ชาวบ้านอพยพแม่เมาะ ผ่าน 34 ปี เพิ่งได้เอกสารสิทธิ์เพิ่มอีก 875 แปลง หลังชุดแรกได้โฉนดไปแล้ว เตรียมจัดพิธีมอบกลางเดือน ส.ค. ขณะที่ยังมีตกค้างอีก 200 แปลง รอรังวัดที่ดิน ส่วนราษฎรอพยพรอบที่ 4-6 ยังไร้วี่แวว
เมื่อวันที่
11 ก.ค. 59
ที่ผ่านมา ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหา
การออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ นำโดยนายจิรชัย มูลทองโร่ย
รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในแก่ราษฎรอำเภอแม่เมาะ
ซึ่งล่าสุดวันที่ 1 ก.ค.59
ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนที่ 56 ก หน้า 15-18
กฎกระทรวงให้เพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จาง (ตอนขุน) บางส่วน ในท้องที่
ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
และเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติแม่จาง บางส่วน ในท้องที่ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ
จ.ลำปาง
ออกจากการเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
ซึ่งได้กำหนดจัดพิธีมอบเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินให้กับราษฎร จำนวน 875 ราย/แปลง ช่วงกลางเดือน ส.ค. 59 นี้
นายธันย์
นุชนิยม รองนายกเทศมนตรีตำบลแม่เมาะ ในฐานะคณะกรรมการติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ
เปิดเผยว่า หลังจากที่
กฟผ.ได้ดำเนินการขยายพื้นที่เหมืองแม่เมาะ และโครงการแม่จาง
เพื่อการจัดหาแหล่งน้ำใช้ในการหล่อเย็นของเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า ที่ อ.แม่เมาะ
จ.ลำปาง ในช่วงปี 2521-2536 จึงต้องอพยพราษฎรที่มีกรรมสิทธิ์ในพื้นที่อยู่แล้วไปอยู่ในพื้นที่บ้านท่าปะตุ่น-นาแขม
ปัจจุบันคือบ้านใหม่นาแขม หมู่ 7 และบ้านเมาะหลวง
หมู่ 8 ต.แม่เมาะ
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่เมาะ และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่จาง
และที่บ้านใหม่รัตนโกสินทร์ หมู่ 5 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าแม่จาง(ตอนขุน)
และราษฎรได้มีการชุมนุมเรียกร้องให้ทางราชการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับเอกสารสิทธิในพื้นที่อพยพจากการขยายเหมืองมาโดยตลอด
แต่เนื่องจากพบปัญหาว่าพื้นที่การอพยพดังกล่าว คาบเกี่ยวกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และ พื้นที่ ส.ป.ก. จึงไม่สามารถออกโฉนดให้ได้
กระทั่ง
มติ ค.ร.ม.วันที่ 15 ส.ค. 43
มีมติอนุมัติให้ดำเนินการออกเอกสารสิทธิเฉพาะในส่วนที่อยู่อาศัย และให้ออก ส.ป.ก.4-01 ในส่วนที่ทำกิน ให้แก่ราษฎรตามบัญชีรายชื่อ แต่ประสบปัญหาพื้นที่ทับซ้อน
จึงมี มติ ค.ร.ม.วันที่ 8 มี.ค.48
จึงได้สั่งให้ทบทวนมติ ค.ร.ม.ของวันที่ 15 ส.ค.43 เกี่ยวกับพื้นที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ
ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพิกถอนเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร
บริเวณบ้านใหม่รัตนโกสินทร์ หมู่ 5 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ
เนื้อที่ประมาณ 216 ไร่
แล้วส่งมอบให้กรมที่ดินดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้กับราษฎร
และมอบพื้นที่ที่เพิกถอนจากป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 5,388 ไร่
ให้กรมที่ดิน และ ส.ป.ก.ดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้แก่ราษฎร
โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิให้แก่ราษฎรในพื้นที่
อ.แม่เมาะ จ.ลำปางขึ้น
จากนั้นได้ทำการออกเอกสารสิทธิให้กับราษฎรจำนวน 1,665
แปลง และออก ส.ป.ก.4-01 ให้ราษฎร 239 ราย
ยังเหลือราษฎรที่ตกค้างยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์อยู่ 1,067 แปลง และ ส.ป.ก.4-01 จำนวน 14 ราย
นายธันย์
กล่าวว่า ล่าสุด กฎกระทรวงได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
มีผลบังคับใช้แล้ว
ก็สามารถดำเนินการมอบโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎรในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางที่เพิกถอนแล้ว
ได้จำนวน 875 ราย/แปลง
โดยได้กำหนดให้มีพิธีมอบเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎรในพื้นที่
อ.แม่เมาะ ไว้ระหว่างวันที่ 15-18 ส.ค.59 นี้
ซึ่งหลังจากทราบเรื่องได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบ
ชาวบ้านต่างดีใจที่จะได้เอกสารสิทธิหลังจากที่รอมายาวนานหลายสิบปี แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีชาวบ้านที่ยังค้างอยู่ประมาณ
200 ราย ที่จะยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิดังกล่าว
เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินเข้ามาทำการรังวัดปักหมุด
น่าจะสามารถออกเอกสารสิทธิให้ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
รองนายกเทศมนตรี
กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการอพยพคนออกจากพื้นที่ คำนวณด้วยเม็ดเงินว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไร
แต่ไม่ได้คำนวณเรื่องพื้นที่ โดยส่วนตัวอยากจะเสนอให้มีการออกกฎหมายฉบับพิเศษขึ้น
เพื่อรองรับประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะการผลิตไฟฟ้า แต่รวมไปถึงเรื่องการขยายชลประทาน
การขยายเขตทางหลวงด้วย ถ้ามีกฎหมายพิเศษออกมา กรณีการเวนคืนที่ดิน ควรจัดสรรพื้นที่และออกโฉนดรองรับให้ด้วย ไม่ใช่ว่าอยากจะย้ายก็ให้ย้ายไป แต่ไม่มีระบบสาธารณูปโภคอะไรไว้ให้ชาวบ้าน ชาวบ้านก็ต้องมารวมตัวกันเรียกร้องสิทธิ
ทำให้ชาวบ้านขาดสิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดิน กว่าจะได้รับสิทธิถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องรอถึง
30 ปี
ด้านนางมะลิวรรณ
นาควิโรจน์
ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ซึ่งอพยพออกมาเป็นครั้งที่ 6
กล่าวว่า
ดีใจกับชาวบ้านที่ได้รับเอกสารสิทธิแล้ว ขนาดย้ายมานานตั้งแต่รอบที่ 1-3 ยังเพิ่งได้รับเอกสารสิทธิ ไม่รู้ว่ากลุ่มของตนเองจะต้องรอไปอีกนานเท่าไร
ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เห็นถึงความสำคัญและช่วยผลักดันในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดด้วย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1087 วันที่ 15 - 21 กรกฎาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น