ผู้ปกครองเด็กจมน้ำร้องศูนย์ดำรงธรรม
เรียกร้องโรงเรียนรับผิดชอบชดเชยชีวิตเด็ก เป็นกรณีตัวอย่าง
พร้อมเข้มงวดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก
หลังจากเกิดเหตุเด็กนักเรียนชาย
อายุ 8 ปี จมน้ำในสระว่ายน้ำของโรงเรียนก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
จากสาเหตุน้ำท่วมปอด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.59
หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อสอบถามข้อมูลจากทางผู้ปกครองของเด็ก
ได้รับการเปิดเผยว่า ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลใดๆ
เพียงแต่ฝากเตือนถึงผู้ปกครองท่านอื่นว่าควรดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด
ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียกับครอบครัวอื่น
ส่วนทางโรงเรียนได้ติดต่อเช่นกัน
ซึ่งในขณะนั้นไม่สามารถติดต่อทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้
กระทั่งเมื่อวันที่
7 มิ.ย. 59 ที่ผ่านมา นายกันตินันท์ จันทะวงษ์
ผู้เป็นน้า พร้อมด้วยนางจิตตินันท์ ไชยศักดา มารดาผู้สูญเสียลูกชายวัย 8 ปี ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง
เพื่อขอให้ทางโรงเรียนชดเชยค่าน้ำนม ค่าเลี้ยงดูลูกชายมาจนกระทั่งอายุ 8 ปี ปีละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,600,000 บาท
ขอให้ตรวจสอบการรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าทางโรงเรียนได้มีการรายงานให้กับ
สพฐ.และกระทรวงศึกษาธิการทราบหรือไม่
และตรวจสอบการบริหารและการบริการสระว่ายน้ำของโรงเรียนว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่ ครูฝึกได้ให้ความสนใจเด็กหรือไม่
ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับทราบปัญหาของผู้ปกครองที่พาเด็กมาว่ายน้ำหรือไม่
นายกันตินันท์
จันทะวงษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้แจ้งให้ทราบว่าจะรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้
ซึ่งก็ได้มอบเงินช่วยเหลือในการจัดงานศพมาให้รวมทั้งสิ้น 100,000 บาท ทาง ผอ.ก็บอกว่าหลังจากจบงานศพของน้องแล้ว
นัดพูดคุยกันว่าจะให้การช่วยเหลือกันอย่างไร
แต่พอหลังงานทางโรงเรียนก็ได้เงียบหายไป
ไม่ติดต่อมาเลยจนเวลาล่วงเลยไปเป็นเดือน
จึงตัดสินใจมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง ครั้งแรกเมื่อวันที่
30 พ.ค.59 ที่ผ่านมา
ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวแทนโรงเรียนมาพูดคุยตกลง ซึ่งทางโรงเรียนขอไว้ว่าอย่าเพิ่งยื่นให้ไปพูดคุยที่โรงเรียนก่อน
จึงมีการนัดคุยกันในวันที่ 6 มิ.ย.59 ได้ยื่นข้อเสนอไปเป็นค่าน้ำนมพ่อแม่ที่เลี้ยงมาจนถึง
8 ปี ปีละ 200,000 บาท
แต่ไม่ได้บังคับว่าจะต้องให้จำนวนเท่านี้ อยู่ที่การพูดคุยตกลงกันได้ แต่ผลการพูดคุยทางโรงเรียนเสนอให้ 50,000 บาท พอทางญาติจะไม่รับข้อเสนอก็ปรับเพิ่มให้เป็น 100,000 บาท
นอกจากนั้นทางโรงเรียนยังบอกว่าจะให้ค่าประกันอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ตนมองว่าเป็นเงินที่ผู้ปกครองจ่ายพร้อมค่าเทอม
เงินประกันเป็นส่วนที่ผู้ปกครองพึงได้อยู่แล้ว ไม่ใช่นำไปรวมกับเงินที่โรงเรียนจะต้องรับผิดชอบ
แต่ทางโรงเรียนอ้างว่าเป็นส่วนการช่วยเหลือของโรงเรียนจึงไม่ถูกต้อง
ตนเองจึงไม่รับข้อเสนอของทางโรงเรียนที่จะจ่ายเงินชดเชยให้ 100,000 บาท ในวันที่ 7 มิ.ย. 59
จึงได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม
นายกันตินันท์
กล่าวต่อไปว่า ทางโรงเรียนควรจะมีมาตรฐานดูแลความปลอดภัยของสระว่ายน้ำ
จะเห็นได้ว่าวันที่เกิดเหตุ น้ำในสระขุ่นมาก มองไม่เห็นก้นสระเลย แม่เดินตามหาน้องสระก็มองไม่เห็น
จนกระทั่งมีคนมองเห็นเงาดำๆอยู่ก้นสระ และก็ไม่มีการ์ดดูแลสระว่ายน้ำด้วย ถ้ามีคนมองเห็นน้องก่อน
น้องก็อาจจะไม่เสียชีวิต ตอนนี้ได้รอทางศูนย์ดำรงธรรมดำเนินเรื่องให้ หากไม่เป็นผลก็คงต้องอาศัยกฎหมายเข้ามาช่วย ส่วนด้านคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวแม่ของน้องไปสอบสวนแล้ว
แต่ไม่ทราบว่าเรียกทางโรงเรียนไปสอบสวนหรือยัง
ด้านนายประยูร
เรียนปิงวัง ผอ.โรงเรียนอนุบาลลำปางเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ กล่าวว่า วันที่จัดงานศพทางโรงเรียนได้ไปดูแล
มอบหมายให้ครูอาจารย์เข้าไปทุกวัน พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานศพตั้งแต่วันแรก
รวมเป็นเงิน 100,000 บาท
และจะนัดมาพบพูดคุยกันแต่ตนเองก็ติดราชการที่กรุงเทพฯ จนเวลาล่วงเลยไปจึงคิดว่าไม่เป็นไร
เพราะทางผู้ปกครองก็รู้จักคุ้นเคยกับครูพี่เลี้ยง
และเข้าใจโรงเรียนดีว่าไม่อยากให้เสียชื่อเสียง
ตนได้คุยกับพ่อของเด็กก็ได้พูดคุยกันอย่างดี
แต่อีกวันก็ทราบว่าได้ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม
การใช้สระว่ายน้ำของโรงเรียนจะมีค่าลงสระอยู่
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการ์ดดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ซึ่งเด็กที่ว่ายน้ำไม่คล่องทางผู้ปกครองก็จะต้องเป็นผู้ดูแลเด็กเอง
ส่วนเด็กที่มาเรียนก็จะมีครูผู้สอนควบคุมอยู่ แต่หลักมนุษยธรรมก็เป็นเด็กโรงเรียนของเราที่เราต้องรับผิดชอบ
ก็ได้ให้การช่วยเหลือไปแล้ว
ผอ.โรงเรียน
กล่าวอีกว่า ทางโรงเรียนได้นัดผู้ปกครองเด็กมาคุย โดยได้มอบหมายให้รอง
ผอ.ดำเนินการ ซึ่งทางโรงเรียนไม่ได้มีเงินมากมาย จึงเสนอช่วยเหลือไป 100,000 บาท แต่ทางผู้ปกครองไม่ตกลง ได้เรียกค่าชดเชยปีละ 200,000 บาทเป็นเวลา 8 ปีตามอายุของเด็ก แตกต่างจากตอนแรกที่พูดคุยกันเข้าใจอย่างดี
ต่างเห็นอกเห็นใจกัน
นอกจากนั้นทางโรงเรียนยังได้ช่วยจัดการเรื่องประกันชีวิตให้
เพราะประกันหมดอายุ ก็ได้วิ่งเรื่องให้ได้เงินประกันมา แต่ในเมื่อตกลงกันไม่ได้ก็คงต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1082 วันที่ 10 - 16 มิถุนายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น