มีข้อถกเถียงที่กลายเป็น “ทอล์ค ออฟเดอะทาวน์” กันวันนี้ว่า บทบาทของสื่อในภูมิภาคหรือสื่อบ้านนอกกับสื่อส่วนกลาง มีนัยสำคัญแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร น้ำเสียงที่ฟังจากสื่อบ้านนอก รวมทั้งฟังเสียงจากหัวใจตัวเองในฐานะสื่อบ้านนอกด้วยคนหนึ่ง ก็พบว่าความแตกต่างนั้น อยู่ที่จิตสำนึกและความรับผิดชอบของแต่ละคน
ถ้าผิดจากนี้ ถือว่าไม่แตกต่าง
อาจมีบางความคิดที่วูบวาบไปตามกระแส คือการยอมรับบทบาทของสื่อบ้านนอก มีความไม่เป็นธรรม มีความไม่ทัดเทียม และเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่บทบาทในองค์กรสื่อระดับชาติ หรือการพิจารณาให้มีบทบาทในลำดับท้ายๆ หลังจากฟังความจากสื่อส่วนกลางแล้ว
สื่อสารมวลชนวันนี้ มีความสลับซับซ้อน เกินจุดที่จะมาเสียเวลาถกเถียงกันในเรื่องเล็ก เรื่องน้อย ที่บางครั้งอาจเป็นเพียงการเอาชนะกันเท่านั้น
ยุคการบริโภคข่าวสารเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีการสื่อสาร ทุกวันนี้ส่วนใหญ่ติดตามข่าวสาร ทั้งข่าวจริง ข่าวลวง ข่าวดราม่าจากจอทีวีที่มีทั้งช่องฟรีทีวีและช่องดิจิทัล รวมถึงข่าวสารสาระที่หาความจริงไม่ได้ ตามสื่อสังคมออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่นักข่าวที่ควรจะลงพื้นที่เพื่อสืบเสาะเกาะติด ขุดคุ้ยหาข่าว ล่าความจริงเพื่อประโยชน์สังคม ทำหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน กลายเป็นสุนัขหน้าคอมไปก็เยอะ
นักสื่อสารมวลชนหลายต่อหลายคนที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ภูมิทัศน์สื่อตลอดเวลา ล้วนแต่เห็นพ้องต้องกันว่าไม่ว่าภูมิทัศน์สื่อจะเปลี่ยนแปลงไปสักเพียงไร จากที่เคยเป็นเพียงสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ กลายมาเป็นสื่อใหม่ที่คลิกเดียวสามารถกระจายข้อมูลไปได้ทั่วโลกอย่าง อินเตอร์เนต เว็บไซด์ อีเมล์ ต่อยอดมาเป็นสื่อสังคมออนไลน์แบบเรียลไทม์ที่หลากหลาย กระจายข่าวสารรวดเร็วภายในพริบตา จนหลายต่อหลายครั้งเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เกิดขึ้นในโลกเสมือนจนถึงขั้นฟ้อง ร้องหมิ่นประมาทก็ก็เยอะ เกิดนักเลงคีย์บอร์ดมากมาย
ไม่ว่าสื่อจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนตามหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อก็ยังคงสำคัญเสมอ และไม่มีคำว่า “ล้าสมัย” เพราะนั่นคือความรับผิดชอบต่อวิชาชีพ
การรวมตัวของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นชมรม สมาคม สภาวิชาชีพ นอกจากจะมีเป้าประสงค์เพื่อดูแลสวัสดิการแล้วจึงมีการจัดกิจกรรม อบรมเชิงปฏิบัติการ เสวนา เพื่อเพิ่มพูนความรู้เฉพาะทาง และปลูกฝังจริยธรรมเพื่อทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แร็ค ลานนา ได้มีโอกาสไปร่วมเป็นวิทยากรในการแบ่งปันประสบการณ์ในการทำข่าวสิ่งแวดล้อม ที่ลานนาโพสต์ สื่อบ้านนอกฉบับเล็กๆคว้ารางวัลข่าวสิ่งแวดล้อม ปี 2556 และ 2557 จากชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 2 ปีซ้อน
ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ ชุมนุมนักข่าวนี้ได้เลือกผู้สื่อข่าวทั้งจากสื่อส่วนกลาง และสื่อท้องถิ่นเข้าร่วมอบรมในเนื้อหาเข้มเต็มสูบ เพื่อขัดเกลาความแหลมคมในทักษะการทำข่าวเชิงสืบสวนและต่อยอดข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
มหันตภัยเงียบ จอกหูหนู รุกเขื่อนกิ่วลม เป็นหัวข้อข่าวที่ลานนาโพสต์ใช้ในการเล่าที่มาที่ไปของงานข่าวชิ้นนี้ เริ่มจากปรากฏการณ์ภัยสีเขียวนับพันตันแพร่กระจายเต็มผืนน้ำที่เขื่อนกิ่วลม เขื่อนสำคัญของจังหวัดลำปาง เพราะเป็นทั้งแหล่งน้ำสำหรับการเกษตร อุปโภค บริโภค แหล่งเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลา รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยว
แต่กลับไม่มีใครสนใจนำเสนอปรากฏการณ์จอกหูหนูยึดเขื่อน ทั้งที่เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นในเขื่อนใดๆในประเทศไทย !! ในการแบ่งปันประสบการณ์ในครั้งนี้ ได้นำคลิปข่าวปรากฏการณ์ไปให้เพื่อนร่วมวงการสื่อได้เห็นถึงความตั้งใจใน การทำหน้าที่สื่อ อย่างเต็มร้อย
แม้ว่าจะเป็นเพียงสื่อเล็กๆที่มีปัจจัยหลายอย่างจำกัดเมื่อเทียบกับสื่อส่วนกลาง แต่ลานนาโพสต์ก็ได้พิสูจน์ว่า หากมีความตั้งใจในการทำงานแม้จะเป็นสื่อบ้านนอก แต่ก็สามารถสร้างงานข่าวคุณภาพได้
เคยมีคำพูดกล่าวไว้ว่า หากจะให้ประเทศแข็งแรง ต้องทำให้กลุ่มคนรากหญ้ามีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ไม่ใช่ร่ำรวยแต่เพียงนายทุน หากคำกล่าวนั้นเป็นจริง สื่อท้องถิ่นก็ไม่ต่างจากการเป็นสื่อรากหญ้าที่คอยเฝ้าระวัง ตรวจติดตามเหตุการณ์ผิดปกติ ทุจริต คอร์รัปชั่น มากกว่าที่จะตั้งหน้าตั้งตานำเสนอข่าวมโนสาเร่แต่เพียงอย่างเดียว
ทั้งหมดนี้คือการพิสูจน์คุณภาพของสื่อบ้านนอก ด้วยความเพียร และความมุ่งมั่นอย่างถึงที่สุด จนสามารถก้าวไปเคียงบ่าเคียงไหล่สื่อระดับชาติอย่างภาคภูมิ
มิใช่เพียงแต่นั่งตัดพ้อ ต่อว่า น้อยเนื้อต่ำใจ จนกลายเป็นเรื่องน่าเวทนา
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1039 วันที่ 31 กรกฏาคม - 6 สิงหาคม 2558)
