มติที่ประชุมคณะกรรมการจัดหารายได้เทศบาลฯ ร่วมหาทางออกตลาดหลักเมือง ไม่ขึ้นค่าเช่า 3 เปอร์เซ็นต์-เปลี่ยนมาขายรายวันได้ ยื่นรายงานเสนอให้ผู้ว่าฯเห็นชอบ เพื่อแจ้งกลุ่มผู้ค้าในตลาดทราบตามขั้นตอน รองนายกฯระบุหากยังไม่พึงพอใจ อาจต้องยื่นข้อเสนอและพิจารณาใหม่ ขณะที่ผู้ค้ายังไม่ปลื้ม เพราะไม่ได้ปรับลดอะไรเลย
จากกรณีที่กลุ่มผู้ค้าในตลาดเทศบาล 1 หรือตลาดหลักเมือง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง ได้รวมตัวกันร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ขอให้ระงับการต่อสัญญาเช่าตลาด เนื่องจากเห็นว่าสัญญาไม่เป็นธรรม ต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่มทุก 3 ปี ทั้งที่เศรษฐกิจตกต่ำค้าขายไม่ดี กระทั่งเมื่อวันที่ 23 ก.ย.58 นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในขณะนั้น ได้เรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับตัวแทนกลุ่มผู้ค้าเพื่อหาทางออกร่วมกัน ผลสรุปให้คณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์เทศบาลนครลำปาง ร่วมประชุมกำหนดค่าเช่าใหม่ ให้เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.58 คณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์เทศบาลนครลำปาง อาทิ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ปลัดเทศบาลนครลำปาง โยธาธิการและผังเมือง ธนารักษ์พื้นที่ นายอำเภอเมืองลำปาง ฯลฯ ได้ร่วมกันประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาค่าเช่าตลาดหลักเมืองดังกล่าว โดยมีนายสมเกียรติ อัญชนา รองนายกเทศมนตรี เป็นตัวแทนของนายกเทศมนตรี เป็นประธานในการประชุม ซึ่งมติในที่ประชุมในเบื้องต้น กำหนดให้ค่าเช่าต่างๆยังคงอยู่ที่ราคาเดิม แต่จะไม่มีการขึ้นค่าเช่า 3 เปอร์เซ็นต์ตามที่ระบุในแนบท้ายสัญญา พร้อมกับให้หาผู้ที่สนใจจะเข้ามาจำหน่ายเป็นรายวันในพื้นที่ที่ยังว่างอยู่ ส่วนผู้ค้าเดิมที่ต้องการเปลี่ยนมาเป็นรายวัน ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้
นายสมเกียรติ อัญชนา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ตัดค่าเช่าที่ต้องเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ตามแนบท้ายสัญญาเก่า ส่วนค่าเช่าแผงก็ยังคงเป็นราคาเดิมตามที่กำหนดไว้ โดยในที่ประชุมให้เหตุผลว่า หากปรับลดลงราชการก็จะเสียผลประโยชน์ แต่เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทราบดีว่าทางกลุ่มผู้ค้าขายของไม่ดี จึงได้ตัดเรื่องเพิ่มค่าเช่า 3 เปอร์เซ็นต์ออกไป นอกจากนั้นยังได้มีการพูดคุยกันถึงการเก็บค่าแผงเป็นรายวัน ซึ่งทางคณะกรรมการฯได้เสนอว่ายังมีแผงที่ว่างอยู่ในตลาดอีกหลายแผง ควรจะเปิดให้ผู้ค้าที่จะเช่าเป็นรายวันเข้ามาขายได้ เพื่อให้ตลาดมีความคึกคักมากขึ้น ส่วนผู้ค้าเดิมที่เคยเช่ารายเดือนแล้วต้องการเปลี่ยนไปจ่ายแบบรายวันก็ไม่ขัดข้อง ซึ่งจะต้องยกเลิกสัญญา และต้องทำตามกฎระเบียบ เช่น จะต้องเก็บของออกจากแผงทุกวัน ไม่สามารถจับจองพื้นที่เป็นของตัวเองได้ เพราะต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาขายด้วย
รองนายกเทศมนตรี กล่าวอีกว่า เมื่อมีมติในที่ประชุมแล้ว ก็จะทำรายงานส่งไปให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาอีกครั้ง ว่าเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการฯหรือไม่ หากเห็นชอบทางเทศบาลก็จะแจ้งให้ผู้ค้าทราบ เพื่อสอบถามผู้ค้าว่าเห็นชอบหรือไม่ แต่ถ้าหากว่าผู้ค้ายังไม่พอใจ ก็อาจต้องยื่นข้อเสนอเข้ามาใหม่ และคณะกรรมการฯ จะต้องนำไปประชุมพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งในเรื่องนี้ ยืนยันว่าเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และรับทราบปัญหาของผู้ค้า ในส่วนของเทศบาลเองต้องแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด เนื่องจากต้องเสียผลประโยชน์ในช่วงที่อยู่ระหว่างดำเนินการเช่นกัน
ทั้งนี้ ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยังกลุ่มผู้ค้าในบางราย ว่าหากค่าเช่ายังเท่าเดิม แต่ตัดค่าเช่าที่ต้องจ่าย 3 เปอร์เซ็นต์ออกไป ทางกลุ่มผู้ค้าพอจะรับไหวหรือไม่ นายระพีภัทร์ เพียรเพิ่มภัทร ตัวแทนชมรมพ่อค้าแม่ค้าตลาดหลักเมือง กล่าวว่า คงจะรับไม่ได้กับข้อตกลงนี้ เนื่องจากว่าไม่ได้ปรับลดอะไรให้เลย ซึ่งผู้ค้าอยากให้มีการปรับลดค่าเช่าหลักมากกว่า ตนเห็นว่าหลังจากมีมติที่ประชุมออกมาแล้ว ทางเทศบาลควรจะเรียกกลุ่มผู้ค้า และทางจังหวัด ไปประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อแจ้งมติตรงนี้ให้ทราบว่าเห็นด้วยตรงกันหรือไม่ ซึ่งในการประชุมกับรองผู้ว่าฯท่านเดิม นายมงคล สุกใส ได้บอกในที่ประชุมว่าให้มีการร่วมประชุมกันทั้ง 3 ฝ่าย ไม่เช่นนั้นก็หาทางออกไม่ได้สักที ทางกลุ่มผู้ค้าก็ไม่อยากจะดื้อแพ่งไม่จ่ายค่าเช่าให้กับเทศบาล อยากให้เรื่องจบลงเหมือนกัน หากว่ามติออกมาเป็นเช่นนี้จริงคงจะต้องร่วมประชุมกับกลุ่มผู้ค้ากันอีกครั้งว่าจะเป็นไปในทิศทางใด
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1052 วันที่ 30 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2558)