วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เรียก1.6ล้าน ชดเชยเด็กจมน้ำ

จำนวนผู้เข้าชม website counter

ผู้ปกครองเด็กจมน้ำร้องศูนย์ดำรงธรรม เรียกร้องโรงเรียนรับผิดชอบชดเชยชีวิตเด็ก เป็นกรณีตัวอย่าง พร้อมเข้มงวดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก  
           
หลังจากเกิดเหตุเด็กนักเรียนชาย อายุ 8 ปี จมน้ำในสระว่ายน้ำของโรงเรียนก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จากสาเหตุน้ำท่วมปอด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.59  หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อสอบถามข้อมูลจากทางผู้ปกครองของเด็ก ได้รับการเปิดเผยว่า ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลใดๆ เพียงแต่ฝากเตือนถึงผู้ปกครองท่านอื่นว่าควรดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียกับครอบครัวอื่น  ส่วนทางโรงเรียนได้ติดต่อเช่นกัน ซึ่งในขณะนั้นไม่สามารถติดต่อทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้
           
กระทั่งเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 59 ที่ผ่านมา  นายกันตินันท์  จันทะวงษ์  ผู้เป็นน้า พร้อมด้วยนางจิตตินันท์ ไชยศักดา มารดาผู้สูญเสียลูกชายวัย 8 ปี ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง  เพื่อขอให้ทางโรงเรียนชดเชยค่าน้ำนม ค่าเลี้ยงดูลูกชายมาจนกระทั่งอายุ 8 ปี  ปีละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,600,000 บาท  ขอให้ตรวจสอบการรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าทางโรงเรียนได้มีการรายงานให้กับ สพฐ.และกระทรวงศึกษาธิการทราบหรือไม่  และตรวจสอบการบริหารและการบริการสระว่ายน้ำของโรงเรียนว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่  ครูฝึกได้ให้ความสนใจเด็กหรือไม่ ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับทราบปัญหาของผู้ปกครองที่พาเด็กมาว่ายน้ำหรือไม่
           
นายกันตินันท์ จันทะวงษ์   กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้แจ้งให้ทราบว่าจะรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้ ซึ่งก็ได้มอบเงินช่วยเหลือในการจัดงานศพมาให้รวมทั้งสิ้น 100,000 บาท  ทาง ผอ.ก็บอกว่าหลังจากจบงานศพของน้องแล้ว นัดพูดคุยกันว่าจะให้การช่วยเหลือกันอย่างไร  แต่พอหลังงานทางโรงเรียนก็ได้เงียบหายไป ไม่ติดต่อมาเลยจนเวลาล่วงเลยไปเป็นเดือน จึงตัดสินใจมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พ.ค.59 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวแทนโรงเรียนมาพูดคุยตกลง ซึ่งทางโรงเรียนขอไว้ว่าอย่าเพิ่งยื่นให้ไปพูดคุยที่โรงเรียนก่อน จึงมีการนัดคุยกันในวันที่ 6 มิ.ย.59 ได้ยื่นข้อเสนอไปเป็นค่าน้ำนมพ่อแม่ที่เลี้ยงมาจนถึง 8 ปี ปีละ 200,000 บาท แต่ไม่ได้บังคับว่าจะต้องให้จำนวนเท่านี้ อยู่ที่การพูดคุยตกลงกันได้  แต่ผลการพูดคุยทางโรงเรียนเสนอให้ 50,000 บาท พอทางญาติจะไม่รับข้อเสนอก็ปรับเพิ่มให้เป็น 100,000 บาท  นอกจากนั้นทางโรงเรียนยังบอกว่าจะให้ค่าประกันอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ตนมองว่าเป็นเงินที่ผู้ปกครองจ่ายพร้อมค่าเทอม เงินประกันเป็นส่วนที่ผู้ปกครองพึงได้อยู่แล้ว ไม่ใช่นำไปรวมกับเงินที่โรงเรียนจะต้องรับผิดชอบ แต่ทางโรงเรียนอ้างว่าเป็นส่วนการช่วยเหลือของโรงเรียนจึงไม่ถูกต้อง  ตนเองจึงไม่รับข้อเสนอของทางโรงเรียนที่จะจ่ายเงินชดเชยให้ 100,000 บาท  ในวันที่ 7 มิ.ย. 59 จึงได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม
           
นายกันตินันท์ กล่าวต่อไปว่า ทางโรงเรียนควรจะมีมาตรฐานดูแลความปลอดภัยของสระว่ายน้ำ จะเห็นได้ว่าวันที่เกิดเหตุ น้ำในสระขุ่นมาก มองไม่เห็นก้นสระเลย แม่เดินตามหาน้องสระก็มองไม่เห็น จนกระทั่งมีคนมองเห็นเงาดำๆอยู่ก้นสระ และก็ไม่มีการ์ดดูแลสระว่ายน้ำด้วย  ถ้ามีคนมองเห็นน้องก่อน น้องก็อาจจะไม่เสียชีวิต  ตอนนี้ได้รอทางศูนย์ดำรงธรรมดำเนินเรื่องให้  หากไม่เป็นผลก็คงต้องอาศัยกฎหมายเข้ามาช่วย  ส่วนด้านคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวแม่ของน้องไปสอบสวนแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเรียกทางโรงเรียนไปสอบสวนหรือยัง
           
ด้านนายประยูร เรียนปิงวัง ผอ.โรงเรียนอนุบาลลำปางเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ กล่าวว่า วันที่จัดงานศพทางโรงเรียนได้ไปดูแล มอบหมายให้ครูอาจารย์เข้าไปทุกวัน พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานศพตั้งแต่วันแรก รวมเป็นเงิน 100,000 บาท  และจะนัดมาพบพูดคุยกันแต่ตนเองก็ติดราชการที่กรุงเทพฯ จนเวลาล่วงเลยไปจึงคิดว่าไม่เป็นไร เพราะทางผู้ปกครองก็รู้จักคุ้นเคยกับครูพี่เลี้ยง และเข้าใจโรงเรียนดีว่าไม่อยากให้เสียชื่อเสียง ตนได้คุยกับพ่อของเด็กก็ได้พูดคุยกันอย่างดี แต่อีกวันก็ทราบว่าได้ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม
           
การใช้สระว่ายน้ำของโรงเรียนจะมีค่าลงสระอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการ์ดดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ซึ่งเด็กที่ว่ายน้ำไม่คล่องทางผู้ปกครองก็จะต้องเป็นผู้ดูแลเด็กเอง ส่วนเด็กที่มาเรียนก็จะมีครูผู้สอนควบคุมอยู่  แต่หลักมนุษยธรรมก็เป็นเด็กโรงเรียนของเราที่เราต้องรับผิดชอบ ก็ได้ให้การช่วยเหลือไปแล้ว
           
ผอ.โรงเรียน กล่าวอีกว่า ทางโรงเรียนได้นัดผู้ปกครองเด็กมาคุย โดยได้มอบหมายให้รอง ผอ.ดำเนินการ ซึ่งทางโรงเรียนไม่ได้มีเงินมากมาย จึงเสนอช่วยเหลือไป 100,000 บาท แต่ทางผู้ปกครองไม่ตกลง ได้เรียกค่าชดเชยปีละ 200,000 บาทเป็นเวลา 8 ปีตามอายุของเด็ก แตกต่างจากตอนแรกที่พูดคุยกันเข้าใจอย่างดี ต่างเห็นอกเห็นใจกัน  นอกจากนั้นทางโรงเรียนยังได้ช่วยจัดการเรื่องประกันชีวิตให้ เพราะประกันหมดอายุ ก็ได้วิ่งเรื่องให้ได้เงินประกันมา  แต่ในเมื่อตกลงกันไม่ได้ก็คงต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1082 วันที่ 10 - 16 มิถุนายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์