แชร์ว่อนเน็ตโรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่มีน้ำผลิตไฟฟ้าต้องหยุดเดินเครื่อง
ด้าน กฟผ.เผยยังมีใช้ไปถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
หากฝนทิ้งช่วงอาจหยุดเดินเครื่องบางส่วน ยันไม่กระทบต่อการใช้ไฟ
มีแหล่งผลิตอื่นทดแทนได้ ขณะที่น้ำในสองเขื่อนใหญ่ลำปางยังไม่พ้นวิกฤต
จากที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์
เรื่องการหยุดเครื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยข้อความระบุว่า ถ้าน้ำแม่จางและแม่ขามเหลือ 5
ล้านลูกบาศก์เมตร จะต้องหยุดเดินเครื่องยูนิต 9 และ 13 หากเหลือ 4
ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องหยุดเดินเครื่องยูนิต 8 เหลือ 3
ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องหยุดเดินเครื่องยูนิต 12 และเหลือ 2
ล้านลูกบาศก์เมตรต้องหยุดเดินเครื่องยูนิต 11 โดยจะเหลือเครื่องที่สามารถเดินเครื่องได้คือ
ยูนิต 4-7 กำลังผลิต 600
เมกะวัตถ์ ซึ่งใช้น้ำ 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เท่ากับ 9 แสนลูกบาศก์เมตรต่อเดือน
ที่เหลืออีก 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร จะส่งให้กับชุมชนได้ใช้
ในเรื่องนี้
นายนิกูล ศิลาสุวรรณ
ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 (ชฟฟ2.) กล่าวว่า
โรงไฟฟ้าแม่เมาะได้มีการประเมินปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่จางและอ่างเก็บน้ำแม่ขามตั้งแต่สิ้นสุดฤดูฝนของปี
2558 จึงมีการออกมาตรการประหยัดน้ำ
ทั้งการลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต อุปโภค บริโภค การนำน้ำทิ้งกลับมาใช้ใหม่
การหาแหล่งน้ำใหม่จากบ่อเหมืองคืออ่างห้วยเป็ด
สำหรับมาตรการระยะยาว มีการร่วมมือกันกับชุมชน หน่วยงานราชการ โดยการทำฝาย
ปลูกป่า เน้นการรักษาต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำ นอกจากนั้นได้ประสานงานกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเรื่องการทำฝนเทียม
ทำให้สามารถยืดเวลาการเดินเครื่องฯ ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม หากปริมาณฝนที่ตกในช่วงนี้ยังไม่เพียงพอ
อาจจะต้องลดกำลังการผลิตบางส่วนลงเพื่อบริหารน้ำไว้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยปี 2559 มีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินรองรับภาวะภัยแล้งเป็นครั้งแรก คือการประสานงานกับศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ
ฝ่ายควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าเพื่อหาแหล่งผลิตไฟฟ้าอื่นมาทดแทน
ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบด้านการจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนอย่างแน่นอน
จึงขอความร่วมมือจากทุกท่านในการช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการประหยัดน้ำต่อไป
เพราะน้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในปัจจุบัน
ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า
2 กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของ กฟผ.แม่เมาะ
มีประมาณ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร
เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าและใช้ในการอุปโภคและบริโภคของชุมชนโดยรอบ
แต่หากในช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ฝนทิ้งช่วงจนไม่มีปริมาณน้ำเข้าสู่อ่างเก็บน้ำ
โรงไฟฟ้าแม่เมาะอาจมีความจำเป็นต้องนำแผนฉุกเฉินรองรับภาวะภัยแล้งมาใช้
โดยจะหยุดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าบางหน่วย เพื่อรักษาปริมาณน้ำให้ชุมชนได้ใช้ตลอดสิ้นฤดูฝนนี้
ซึ่ง กฟผ.แม่เมาะ ขอให้ความมั่นใจว่าการหยุดเดินเครื่องดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในภาพรวมของประชาชน
โดย กฟผ.จะบริหารจัดการนำไฟฟ้าจากแหล่งผลิตอื่นเข้ามาทดแทนในระบบได้
ขณะที่สถานการณ์น้ำในเดือนมิถุนายน
ขณะนี้น้ำในเขื่อนกิ่วคอหมามี 35 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 20.6 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ช่วงภัยแล้งวิกฤตมีน้ำเพิ่มเข้ามา 19 ล้านลูกบาศก์เมตร สถานการณ์เริ่มฟื้นตัว
ส่วนเขื่อนกิ่วลม มีน้ำ 28.2 ล้านลูกบาศก์เมตร
มีน้ำเข้ามาช่วงต้นฝน 8 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 26.6 เปอร์เซ็นต์
แต่ก็ถือว่ายังน้อยอยู่
วันที่ 28 มิ.ย.59 นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นำหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่ติดตาม สถานการณ์
น้ำในเขื่อนกิ่วคอหมา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง โดยมีนายฤทัย พัชรานุรักษ์
ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในเขื่อน
ในสภาพปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่น้อย ขณะที่ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา
ได้คาดหมายลักษณะอากาศว่าจะมีพายุดีเปรสชั่น
พัดเข้ามายังพื้นที่ภาคเหนือในเร็ววันนี้
ซึ่งคาดหวังว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
นายสามารถ กล่าวว่า
จากที่ได้ออกไปติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนกิ่วคอหมา พบว่า มีปริมาณน้ำน้อยเหลือเพียง 21 % ของความจุอ่าง
และมีน้ำใช้การได้ 29 ล้านลูกบาศก์เมตร
เตรียมแผนสำรองน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรให้กับพื้นที่รับน้ำชลประทานอำเภอแจ้ห่ม
ให้มีน้ำสำหรับเตรียมแปลงเพาะปลูกข้าวนาปีฤดูฝนหน้า
ซึ่งจะมีความต้องการใช้น้ำในการเตรียมเพาะปลูก 6 ล้านลูกบาศก์เมตรได้เพียงพอ
รวมทั้งการอุปโภคบริโภคและประปาได้มีน้ำสำรองไว้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี
หากประเมินสถานการณ์แล้วพบว่ามี
อ.วังเหนือ มีฝนตกค่อนข้างมาก มีน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนกิ่วคอหมาถึง 19 ล้านลูกบาศก์เมตร
ต้องรอลุ้นต่อไปว่าจะมีฝนตกในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มด้วย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1085 วันที่ 1 - 7 กรกฎาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น