
เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม. 3 โรงเรียนในสังกัดเทศบาล รับแปลภาษาจีนให้พ็อกเก็ตบุ๊ค และนิตยสารโดยใช้เวลาช่วงหลังเลิกเรียน มีรายได้ร่วม 3 หมื่นบาทต่อเดือน เผยเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่ระดับประถม และศึกษาค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตัวเองจนสามารถอ่านออก เขียนได้ และพูดโต้ตอบภาษาจีนกลางได้เป็นอย่างดี
น.ส.เบญญาภา
หมั่นทำ หรือน้องพี อายุ 15 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3/2
โรงเรียนเทศบาล 5 (บ้านศรีบุญเรือง) บุตรสาวคนเดียวของ
นายบุญสม และนางอนงค์นาฏ หมั่นทำ ผู้เป็นพ่อรับราชการอยู่กรมราชทัณฑ์
ส่วนแม่มีอาชีพค้าขาย อาศัยอยู่บ้านเช่าในชุนชนหนองละคอน เลขที่ 18/2 ถ.พระเจ้าทันใจ ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง
มีทักษะด้านภาษาจีนกลางเพราะเคยเรียนระดับประถมถึงชั้นมัธยมปีที่
1 ที่โรงเรียนประชาวิทย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เน้นสอนภาษาจีน
ก่อนจะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเทศบาล 5 (บ้านศรีบุญเรือง)
แต่หลังออกจากโรงเรียนจีนมาก็พยายามค้นคว้า
และศึกษาทักษะด้านภาษาจีนกลางด้วยตนเองตามอินเตอร์เน็ต และห้องสมุด
รวมถึงขอคำแนะนำจากอาจารย์ที่สอนภาษาจีนที่โรงเรียนเทศบาล 5 กระทั่งมีความสามารถในการพูดคุยภาษาจีน
เขียนภาษาจีน และแปลภาษาจีนได้อย่างดี
ทำให้มีสำนักพิมพ์ติดต่อให้แปลนิยายจีน และมีรายได้เป็นของตัวเอง
ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี
น.ส.เบญญาภา เล่าว่า แรกเริ่มได้ลองหัดแปลภาษาจีนกลางมาเป็นภาษาไทย
จากนวนิยายจีนและการ์ตูนของจีน โดยเป็นการแปลสนุกๆ เพื่อแจกจ่ายให้เพื่อนอ่านเล่นกัน
หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน ที่ผ่านมา มีพี่จากสำนักพิมพ์นิยายจีนคนหนึ่งที่รู้จักและคุยกันผ่านทางทวิทเตอร์ได้ถามว่า
มีความรู้ด้านภาษาจีน สนใจแปลนวนิยายจีนส่งให้โรงพิมพ์หรือไม่
จึงตกลงรับงานแปลจากนั้นเป็นต้นมา โดยระยะเวลาร่วม 3
เดือนที่ผ่านมา น้องพีจะมีรายได้จากการรับแปลนวนิยายจีนเฉลี่ยเดือนละ 2.5 ถึง 3 หมื่นบาท ทั้งนี้ ทำผลงานแปลไปแล้ว 3 เรื่อง ได้เงินก้อนมากถึง
6 หมื่นบาททีเดียว
นอกจากนั้นยังมีสำนักพิมพ์จากประเทศไต้หวัน ส่งนิยายจีนมาจ้างให้แปลด้วย
สำหรับทักษะด้านภาษา
และสำนวนที่แปลเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านให้สนุกยิ่งขึ้นนั้น น้องพี บอกว่า
จะพยายามศึกษาโดยการอ่านนิยายของไทยควบคู่ไปด้วย เพื่อศึกษาสำนวนและคำศัพท์ของไทย
ก่อนนำไปประยุกต์ใช้กับนิยายของจีน ซึ่งทางสำนักพิมพ์ที่ว่าจ้างก็ถูกใจในผลงาน
และป้อนงานส่งมาให้เรื่อยๆ
ด้านนางอนงค์นาฏ
หมั่นทำ มารดาน้องพี กล่าวว่า
ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าลูกหารายได้เองได้เป็นหลักหมื่นบาท
เพราะกลับมาจากโรงเรียนน้องพีก็จะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง นั่งเล่นแต่ไอแพด
แม่ก็คิดว่าลูกเล่นเกม เล่นอินเตอร์เน็ตตามประสาเด็กทั่วไป แต่มารู้ก็เมื่อเห็นบัญชีธนาคารของลูกว่ามียอดเงินโอนเข้ามา
จึงได้สอบถามน้องพีจึงเล่าให้ฟัง ก็รู้สึกแปลกใจ และดีใจมากที่น้องพี
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และหาเงินได้ด้วยตัวเอง โดยการใช้ความสามารถของตัวเอง
ซึ่งทางพ่อแม่เองก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเงินของน้อง
แต่จะคอยแนะนำเรื่องการใช้จ่ายว่าไม่ควรฟุ่มเฟือย หากอยากได้อะไรให้คิดก่อน
เพราะเงินไม่ได้หามาได้ง่ายๆ
ตอนแรกเมื่อได้เงินมาน้องก็อยากได้ของชิ้นนั้นชิ้นนี้เหมือนเด็กทั่วไป
แต่ได้เตือนได้แนะนำไป ก็เข้าใจ และเริ่มคิดมากขึ้นก่อนที่จะใช้เงิน
อย่างไรก็ตาม
ด้วยความที่น้องพี ยังเป็นนักเรียนจึงต้องแบ่งเวลางานกับการเรียนให้ไปด้วยกันได้
โดยจะใช้เวลาหลังเลิกเรียนประมาณ 3-4 ชั่วโมงสำหรับงานแปลหนังสือ
แต่ก็ยังมีเวลาเจียดให้กับความบันเทิงส่วนตัว เช่น ดูละคร ฟังเพลงตามประสาวัยรุ่น
ซึ่งผู้ปกครองก็เข้าใจ โดยจะคอยให้คำแนะนำในเรื่องการบริหารเวลา การพักผ่อน รวมไปถึงการใช้เงินที่หามาได้ด้วยตัวเอง.
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1088 วันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น