ทหารและตำรวจ เข้าตรวจลายนิ้วมือแกนนำเสื้อแดงลำปาง เพื่อตรวจสอบเทียบหลังพบจดหมายหมิ่นเหม่ร่าง รธน. กว่า 4,000 ฉบับ ต่างปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องแน่นอน ด้าน กกต.เดินสายรณรงค์ให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากที่สุด ตั้งเป้า 80 เปอร์เซ็นต์
จากกรณีที่ทำการไปรษณีย์ลำปาง
ตรวจพบความผิดปกติของจดหมายมากกว่า 4,300 ฉบับ
ที่มีความหมิ่นเหม่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ
ซึ่งปลายทางจดหมายนำส่งในพื้นที่ จ.ลำพูนทั้งหมด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบทันที
โดยมีทาง พล.ต.กิตติศักดิ์ แม้นเหมือน ผบ.มทบ.32 ตำรวจ เจ้าหน้าที่ กกต.ลำปาง ร่วมกันเข้าตรวจสอบ
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าในการสืบสวนหาตัวผู้ส่งจดหมายดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในทุกจุดสำคัญ
โดยเฉพาะจุดที่มีการหย่อนจดหมายลงตู้ไปรษณีย์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตตัวเมืองลำปาง ปรากฏว่าพบชายต้องสงสัย
สวมหมวกแก็ปปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอด และทำการหย่อนจดหมายลงตู้ไปรษณีย์ที่มีการตรวจพบจดหมาย แต่เจ้าหน้าที่ขอไม่เผยแพร่ภาพดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่
15 ก.ค.59 เวลา 14.00 น.
เจ้าหน้าที่ทหาร นำโดย พ.อ.เมธา ณ พิกุล รองเสนาธิการ มทบ.32 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง นำโดย พ.ต.ต.ประสิทธิ์
หล้าสมศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองลำปาง นำเจ้าหน้าที่เข้าพบนางธิมลวรรณ จินากูล
หรือ เจ๊เพ็ญ ที่ร้านถ่ายเอกสารศรีชุมชิว บริเวณสี่แยกไฟแดงศรีชุม ต. สวนดอก
อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นร้านที่เคยขึ้นป้ายตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติของ
นปช. ที่ จ.ลำปาง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ
พร้อมทั้งทดลองถ่ายเอกสารกับเครื่องภายในร้าน
เพื่อนำไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับจดหมายเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่ไปรษณีย์ลำปางพบกว่า
4,300ฉบับ เมื่อวันที่ 12-14 ก.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งนางธิมลวรรณ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
นางธิมลวรรณ
กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนทำจดหมายเหล่านั้นอย่างแน่นอน
และไม่ใช่วิธีการที่ตนเองจะต่อสู้ ต้องสู้ด้วยความคิด
การส่งจดหมายแบบนี้เป็นวิธีที่ชาวบ้านทำกัน ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร
หรือกลุ่มใด ก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการติดตามตัว
ใครที่จะมาป้ายความผิดมาให้ตนเองนั้น ตนจะฟ้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ทหารอีกชุดหนึ่ง
ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่บ้านของนายรัชชานนท์ รอดฉวาง แกนนำเสื้อแดงอีกคนหนึ่งของ
จ.ลำปาง ในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร
จ.ลำปาง พร้อมกับทำการพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง
10 นิ้ว เพื่อนำไปเปรียบเทียบบนจดหมายที่พบในตู้ไปรษณีย์ ซึ่งนายรัชชานนท์
ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจดหมายดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้
ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งติดตามตัวผู้กระทำการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ กกต.ลำปาง เดินหน้ารณรงค์ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญประสานความร่วมมือสถาบันการศึกษาในพื้นที่
จัดกิจกรรม 6 สัปดาห์ประชามติ และจัดกิจกรรมรถม้าประชาสัมพันธ์
การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 26 ก.ค.นี้
นายสุคนธ์
เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปางได้จัดกิจกรรม
6 สัปดาห์ประชามติขึ้น ระหว่างวันที่ 3 ก.ค.- 7 ส.ค.59 โดยขอความร่วมมือจากผู้อำนวยการโรงเรียนระดับประถมและมัธยม
ในพื้นที่จังหวัดลำปางทุกโรงเรียน รวมจำนวน 474 โรงเรียน
จัดกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
ภายในสถานศึกษาแต่ละแห่ง ร่วมกับครูประจำชั้นและนักเรียน
รวมทั้งขยายผลการประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปสู่ผู้ปกครองของนักเรียน
นอกจากนั้นได้จัดส่งนักศึกษาวิชาทหาร
จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ในจังหวัดลำปาง ที่อาสาสมัครเข้ามาเป็น รด.จิตอาสา จำนวน 150 นาย ลงพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดลำปาง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร
จากสัสดีอำเภอ และผู้กำกับการ รด. จากสถาบันการศึกษาต่างๆ
ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอน
และวิธีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแก่ประชาชน
รวมทั้งเชิญชวนผู้มีสิทธิออกเสียงออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้มากที่สุด
ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง
กล่าวว่า ในวันที่ 26 ก.ค.59
เวลา 09.00 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง
กำหนดจัดกิจกรรมรถม้าประชาสัมพันธ์ การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
โดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หัวหน้าส่วนราชการ
บุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดลำปาง ร่วมนั่งขบวนรถม้าจำนวน 30 คัน นำรถแห่ประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยขบวนตีกลองปูจา
ออกจากบริเวณข่วงนครไปตามถนนสายต่างๆ ในพื้นที่เขตเมืองลำปาง รวมระยะทางประมาณ 4
กิโลเมตร
เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนชาวลำปางผู้มีสิทธิออกเสียง
ไปใช้สิทฺธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.59 ระหว่างเวลา 08.00 – 16.00 น. ให้มากที่สุด
ด้านพลตรีกิตติศักดิ์
แม้นเหมือน ผบ.มทบ.32
กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่เหลืออยากจะให้สื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด
เดิมที่ผ่านมาการลงประชามติคนลำปางออกไปใช้สิทธิเพียง 53 เปอร์เซ็นต์
แต่ครั้งนี้อยากจะให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุดโดยได้ตั้งเป้าไว้ที่
80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจะรับหรือไม่รับก็อยู่ที่ประชาชน
โดยทหารจะให้การสนับสนุนทุกอย่าง
ส่วนกรณีที่มีชาวลำปางส่วนเล็กๆที่อาจจะสร้างกระแสให้เกิดความขัดแย้งขึ้น
ก็อยากเตือนว่าอย่าได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย อยากให้บรรยากาศการลงประชามติเป็นไปอย่างเรียบร้อย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1088 วันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น