
กำลังจากหลายหน่วยงานใน จ.ลำปาง เข้าตรวจยึด ไม้เถื่อนกว่า 100 แผ่น พร้อมอุปกรณ์แปรรูปไม้ แท่นเลื่อย กลางหมู่บ้าน หลังพลเมืองดีแจ้งเบาะแส
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.59 เวลา 12.00 น. ที่บริเวณติดทุ่งนากลางหมู่บ้าน บ้านทุ่งตอน หมู่ 2 ต.วังเงิน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง กำลังเจ้าเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 เจ้าหน้าที่ ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.19 แม่ทะตำรวจ กก.4 บก.ปทส สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ศปทส.ภ.5 ประจำจังหวัดลำปาง ทหารชุดมวลชนสัมพันธุ์ มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ประจำที่ว่าการอำเภอแม่ทะ โดยการอำนวยการของนายจเรศักษ์ นันตะวงษ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และนายสุเทพ พุทชา ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าฯ นำโดยนายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 ได้เข้าตรวจยึด โรงงานแปรรูปไม้เถื่อนที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต อุปกรณ์ประกอบด้วย แท่นเลื่อย 1 แท่น เลื่อยวงเดือนขนาด 32 นิ้ว 1 วง เครื่องยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีเอ็ก390 สีขาวแดง 1 ตัว ไม้สักท่อน 2 ท่อน ไม้กระยาเลยท่อน 4 ท่อน และไม้ที่แปรรูปเป็นแผ่นเหลี่ยมอีกจำนวน 182 แผ่น ที่ถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณ 50,000 บาท ส่วนผู้กระทำผิดเป็นชาย 2 คน ได้วิ่งหลบหนีไปทางทุ่งนาหายเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามไปโดยพบเห็นในระยะห่างประมาณ 100 เมตร ชายคนหนึ่งใส่เสื้อโปโลสีฟ้า และกางเกงลายทหาร ส่วนอีกคนใส่เสื้อยืดสีดำและสวมกางเกงสีดำ แต่ตามไม่ทันจึงไม่สามารถติดตามตัวมาได้
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจยึดไม้สักทั้งหมดนำเก็บที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.19 แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง พร้อมทั้งแจ้ง พ.ต.ท.บุญเชิด วงศ์แก้ว พนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ ทราบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เพื่อที่จะเร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนการเข้าตรวจยึดจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ รับแจ้งเบาะแสจากคนในพื้นที่ว่า บริเวณดังกล่าวมีการตั้งแท่นเลื่อยและแปรรูปไม้ส่งเสียงดังรบกวนตลอดทั้งวัน และคาดว่าน่าจะมีการนำไม้เถื่อนมาแปรรูปด้วย หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ แต่ระหว่างที่กำลังจะไปถึงนั้นกลุ่มมอดไม้ที่กำลังแปรรูปไม้อยู่นั้นเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ต่างพากันวิ่งหลบหนีและทิ้งของกล่าวไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น