
ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นำกำลังหลายหน่วยงานเข้าตรวจยึดถ่านไม้เถื่อนกว่า 400 กระสอบ น้ำหนักว่า 7 ตัน คาดลักลอบตัดไม้และเผาถ่านป่าท้ายเขื่อนกิ่วคอหมา ช่วงน้ำแห้ง
เมื่อวันที่
15 ก.ค.59 นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์
ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง
หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 พ.ต.ท.สมพงษ์
ตั้งตัว รอง ผกก.สส.สภ.แจ้ห่ม ทหารชุด ชป.ค่ายประตูผา ประจำอำเภอแจ้ห่ม
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ5 ลำปาง
ชป.ปทส.ภ.จว.ลำปาง ตำรวจ สภ.แจ้ห่ม ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่
เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง กำลังหน่วยป้องกันและรักษาป่า ในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม กว่า
20 นาย
เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 128 บ้านแม่ช่อฟ้า ต.แม่สุก
อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง หลังรับแจ้งว่ามากรซุกซ่อนถ่านไม้ไว้จำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบในบ้านหลังดังกล่าว
พบมีการซุกซ่อนถ่านไว้จริงจำนวน 2 จุด โดยจุดแรกเป็นโรงเลี้ยงหมู
มีการนำถ่านมาซุกซ่อนไว้ทั้งหมด 242 กระสอบถุงปุ๋ย จุดที่ 2
ที่ลานจอดรถพบอีก 138 กระสอบถุงปุ๋ย
เบื้องต้นพบว่าเป็นไม้กระยาเลย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่
ลป.10 (แม่สุก) เพื่อที่จะบันทึกคดี
ส่วนการเข้าตรวจยึดจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่
ได้รับการแจ้งจากพลเมืองดีว่าพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการนำถ่านมาซุกซ่อนไว้จำนวนมาก
จึงนำกำลังเข้ามาตรวจสอบและพบว่ามีการกระทำผิด
ส่วนเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุรับว่าถ่านทั้งหมดเป็นของตนเอง
เนื่องจากว่าตนเองมีอาชีพขายไก่ย่าง ขายส่งในพื้นที่ จ.ลำปาง จ.เชียงราย
และจะขายถ่านไปด้วยในตัวเพื่อใช้ในการย่างไก่ โดยได้รับซื้อถ่านมาจากชาวบ้าน
เมื่อช่วง 2-3
เดือนที่ผ่านมา ราคากระสอบละ 120 บาท
โดยทราบแต่เพียงว่าไปตัดและเผาถ่านที่ท้ายเขื่อนกิ่วคอหมา ช่วงน้ำแห้งขอด ซึ่งไม่คิดว่าจะมีความผิด
ในเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของถ่านไม้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แจ้ห่ม
ดำเนินการตามกฎหมายทันที
ทั้งนี้
ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ผู้ใดทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา
หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้าม ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
หรือได้รับสัมปทานตามความในพระราชบัญญัตินี้
และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงหรือในการอนุญาต
มาตรา
14
ผู้รับอนุญาตทำไม้ต้องเสียค่าภาคหลวงตามที่กำหนดไว้ ดังต่อไปนี้
(1) ต้องชำระค่าภาคหลวงล่วงหน้า
ต้นหรือท่อนละสองบาท เมื่อรับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
เว้นแต่ในท้องที่ใดที่คณะกรมการจังหวัดได้ประกาศโดยรับอนุมัติจากรัฐมนตรีให้งดเว้นไม่ต้องเรียกเก็บเงินค่าภาคหลวงล่วงหน้าหรือให้ลดอัตราค่าภาคหลวงล่วงหน้าลงจากอัตราที่กำหนดนี้
ก็ให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรมการจังหวัดนั้นๆการทำไม้สัก
ผู้รับอนุญาตจะต้องชำระค่าภาคหลวงล่วงหน้า
ตามอัตราที่คณะกรมการจังหวัดได้ประกาศโดยรับอนุมัติจากรัฐมนตรี
หรือตามอัตราที่รัฐมนตรีกำหนดเป็นรายๆ ไป
การทำไม้ฟืน หรือทำไม้เผาถ่าน ไม่ต้องเสียค่าภาคหลวงล่วงหน้า
(2)
ต้องชำระค่าภาคหลวงให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดสามสิบวัน
นับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งจำนวนค่าภาคหลวงให้ทราบ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1088 วันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น