นผู้จัดทำโครงการให้ ร้อยละ 13 เป็นเงิน 117,000 บาท และได้นำเงินที่เหลือ 783,000 บาท ไปซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ข้าว กข.6 และซื้อปุ๋ยไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านที่ได้ประชาคม แต่ชาวบ้านที่เหลืออยู่อีกหลายสิบคนกลับไม่ยอมแจกจ่ายให้ การกระทำของ ส.อบต.คนดังกล่าว ได้สร้างความแตกแยกให้กับหมู่บ้าน และยังเป็นการเบียดบังทรัพย์สินที่ชาวบ้านควรจะได้รับมาเป็นของตนเอง และพรรคพวก ทั้งที่ชาวบ้านควรจะได้รับการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังมีส่วนได้ส่วนเสียกับสำนักงานกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ ถือว่าเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
-ถูกคัดชื่อออก
ด้านนางรตี หวังใจ หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่มาร้องเรียน กล่าวว่า ตนเองไปร่วมประชาคมหมู่บ้านด้วยทุกครั้ง ในปี 57 มีผู้เข้าร่วมประชุม 60 คน แต่พอได้รับอนุมัติโครงการฯ ได้เงินมาแล้วกลับนำไปแบ่งให้ชาวบ้าน 40 คน ที่เป็นกลุ่มของตนเอง ทั้งที่คนอื่นก็ได้รับความเดือดร้อนต้องการปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช มาช่วยเหลือทางการเกษตรเหมือนกัน พอประชาคมในปี 58 ตนก็ไปร่วมอีก และได้ยกมือผ่านโครงการให้ด้วย โดยมีทั้งหมด 57 เสียง แต่เมื่อได้เงินมาก็คัดชื่อของตนออก และเอาของที่ซื้อมาไปแจกจ่ายให้คนอื่นแทน ตนร่วมผ่านประชาคมด้วยแต่ก็ไมได้อะไรเลย ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านด้วย
-ป.ป.ช.ขอตรวจสอบ
นายวรวิทย์ อลังการนันท์ เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริต กล่าวว่า ทาง ป.ป.ช.มีหน้าที่ในการตรวจสอบการทุจริตของภาครัฐอยู่แล้ว โดยเฉพาะการนำเงินงบประมาณของแผ่นดินมาใช้จ่ายในทางที่ไม่ชอบ ซึ่งในเรื่องนี้มีขั้นตอนในการดำเนินการ จะต้องมีการสอบสวน พยานหลักฐานให้รอบด้าน จะรับเรื่องไว้เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น
-ส.อบต.โต้ไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยังนางเภรินทร์ คล้ายท่าโรง ส.อบต.บ้านแม่เกี๋ยง หมู่ 7 ต.สบป้าด ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกกล่าวตามหนังสือร้องเรียนดังกล่าว นางเภรินทร์ เปิดเผยกับลานนาโพสต์ว่า เรื่องที่ตนเองถูกกล่าวหานั้น ไม่เป็นความจริงทุกประการ ซึ่งตนเองได้จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาตั้งแต่ปี 2542 และเก็บรวมหุ้นกัน กระทั่งปี 2557 กองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯได้จัดประชาคมเพื่อให้เสนอโครงการของบประมาณเข้าไป จึงได้เสนอโครงการในนามของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยมีสมาชิกทั้งหมด 40 คน และได้มีการทำประชาคมถูกต้องทุกขั้นตอน เมื่อได้รับการอนุมัติก็นำงบประมาณมาช่วยเหลือสมาชิก โดยไม่ได้มีการให้เงิน แต่นำไปซื้อของมาแจกจ่าย เรื่องที่กล่าวอ้างว่าตนนำเงินไปให้เจ้าหน้าที่กองทุนฯ 120,000 บาทนั้นก็ไม่เป็นความจริง โดยกลุ่มวิสาหกิจของตนได้ไปปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการเขียนโครงการ เจ้าหน้าที่ก็ให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการให้เท่านั้น ไม่มีการจ่ายเงินร้อยละ 13 ตามที่อีกกลุ่มหนึ่งบอกแต่อย่างใด
-ช่วยเหลือสมาชิกตามจริง
นางเภรินทร์ กล่าวอีกว่า ในปี 2558 ทางกลุ่มวิสาหกิจฯก็ได้เสนอขอโครงการเข้าไปอีก เมื่อได้งบก็นำมาซื้อเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ฯลฯ แจกจ่ายให้กับสมาชิก ซึ่งเราได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นทุกปี ในส่วนที่กลุ่มของนายสุขบอกว่า ไม่ได้มีการแจกจ่ายให้ชาวบ้านทั่วถึง นั่นเป็นเพราะชาวบ้านอีกเหลือไม่ได้เป็นสมาชิกของเรา เมื่อเรายื่นขอโครงการในนามของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จึงให้สิทธิสมาชิกของกลุ่มเราเอง ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองมีหลักฐานให้ตรวจสอบได้ และพร้อมที่จะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ ยืนยันว่ากลุ่มของตนได้ทำถูกต้องตามระเบียบทุกประการ
-กรรมการกองทุนฯ ตั้งกรรมการสอบ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1037 วันที่ 17 - 23 กรกฏาคม 2558)