โลกยุคที่ผู้คนเสพติดออนไลน์ เป็นโลกที่ประกอบสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘ดราม่า’ ให้เห็นกันเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะดราม่าคือการแสดงในโรงละคร การแสดงละครวิทยุหรือโทรทัศน์ คนยุคใหม่จึงดราม่าสร้างเรื่องราวให้เห็น ให้เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ซ่อนมายาไว้ข้างหลัง
ฝรั่งบอก “Don’t make a drama” อย่ามาดราม่ากับฉัน
แต่คนไทยดราม่ากันเสียจนแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนจริงสิ่งไหนปลอม กว่าจะรู้ว่าดราม่า
หรือกว่าจะโอละพ่อ ก็ฝังหัว ปักใจเชื่อเรื่องนั้นๆไปแล้ว
ดราม่ามีอยู่ทุกหนแห่ง ลำปางก็นับเมืองที่มีดราม่าอยู่บ่อยครั้ง
ตั้งแต่ดราม่าหญิงโบราณ ดราม่าทหารหนุ่มลักไม้ที่เกาะคา
ดราม่าบนท้องถนนที่มาประจานกันในเฟสบุ๊คกลุ่ม Lampang city ที่เป็นคดีความมาก็หลายครั้งจนกระทั่งดราม่ามาถึงเรื่องเงินๆทองๆ
เมื่อโลกของการรับรู้ข่าวสาร แทบจะอยู่ในกำมือของผู้รับสารทุกคน
ทำให้วงการข่าวก็ผันตัวผลิตข่าวแบบอุตสาหกรรม ที่หลายครั้งเสนอข่าวแบบเอาเร็ว
เอาไว เอากระแส จึงทำให้หลักการการทำข่าว “ถูกต้อง
ครบถ้วน รอบด้าน” ถูกเก็บไว้ที่หิ้งบูชาบ่อยครั้ง
ลำปางผวา! ภาพลี้ลับคล้ายหญิงโบราณนั่งบนหลังคา (กันยายน 2557)
ภาพคล้ายหญิงโบราณบนหลังคา เรียกได้ว่าเป็นประเด็นฮือฮาได้เพียงแค่ข้ามคืน
เมื่อชาวเน็ตแชร์และให้ความสนใจภาพประหลาดวัตถุสีเขียวเรืองแสง คล้ายหญิงไทยโบราณ นั่งอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง
คาดว่าน่าจะภาพถ่ายติดวิญญาณหรือเจ้าที่เจ้าทางตามความเชื่อส่วนบุคคล จนกระทั่งมีผู้นำเอาภาพถ่ายสถานที่เดียวกันในเวลากลางวัน
กลับพบว่า ภาพวัตถุประหลาดดังกล่าวเป็นเพียง ส่วนยอดของต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังบ้าน โผล่พ้นหลังคาขึ้นมาเท่านั้น
เมื่อกระทบแสงไฟในเวลากลางคืน จึงกลายเป็นภาพดังกล่าว
แก๊งรถตู้อุ้มเด็กอาละวาดสระบุรี (มิถุนายน 2557)
สองพี่น้องกุเรื่องแก๊งรถตู้ฉุดตัว เป็นกรณีข่าวที่สร้างตกใจกับสังคมเป็นอย่างมาก
เมื่อเด็กหญิง 2 พี่น้องวัยเรียนที่ จ.สระบุรี แจ้งว่า ถูกคนร้ายเป็นแก๊งรถตู้ไล่ล่าตามจับ
ระหว่างทางกำลังไปโรงเรียน จนต้องวิ่งเข้าขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
และกลายเป็นปฏิบัติการติดตามรถตู้ต้องสงสัยเป็นพัลวัน แต่ในวันถัดมา เด็กหญิงทั้ง
2 ออกมายอมรับว่า สร้างเรื่องขึ้นมา เพราะไม่อยากไปโรงเรียนเท่านั้น เนื่องจากเพิ่งถูกคุณครูทำโทษยืนหน้าห้องเรียน
ตำรวจท่องเที่ยวรุดช่วย ฝรั่งขาบวมนั่งขอทานถนนข้าวสาร (กันยายน
2557)
สุดท้ายกลายเป็นเรื่องหลอกลวง นี่คงเป็นประเด็นข่าวที่สร้างความโกรธแค้นให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก
หลังจากที่โลกออนไลน์แชร์เรื่องราวน่าสงสารของฝรั่งหนุ่มชาวเยอรมัน นั่งขอทานกลางเมืองกรุง
ในลักษณะขาบวมโตผิดปกติ เรื่องราวแบบนี้คนไทยไม่นิ่งดูดายต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่แล้ว
แตกลายเป็นเรื่อง โอละพ่อไปได้ เมื่อมีคนพบเห็นชายคนดังกล่าว ย้ายไปนั่งขอทานที่เมืองพัทยา
แถมยังดื่มเที่ยวปาร์ตี้ หนำซ้ำยังด่าคนไทยโง่...ให้เงินมาใช้ฟรีๆ สุดท้าย ไอ้หนุ่มฝรั่งคนนี้ต้องออกไปจากเมืองไทย
แต่ก็ยังมีคนเห็นว่าไปก่อเหตุแบบเดียวกันอยู่แถบทวีปยุโรป
โอละพ่อ เรื่องล่าสุด คงหนีไม่พ้นข่าว “ฉุดเด็กหญิง” โดยผู้สื่อข่าวแจ้งว่ามีข้อความจาก
ผอ.โรงเรียนสตรีนนทบุรีส่งข้อความผ่านไลน์เตือนไปยังผู้ปกครองให้ระวังแก๊งลักพาตัวเด็กนักเรียน
หลังจากที่นักเรียนหญิงชั้น ม.6 กับผู้ปกครอง
เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าถูกมีชายฉกรรจ์สามคนฉุดนักเรียนหญิงขึ้นรถสีดำ
แต่เห็นท่าไม่ดีเลยถีบนักเรียนหญิงตกรถจนได้บาดเจ็บฟกช้ำ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา
แต่จากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุไม่ตรงกับคำให้การของนักเรียนหญิงว่าไม่มีการฉุดกระชากอะไรเกิดขึ้น
นักเรียนหญิงได้ลงจากรถมาเอง และเมื่อตรวจสอบเลขทะเบียนรถดังกล่าว ก็พบว่าเป็นของอาจารย์ที่สอนวิชาคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนสตรีนนทบุรี
อาจารย์เจ้าของรถ เปิดเผยว่าได้มารับ-ส่งนักเรียนหญิงเกือบทุกวัน โดยนักเรียนหญิงจะนั่งแท็กซี่มายังจุดนัด
และก็จะนั่งรถมาด้วยกันจนถึงโรงเรียน ส่วนในวันเกิดเหตุนั้น นักเรียนหญิงพอขึ้นรถมาก็เอาแต่ก้มหน้าเล่นไลน์
อาจารย์ก็ได้ดุไปว่าทำไมเอาแต่เล่นไลน์ เดี๋ยวสายตาเสีย ด้านนักเรียนหญิงไม่พอใจจึงขอลงจากรถ
โดยอาจารย์ยืนยันว่าไม่มีเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด สุดท้ายข่าวที่แชร์กันว่อนเนตก็กลายเป็น
เรื่องโอละพ่อ...ที่นร.ม.6 กุเรื่องขึ้นมา ล่าสุด มีคำสั่งย้ายอาจารย์รายนี้ไปช่วยราชการ
ที่ สพม.เขต 3 นนทบุรีและตั้งคณะกรรมการสอบสวน
โอละพ่อข่าวทั้งหลายที่ดูเหมือนว่าจะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากพวงจากที่การผลิตข่าวกลายเป็น
“อุตสาหกรรมข่าว”
ที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ
เพื่อให้มีจำนวนข่าวอัพโหลดสู่เว็บไซด์ทุก5นาที เพื่อเรียกเรทติ้ง เพื่อสร้างกระแส
โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงกันหรืออย่างไร ทั้งที่แค่ดึงเวลาสอบถามข้อมูลทั้งสองด้าน
ไม่ใช่ลงข่าวไปก่อน แล้วค่อยแก้ข่าวกันทีหลัง
แต่จากที่ผ่านมา รู้หรือไม่ เมื่อข่าวร้ายถูกจุดประเด็นขึ้นมา
คนในข่าวจะถูกด่าทั้งในโซเชียลและในชีวิตจริงที่ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะถูกนินทาลับหลังเข้าใจผิด
ทำให้ได้รับการเกลียดชังด่าพ่อล่อแม่ด่าไปถึงวงศ์ตระกูลเลยก็มีให้เห็นมาแล้ว อย่างกรณีข่าว
หนุ่มบนรถบีทีเอสถูกแอบถ่ายรูปขึ้นเฟสบุ๊คหาว่าเป็นโรคจิตซ่อนกล้องไว้ที่รองเท้า แต่ที่ไหนได้รองเท้าแค่ขาดเป็นรูเท่านั้นเอง แต่ทันทีที่ภาพนี้ถูกแชร์ทุกคนก็พร้อมรวมพลังด่า
แห่กันแชร์ แต่เมื่อความจริงปรากฏว่า รองเท้าแค่ขาดกลับไม่มีใครรับผิดชอบเรื่องนี้เลย
ทำให้ชายคนนี้กลายเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่อยากเข้าสังคมโดยที่เขาไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย
!!!
มาตอนนี้ มีข่าว สาวลูกจ้างชั่วคราว
อบจ.ลำปาง ที่กำลังเป็น Talk of the
Town ขณะนี้ก็ไม่รู้ว่าจะจบลงยังไง เพราะมีการรายงานข่าวว่าพนักงานธนาคารยอมรับว่าที่ปลอมลายเซ็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
และปลอมลายเซ็นเป็นลายเซ็นที่ตรงกับของลายเซ็นพนักงานธนาคารที่เซ็นใน passport
ของเขาเองด้วย (สงสัยในใจว่าทำไมถึงเทียบกับลายเซ็นในพาสปอตที่เป็นของส่วนตัว)
มีข้อสงสัยมากมายในข่าวนี้ ไม่ว่าจะเป็นมีเงินแปลกปลอมโอนเข้ามาแต่ก็เอาไปใช้แล้ว ยอดหนี้ประมาณแสนบาทแต่จะถูกยึดบ้าน และมีหลายฝ่ายที่ถูกพาดพิง
ทั้งอัยการ ธนาคารกรุงไทยที่ตอนนี้ออกมาชี้แจงแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
แต่ก็หวังว่าจะไม่ใช่ข่าว โอ..ละพ่อ ลำปาง นะครับเจ้านายยยย....
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1093 วันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น