กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้ครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนี (ครูเมืองละกอน) วัดปงสนุกเหนือ อำเภอเมืองฯ จังหวัดลำปาง เป็น “บูรพศิลปิน” ประจำปีพุทธศักราช 2559 ไม่เพียงเป็นเกียรติประวัติแก่ตระกูลเครือจีนจ๋อย พระภิกษุ สามเณร และคณะศรัทธาบ้านปงสนุก แต่ยังรวมถึงชาวจังหวัดลำปางทุกคน
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดโครงการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรตินี้ขึ้น
เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่มีผลงานสร้างสรรค์
อันเป็นประโยชน์ต่องานวัฒนธรรม และเพื่อเผยแพร่ผลงาน ตลอดจนภูมิปัญญาของศิลปินผู้ล่วงลับให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม
โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อศิลปินผู้ล่วงลับว่า “บูรพศิลปิน” อันมีความหมายว่า
ศิลปินที่ควรแก่การเคารพยกย่อง ซึ่งล่วงลับไปแล้ว
เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณให้สาธารณชนเห็นความสำคัญในผลงานของศิลปินเหล่านั้น อันจะนำไปสู่การรัก
หวงแหน และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติสืบไปโดยกำหนดให้วันที่ 21 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเป็นวันประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ
“บูรพศิลปิน” โดยในปีนี้ ได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ “บูรพศิลปิน” ยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
จำนวน 241 คน
ครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนีกำเนิดในปี พ.ศ. 2369
ณ บ้านปงสนุก เป็นบุตรของพ่อจ๋อย ชาวจีนไหหลำ และแม่อุตส่าห์
ต่อมาอุปสมบทที่วัดปงสนุกเหนือในปี พ.ศ. 2389 ท่านมีความใกล้ชิดกับเจ้าผู้ครองนครลำปางตั้งแต่สมัยเจ้าวรญาณรังษีราชธรรม
โดยร่วมกันฝังเสาหลักเมือง ณ วัดปงสนุกเหนือในปี พ.ศ. 2400 ก่อนจะย้ายไปที่ศาลหลักเมืองปัจจุบัน
ท่านมีบารมี เป็นที่รู้จักและรู้จักผู้คนอย่างกว้างขวาง
จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดลำปางรูปแรก
นอกจากนี้ ครูบาฯ ยังมีงานสร้างสรรค์ทางศิลปะสถาปัตยกรรมปรากฏอยู่ในบันทึกอีกมากมาย
ได้แก่ การสร้าง การซ่อมพระพุทธรูป-ฉัตรยอดเจดีย์ ตามวัดต่าง ๆ ทั่วเมืองลำปาง
แต่ผลงานชิ้นเอกที่โดดเด่นที่สุดก็คือ การสร้างวิหารพระเจ้าพันองค์ วัดปงสนุกเหนือ
ในปี พ.ศ. 2429 เมื่อท่านอายุได้ 60 ปี พรรษา 40
วิหารพระเจ้าพันองค์เป็นวิหารโถงทรงจัตุรมุขย่อมุม
สร้างด้วยไม้ในลักษณะมณฑป หลังคาซ้อน 3 ชั้นที่คาดว่าคงเหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
ตัวอาคารแสดงลักษณะผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนา พม่า และจีน (สิบสองปันนา) ทั้งนี้
ครูบาฯ ท่านได้นำคติสัญลักษ์ทางศาสนามาผสมผสานกับงานศิลปกรรมได้อย่างวิจิตร
แม้ว่าวิหารจะมีขนาดเล็ก แต่การจัดวางองค์ประกอบที่ย้ำถึงความสำคัญของตัววิหาร
ซึ่งเปรียบดังปราสาทที่ประทับของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์
วิหารยังเน้นถึงการมาถึงอย่างอเนกอนันต์ของพระพุทธเจ้าที่เสด็จมาเผยแผ่พระธรรม
ขณะเดียวกันก็ใช้งานศิลปกรรมแสดงสัญลักษณ์ของภูมิจักรวาล
รวมไปถึงการบำเพ็ญเพียรของพระพุทธเจ้า
ที่เขียนเป็นภาพชาดกมาผสมผสานเป็นองค์ประกอบอย่างลงตัว
ครูบาฯ
ยังได้รับการยกย่องให้เป็นผู้รู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกครองและเผยแพร่
งานศิลปะสถาปัตยกรรม จิตรกรรม อักษรศาสตร์ ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์
วรรณกรรม จนได้รับการขนานนามว่า “ครูเมืองละกอน”
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1088 วันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น