
จำนวนผู้เข้าชม
ถึงแม้เมืองลำปางจะไม่มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเหมือนอีกหลาย
ๆ เมืองที่เขามีกัน แต่เราก็มีพิพิธภัณฑ์น่าสนใจอยู่หลายแห่ง
ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์หอปูมละกอน พิพิธภัณฑ์เซรามิกธนบดี พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย
สาขาลำปาง พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ) อำเภอแม่เมาะ พิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์
ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยา อำเภอเกาะคา พิพิธภัณฑ์หนังกลางแปลง อำเภองาว ยังไม่รวมพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในวัดต่าง
ๆ อีก ซึ่งพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ แต่ละแห่งก็ล้วนมีความเฉพาะตัว
สะท้อนมิติอันแตกต่างของความเป็นบ้านเป็นเมือง
ย้อนกลับไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4 พระองค์ท่านทรงริเริ่มจัดพิพิธภัณฑสถานขึ้น
และทรงบัญญัติคำว่า “พิพิธภัณฑ์” ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านทรงย้ายโบราณวัตถุจากพระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ในรัชกาลที่
4 มาจัดแสดงในหอคองคอเดีย ที่เรียกว่า “หอมิวเซียม”
(ปัจจุบันคือศาลาสหทัยสมาคม) โดยมีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน
พ.ศ. 2417 ถือเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งแรกที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม
วันที่ 19 กันยายนจึงเป็นวันพิพิธภัณฑ์ไทยซึ่งแน่ละ
หลายคนไม่รู้มาก่อน
ทว่าในปีนี้ กรมศิลปากร
โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้จัดกิจกรรมพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
เนื่องจากปี พ.ศ. 2559 เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นปีที่
70 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถก็ทรงมีพระชนมพรรษา 84
พรรษา โดยใช้ชื่อว่า มหกรรมพิพิธภัณฑ์ไทย ภายใต้ชื่อธีมเก๋ ๆ
“มนต์เสน่ห์พิพิธภัณฑ์ไทย” (Thailand Museum Expo 2016-The Fascination of Thai Museums)ในวันที่ 16-21
กันยายนนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯในงานมีกิจกรรมน่าสนใจ ได้แก่
·
นิทรรศการพิเศษ
“ของดีมีมาอวด” จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
และของสะสมล้ำค่าจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ
ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร วันที่ 16-30 กันยายน
·
การออกร้านของพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน
รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจด้านพิพิธภัณฑ์ การแสดงนวัตกรรมด้านพิพิธภัณฑ์การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์การดำเนินงานระหว่างพิพิธภัณฑสถานและผู้ประกอบการ
ณ สนามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วันที่ 16-21 กันยายน
·
การจัดงาน Creative
Fine Arts 2016: เศรษฐกิจสร้างสรรค์จากทุนทางวัฒนธรรม วันที่ 16-21
กันยายน
·
การเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร ยามค่ำคืน (Night Museum) วันที่ 16
กันยายน
·
การเสวนาทางวิชาการ เรื่อง
“เก็บเพราะรัก” / “เปิดเครื่องโต๊ะ ถ้วยปั้น ในวันวาน”/ “กว่าจะเป็นหุ่นหลวง” /
“มนต์เสน่ห์...พิพิธภัณฑ์” / “คิดถึง (พิพิธภัณฑ์) วิทยา”
/ “นวัตกรรมการออกแบบและจัดแสดงพิพิธภัณฑ์” นอกจากนี้ ก็ยังมีการโชว์ของสะสมล้ำค่าจากนักสะสมมืออาชีพระดับประเทศ
เช่น พระเครื่อง-พระบูชาชุดเบญจภาคี รถยนต์โบราณ ธนบัตร แสตมป์ เครื่องลายคราม ฯลฯ
ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วันที่ 17-21กันยายน
เป็นเวลากว่า 142 ปีแล้ว
ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งแรกเปิดดำเนินการอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
และได้จุดประกายให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่
แม้ภาพจำของพิพิธภัณฑ์จะเป็นอะไรที่คร่ำครึ แต่เชื่อหรือไม่ว่า
พิพิธภัณฑ์ทุกวันนี้นั้น มีสีสันกว่าที่คิด พิพิธภัณฑ์เจ๋ง ๆ
อย่างมิวเซียมสยามและนิทรรศรัตนโกสินทร์ใคร ๆ ก็อยากไปชม ด้วยนิยามใหม่ที่ว่า
“พิพิธภัณฑ์มีชีวิต” ปลุกกระแสพิพิธภัณฑ์หลาย ๆ แห่งในประเทศไทยให้ต้องปรับโฉมเรียกคนดู
แม้จะไม่มีรายชื่อพิพิธภัณฑ์ของเมืองลำปางเข้าร่วมงานในครั้งนี้
แต่หากคนลำปางไปกรุงเทพฯ แล้วมีโอกาสได้เยือนย่านเกาะรัตนโกสินทร์
ก็น่าแวะไปเที่ยวชมงานของเขาอยู่เหมือนกันหากไม่ได้ไปไหนเพียงเปิดใจให้กว้างแล้วลองเดินเข้าพิพิธภัณฑ์เล็ก
ๆ ซึ่งเราอาจพบว่า มันก็ทำให้หัวใจพองโตได้เหมือนกัน อ้อ แล้วอย่าลืมฝันหวาน ๆ ถึง
“มิวเซียมลำปาง” ของเราด้วยล่ะ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1095 วันที่ 9 - 15 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น