ยายวัย 67 ปีจอดรถ จยย.จะเปิดประตูเข้าบ้าน ถูกคนร้ายตามประกบกระชากสร้อยคอทองคำขาดกระเด็น คุณยายพยายามต่อสู้จนเสื้อผ้าขาดวิ่น แต่สู้แรงไม่ได้ก่อนที่คนร้ายจะขับ จยย.หลบหนีไปอย่างลอยนวลทั้งที่ห่างตลาดเพียง 50 เมตร ผู้คนพลุกพล่าน
เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. วันที่ 17 ก.ย. 58 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 ภูธร จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองหลบหนีไปได้ ที่บ้านเลขที่ 445 หมู่ 3 บ้านศาลาดอน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง หลังรับแจ้งจึงประสาน ร.ต.ท.ถาวร จันทร์ปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองลำปาง หน.สายตรวจตำบลชมพู และ ร.ต.ท.ทรัพย์ ปองดอง รอง สวป.เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายคือนางมาลี ทาเกษม อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 3 บ้านศาลาดอนน อยู่ในสภาพเสื้อผ้าที่สวมใส่ขาดวิ่น ตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังพอเล่าเหตุการณ์ได้บ้าง
นางมาลี เล่าว่า ตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากอู่รถหลังจากที่ปะยางเสร็จ กลับมาที่บ้านของลูกสาว ซึ่งบ้านอยู่ห่างตลาดสดบ้านศาลาดอนเพียงแค่ 50 เมตร ขณะที่จอดรถอยู่ประตูหน้าบ้าน ก็มีคนเข้ามากอดคอตรงด้านหลัง รู้สึกตกใจมากแต่ก็คิดว่าเพื่อนบ้านล้อเล่นกัน เมื่อหันกลับไปดูพบเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่สวมหมวกกันน๊อค ได้กระชากเอาสร้อยคอทองคำที่สวมใส่หนัก 2 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ไปจากคอของตน ตนเองพยายามต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกับคนร้าย จนคนร้ายก็ได้หลบหนีไป และร้องขอความช่วยเหลือจนเพื่อนบ้านออกมาช่วยเหลือไล่ติดตามคนร้ายแต่ก็ไม่ทัน โชคดีที่ไม่ได้รับอันตรายไปมากกว่านี้มีเพียงเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และขณะที่สอบปากคำอยู่ปรากฏว่า พบพระเลี่ยมทองที่เป็นพระหลวงพ่อเกษมเขมโกรุ่นระฆัง ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยตะขอสร้อยและเศษสร้อยคอทองคำจำนวนหนึ่ง นางมาลีจึงเชื่อว่าบารมีหลวงพ่อเกษม เขมโก ช่วยปกป้องตนเองไม่ให้ได้การบาดเจ็บในครั้งนี้
เบื้องต้น คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย 1 คนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนคันคลองในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังสกัดแต่ไร้วี่แวว คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้เส้นทางและเฝ้าติดตามนางมาลีมานานแล้ว เพราะนางมาลีเป็นคนมีฐานะดีและช่วงเช้าจะออกเก็บเงินลูกค้าในตลาดทั่วไป ซึ่งคนร้ายคาดว่าน่าจะติดตามพฤติกรรมและมาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วนแล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1046 วันที่ 18 - 24 กันยายน 2558)