พายุถล่มหลายพื้นที่ของ จ.ลำปาง พื้นที่โซนทางเหนือ สร้างความเสียหายเดือนร้อนไปทั่ว ขณะที่มีหลายโรงเรียนในพื้นที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งเปิดเทอมวันแรกไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้เพราะโรงเรียนได้รับความเสียหายจากพายุ ทำให้นักเรียนครูอาจารย์ต้องเร่งทำความสะอาดเก็บกวาดขยะ
วันที่ 16 พ.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบ โรงเรียนวังแก้ววิทยา หมู่ 5 ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ในวันเปิดเทอมวันแรก หลังจากในพื้นที่ถูกพายุพัดถล่มเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมโรงเรียนทำให้ห้องครัวของโรงเรียนที่ จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆในการประกอบอาหาร เครื่องปรุงวัตถุดิบ ไว้เรียบร้อยแล้ว ต่างได้รับความเสียหายเช่นกัน พบบรรดาครู อาจารย์ นักเรียนทุกชั้นเรียนตั้งแต่ประถมถึงระดับมัธยม ได้เร่งช่วยกันคนละไม้คนละมือในการเก็บเศษกระเบื้อง เศษกิ่งไม้ใบไม้ที่ปลิวกระจัดกระจายไปทั่วโรงเรียน สร้างความเสียหายทั้งหลังคาอาคารเรียนบ้านพักครูโรงอาหาร ถูกลมพายุพัดเอากระเบื้องแตกเสียหายนับร้อยแผ่น
สำหรับเหตุการณ์พายุถล่มและน้ำป่าไหลหลากทะลุกำแพงโรงเรียนเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา 1 ครั้ง และเกิดอีกครั้งเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 16 พ.ค. ทำให้การเปิดเทอมวันแรกเป็นไปด้วยความทุลักทุเล ไม่สามารถเปิดให้นักเรียนเข้าเรียนได้ ทางครู และนักเรียนจึงทำได้เพียงเร่งทำความสะอาดเพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
เช่นเดียวกันกับโรงเรียนบ้านทุ่งปี้ หมู่ 1 ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง สภาพของโรงเรียนก็ถูกพายุพัดถล่มต้นไม้หักโค่นหลังคาแตกเสียหาย โดยเฉพาะห้องเรียนและห้องเก็บของ วัสดุอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่เตรียมพร้อมไว้เปิดสอนในวันแรกต่างเปียกชุ่มไปด้วยน้ำทั้งหมด ครู อาจารย์ นักเรียน ต้องช่วยกันทำความสะอาดและเก็บกวาด พร้อมทั้งสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นหลังคาปลิวเสียหายกว่า 100 แผ่น สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติในวันที่ 17 พ.ค.59
นอกจากนั้นพบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่โคนต้นประมาณ 3 คนโอบ ล้มขวางถนนจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ บริเวณเส้นทางระหว่าง ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ ไป อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นทางลูกรัง ที่มีการตัดเส้นทางเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ลัดผ่านไป ยัง อ.เวียงป่าเป้า ระยะทางเพียง 15 กิโลเมตร ก็ไปถึง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยไม่ต้องอ้อมกลับเข้าไปใช้เส้นทางสายหลัก
ทางกลุ่มชาวบ้านำโดยกำนันตำบลวังแก้ว ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ระดมลูกบ้านำเลื่อยยนต์และรถไถ มาร่วมกันตัดและชักลากต้นมะม่วงป่าขนาดใหญ่ออกจากพื้นที่ แต่การทำงานค่อนข้างจะลำบากเพราะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มากมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 1.50 เมตร ขนาดลำต้น 3 คนโอบ มีความยาวกว่า 10 เมตร ทางชาวบ้านต้องตัดตอนกิ่งทีละท่อนขนาด 1 เมตร เพื่อให้ง่ายต่อการชักลาก ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 2 วันจึงเสร็จทั้งหมด
ต่อมา นายเกรียงศักดิ์ แสงยุนนท์ นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง พร้อมด้วย นาบไพรัช ผมไผ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอวังเหนือ นางสุปราณี เกิดมูล ส.อบจ. เขต อ.วังเหนือ เขต 1 กำนันตำบลวังแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นตำบลวังแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เดินเท้าสำรวจบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุถล่มในพื้นที่ ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง โดยพบว่ามีบ้านเรือนเสียหายอย่างหนักหลายหลัง และมีเสียหายเล็กน้อยบางส่วน โดยเฉพาะความเสียหายที่เห็นได้ชัดเจนคือ โรงจอดรถของชาวบ้านพังถล่มรถยนต์ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านได้รับกระเบื้องจากเจ้าหน้าที่ อบต.วังแก้ว เพื่อเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายๆหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ สภ.วังเหนือ ฝ่ายปกครอง อส.วังเหนือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เชียงใหม่ นำกำลังผลจำนวน 20 นาย เข้ามาช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนจนเสร็จ
ทั้งนี้ มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบในพื้นที่ อ.วังเหนือ 5 ตำบล คือ ต.วังแก้ว ต.ทุ่งฮั้ว ต.วังทอง ต.วังทรายคำ ต.วังเหนือ ต.ร่องเคาะ รวมแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน รวมทั้งโรงเรียนสถานที่ราชการวัดวาอารามต่างๆ ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ แสงยุนนท์ นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจผู้ได้รับผลกระทบอย่างละเอียดและให้การช่วยเหลือย่างเร็วที่สุด
และยังมีบ้านเรือนราษฎรใน ต.แม่มอก อ.เถิน ได้รับผลกระทบจากพายุ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.59 เสียหายบางส่วน รวมจำนวน 136 หลังคาเรือน คือ บ้านแม่มอกหัวน้ำ ม.1 เสียหายจำนวน 80 หลังคาเรือน
บ้านแม่มอกกลาง ม.2 เสียหายจำนวน 22 หลังคาเรือน บ้านแม่มอกใต้ ม.6 เสียหายจำนวน 12 หลังคาเรือน และบ้านหัวน้ำพัฒนา ม. 9 เสียหายจำนวน 22 หลังคาเรือน
บ้านแม่มอกกลาง ม.2 เสียหายจำนวน 22 หลังคาเรือน บ้านแม่มอกใต้ ม.6 เสียหายจำนวน 12 หลังคาเรือน และบ้านหัวน้ำพัฒนา ม. 9 เสียหายจำนวน 22 หลังคาเรือน
รวมทั้งที่บ้านสบต๋ำ ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบจากพายุพัดถล่มจนบ้านเรือนเสียหายรอบที่ 3 ในปีนี้ โดยช่วงเข้าของวันที่ 17 พ.ค.59 ที่บ้านเลขที่ 85 บ้านสบต๋ำ หมู่ 3 ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของนายทองดี ศรีขาว ที่ถูกพายุพัดหอบเอาโครงหลังคาบ้านปลิวออกไปทั้งหมด กลุ่มญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยไม่คิดค่าแรง ทางเจ้าของบ้านทราบซึ่งน้ำใจแก่เพื่อนบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลนาแก้ว ที่มาสำรวจพร้อมจัดซื้อกระเบื้องมามุงหลังคาบ้านให้ใหม่รวมแล้วกว่า 200 แผ่น ขณะที่ทหารชุดมวลชนสัมพันธ์มณฑลทหารกบที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ประจำที่ว่าการอำเภอเกาะคา ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะคา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาแก้วในพื้นที่ ได้เข้าไปสำรวจตรวจสอบผู้ที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้นมีทั้งหมด 4 หมู่บ้าน มากกว่า 100 ครัวเรือน ส่วนพายุถล่มในพื้นที่แห่งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีนี้ โดยได้สร้างความเสียหายกระจายไปเรื่อยๆ ส่วนพื้นที่อื่นๆก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทางส่วนที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือแล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1079 วันที่ 20 - 26 พฤษภาคม 2559)
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1079 วันที่ 20 - 26 พฤษภาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น