
ผู้ประกอบการโอทอปจับตานโยบายช๊อปโอทอปลดภาษี
หลังรัฐให้ข่าวดีเดย์ สิงหาคมนี้แต่ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่รัฐยังมึน
หวั่นเป็นแค่โครงการสร้างบรรยากาศกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่ผู้ประกอบการรายเล็กไม่ได้ประโยชน์
จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม
2559 มีมติเห็นชอบหลักการมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมสินค้า OTOP
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ผ่านการใช้จ่ายของประชาชนในการซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP และกระจายรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในท้องถิ่นและชุมชน
ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง มีมาตรการทางภาษี
ให้ประชาชนมีสิทธิ์หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้อสินค้า OTOP
ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขว่าต้องเป็นสินค้า OTOP ที่ได้รับการรับรองและลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น
โดยจะสามารถซื้อสินค้าเพื่อรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคมนี้ ใบกำกับภาษีต้องระบุรายการว่าเป็นสินค้า
OTOP ซึ่ง
มาตรการดังกล่าวรัฐบาลคาดหวังจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในภาพรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ผ่านการใช้จ่ายของประชาชนในการซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP และกระจายรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในท้องถิ่น
และชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ แรงงาน วัตถุดิบ วัสดุอุปกรณ์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งยังเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมากยิ่งขึ้น
ในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลำปางเจ้าหน้าที่ระบุว่าขณะนี้ยังเป็นนโยบายจากคณะรัฐมนตรีที่เป็นข่าวในสื่อมวลชนส่วนกลาง
แต่ยังไม่มีหนังสือราชการกำหนดระเบียบหรือนโยบายอย่างเป็นทางการทั้งนี้มี
ผู้ประกอบการโอทอปลำปางบางส่วนสอบถามเข้ามาถึงแนวทางระเบียบต่างๆซึ่งก็ต้องรอให้มีหนังสือประกาศจากราชการจึงจะสามารถประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลได้
ทั้งนี้ในจังหวัดลำปางมีเพียงผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นโอทอปจากกลุ่มชาวบ้าน
ซึ่งมีนิติบุคคลที่เข้าหลักเกณฑ์เป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการร่วมโครงการนี้น้อยมาก
ขณะนี้ ผู้ประกอบการโอทอป
ที่มีสินค้าโอทอปตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป หลายรายให้ความเห็นตรงกันว่า
เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจที่เอื้อต่อโอกาสของ
โอทอป แต่หากมองในแง่ของการเอื้อต่อประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับภาษี
ผู้ซื้อจะได้ประโยชน์มาก ส่วนผู้ประกอบการก็อาจจะมียอดขายเพิ่มขึ้น
แต่เชื่อว่าบางรายอาจจะไม่สนใจโครงการนนี้เพราะตามความจริงแล้ว มีผู้ประกอบการนิติบุคคลที่จดมูลค่าเพิ่มน้อยมากส่วน
ผู้ซื้อประเภทบุคคลทั่วไปมักมียอดซื้อต่ำกว่า 15,000 บาท ยกเว้นผู้ซื้อที่เป็นธุรกิจด้วยกัน
หรือเป็นหน่วยงานรัฐหรือเอกขนซึ่งได้รับสิทธิ์ทางภาษีอย่างอื่นอยู่แล้ว
การนำใบเสร็จรับเงินจาก ร้านขายสินค้าโอทอปไปลดหย่อนภาษีอาจจะมีส่วนน้อยมาก
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1089 วันที่ 29 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น