เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน สนธิกำลังนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักตากอากาศหรูชานเมืองลำปาง พบไม้เถื่อนซุกซ่อนไปทั่วบริเวณพื้นที่กว่า 20 ไร่ สั่งอายัดทันทีพร้อมดำเนินคดีกับเจ้าของให้ถึงที่สุด หลังพลเมืองดีแจ้งว่า ในพื้นที่แห่งนี้มีการลักลอบขนไม้เถื่อนเขาออกเป็นประจำ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 20 ต.ค.58 นายอนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ สายที่ 1 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4บก.ปทส.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5 เจ้าหน้าที่ ทหารจาก มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง ฝ่ายปกครองจังหวัดลำปาง ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง กว่า 100 นาย ร่วมกันนำหมายศาลเลขที่ ค.545/2558 เข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ ในหมู่บ้านศาลาดอน หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมประสาน จ.ส.อ.สง่า พุทธิมาเล ประธานชุมชนบ้านศาลาดอนมานำตรวจค้น หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับร้องเรียนและตรวจพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการซุกซ่อนไม้ผิดกฎหมาย จึงได้เข้าตรวจสอบและสังเกตการณ์ในเบื้องต้น ช่วงกลางดึกของวันที่ 19 ต.ค.58 พบว่ามีกลุ่มชายจำนวน 3 คน ได้ช่วยกันขนย้ายไม้แผ่นขนาดใหญ่ คาดว่าจะนำไปซุกซ่อน จึงได้บันทึกภาพวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำกำลังจัดเฝ้าระวังและปิดล้อมในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อปิดเส้นทางเข้าออก ไม่ให้มีการขนย้ายสิ่งผิดกฎหมายออกไปได้ จากนั้นในวันรุ่งขึ้นจึงได้ขออำนาจจากศาลจังหวัดลำปาง นำหมายศาลเข้าตรวจค้นดังกล่าว
จากการเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงจุดแรก พบเพียงผู้ดูแลสถานที่ก่อสร้างบ้านหลังนี้ โดยบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นที่พักคนงานของบริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เนื่องจากเจ้าของบ้านติดภารกิจที่ต่างจังหวัด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายศาลเพื่อเข้าทำการตรวจค้น โดยพบว่า บ้านที่ก่อสร้างอยู่นั้นก่อสร้างเป็นบ้านไม้สักหรู หลังใหญ่สามชั้น ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ พบกองไม้สักที่แปรรูปแล้วอยู่จำนวนมาก ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจสอบได้มีนายทนงริทธ์ พรมจำปา อายุ 52 ปี ราษฎร หมู่ 8 ต.ปงแสนทอง มาแสดงตัวว่าเป็นญาติกับเจ้าของบ้าน พร้อมแสดงหลักฐานเอกสารเป็นหนังสือกำกับไม้แปรรูป จำนวน 28 ฉบับ และหนังสือแสดงรายการที่มาของไม้จากการทำส่วนป่า จำนวน 7 ฉบับ เมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีหลักฐานที่มาที่ไปของไม้จริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ ได้สั่งอายัดตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะเดียวกันที่ชั้น 2 ของบ้าน พบไม้ประดู่แปรรูปจำนวน 30 กว่าแผ่นซุกซ่อนอยู่ แต่ไม่มีหลักฐานการครอบครอง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ จากนั้นได้ตรวจสอบรอบๆบริเวณบ้านพบไม้ ชิงชัน ประดู่ ไม้แดง มะค่า ที่ถูกตัดเป็นท่อนซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก และที่บริเวณ โรงจอดรถ บ้านพักคนงาน สระน้ำ พบว่ามีการซุกซ่อนไม้อีกมากว่า 200 ท่อน ขณะเดียวกันที่จุดบริเวณข้างสระน้ำ เจ้าหน้าที่พบไม้ประดู่ มะค่า ขนาดใหญ่ ที่ถูกตัดเป็นท่อนๆเพื่อทำเป็นเก้าอี้นั่งอีกกว่า 50 ท่อนกองทับกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้ทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานนำมาแสดงที่มาที่ไปของไม้ได้ จึงประสานงาน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปางมาตรวจที่เกิดเหตุ และติดตามตัวเจ้าของบ้านมาสอบสวน
สำหรับปริมาณไม้ทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ พบว่าเป็นไม้กระยาเลยท่อนหวงห้าม(ไม้ประดู่ ไม้แดง มะขามเฒ่า) จำนวน 210 ท่อน ไม้กระยาเลยหวงห้ามแปรรูป (ไม้ประดู่ ไม้แดง มะค่าโมง) จำนวน 297 แผ่น รวมมูลค่าประมาณ 160,000 บาท