กฟผ.แม่เมาะขอสูบน้ำเขื่อนกิ่วลม 16 ล้าน ลบ.ม. นำไปใช้ผลิตไฟฟ้า หลังน้ำในอ่างเก็บน้ำ 2 อ่างในพื้นที่ยังวิกฤติ เหลือเพียง 28 ล้าน ลบ.ม.
หลังจากเมื่อวันที่
15 ก.ย.59 นายไชยงค์ จงอาสาชาติ
ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 เป็นประธาน
ในการประชุมเพื่อหารือการขออนุญาตใช้น้ำจากเขื่อนกิ่วลม สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะในเบื้องต้น
พร้อมทั้งร่วมกันพิจารณาการพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนปี 60 เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาปริมาณน้ำไหลเข้าในช่วงปลายฤดูฝน
โดยมีนายฤทัย พัชรานุรักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา,
นายวศิน ลีลาชินาเวศ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม
และคณะกรรมการกำกับดูแลการเดินเครื่องสูบน้ำตามโครงการนำน้ำกิ่วลมไปใช้ประโยชน์สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะตามประกาศจังหวัดลำปาง
ลงวันที่ 25 ต.ค. 43 เข้าร่วมประชุม ณ
ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา
ต่อมาเมื่อวันที่
19 ก.ย. 59 คณะกรรมการกำกับดูแลการเดินเครื่องสูบน้ำ
ตามโครงการ "นำน้ำกิ่วลมไปใช้ประโยชน์สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ" นำโดยนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะกรรมการ ที่ห้องประชุมเขลางค์นคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลำปาง
เพื่อร่วมกันพิจารณาอนุมัติการขออนุญาตสูบน้ำจากเขื่อนกิ่วลมเป็นกรณีเร่งด่วน
เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า
หลังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหลักทั้งสองแห่งในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ คือ
อ่างแม่จาง และอ่างแม่ขาม ยังวิกฤต ซึ่งเป็นสองเขื่อนหลักที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะได้สูบน้ำไปใช้เพื่อเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า
ยังคงมีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือน้อย แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาพื้นที่ แต่ปรากฏว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่อ่างกักเก็บน้ำทั้งสองแห่งมีปริมาณน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าตลอดทั้งปี
โดยนายชัยพร ไพฑูรย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายผลิตโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
และว่าที่ ร.ต.ณรงค์ศักดิ์ คุณูปถัมภ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
เป็นตัวแทนของ กฟผ.แม่เมาะเข้าร่วมประชุม และได้แจ้งสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง
2 แห่งว่า วันที่ 16 ก.ย.59 ปริมาณน้ำใช้การได้ในอ่างกักเก็บน้ำทั้งสองแห่งรวมกัน มีเหลืออยู่เพียง 28.78
ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น ขณะที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะยังมีความต้องการใช้น้ำ
เพื่อใช้ในการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าอีกประมาณเดือนละ 6 ล้าน
ลบ.ม. รวม 48 ล้าน ลบ.ม. จึงคาดการณ์ได้ว่าหากไม่มีปริมาณน้ำเข้ามาเพิ่มเติมภายในอ่างกักเก็บน้ำ
น้ำที่มีอยู่จะไม่เพียงพอสำหรับการเดินเครื่องเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงระยะเวลาที่เหลือนับจากนี้ไปประมาณ
8 เดือน กว่าจะถึงฤดูฝนในปีหน้า
ดังนั้นจึงได้มีการขอให้คณะกรรมการกำกับดูแลการเดินเครื่องสูบน้ำฯ
ประชุมเร่งด่วนเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เพื่อขอสูบน้ำจากเขื่อนกิ่วลมเพิ่มเติม 16 ล้าน ลบ.ม.
นายฤทัย พัชรานุรักษ์
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา
ได้รายงานสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนกิ่วลมว่า วันที่ 16 ก.ย.59 เขื่อนกิ่วลมมีปริมาณน้ำกักเก็บรวมมากกว่า
65 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำใช้การได้ไม่น้อยกว่า 62 ล้าน ลบ.ม. และยังมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่อง
หากปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนไปเป็นการปล่อยน้ำลงทะเลโดยเปล่าประโยชน์
จึงคิดว่านำน้ำส่วนนี้ส่งให้กับทาง กฟผ.ไปใช้การให้เป็นประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าและส่งให้บ้านชาวบ้านนำไปใช้ประโยชน์ได้
ทางคณะกรรมการฯ
ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นสมควรให้ทางชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา
ดำเนินการเดินเครื่องสูบน้ำผันน้ำจากเขื่อนกิ่วลมจ่ายให้กับอ่างเก็บน้ำแม่จาง
และอ่างเก็บน้ำแม่ขาม ในพื้นที่ อ.แม่เมาะได้ โดยอนุญาตให้มีการสูบจ่ายน้ำ
จำนวนทั้งหมด 16 ล้าน
ลบ.ม. ซึ่งทาง กฟผ.แม่เมาะจะต้องจ่ายค่าชลประทาน ลบ.ม.ละ 50
สตางค์ รวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1097 วันที่ 23 - 29 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น