![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgnow3peGPA2ShGeGycumP9Ar22rEXc8fVFhb7F1qb871_V-i3ck6NgFK1scOTZVCddmLNIXRTzN6k_Eh6Bxl9WOKIdwTSCR_uVqefqD7L3UN1fF-9s0PLuWlil7_hEDm7D1_UrTQhD/s640/%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2589%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25961095.jpg)
พวงมาลัย เป็นระบบควบคุมทิศทางการขับขี่ ระบบพวงมาลัยที่ดี จะทำให้การบังคับควบคุมรถเสถียร ไม่เลื้อยไปเลื้อยมา หรือส่ายไปส่ายมาขณะขับขี่
ระบบพวงมาลัยมีส่วนประกอบที่สำคัญ
ได้แก่ พวงมาลัย ขายึดแกนพวงมาลัย แกนพวงมาลัย หน้าแปลนพวงมาลัย ยางข้อต่อ
กระปุกพวงมาลัย แขนเกียร์พวงมาลัย คันชักคันส่งกลาง คันชักคันส่งข้าง แขนดึงกลับ
และกระปุกพวงมาลัย เรียกว่าหลายส่วนทีเดียว
ระบบพื้นฐานในพวงมาลัยรถยนต์ในปัจจุบันนิยมใช้กัน
2 แบบ
ได้แก่
1) แรคแอนด์พีเนียน
เป็นแบบสะพานมีเฟือง กับเฟืองหมุนขนาดกะทัดรัด
ใช้พื้นที่การติดตั้งในห้องเครื่องน้อย ตอบสนองการขับขี่ไวและต้นทุนไม่แพง
2)แบบบอลล์แอนด์นัท
นิยมใช้ในรถกระบะรุ่นเก่า และรถบรรทุกรถโดยสารขนาดใหญ่
จะมีชุดวาล์วควบคุมทิศทางน้ำมันไฮดรอลิตส์แบบโรตารี่
ควบคุมการทำงานด้วยแรงหมุนพวงมาลัยจากผู้ขับ ร่วมกับความฝืดของยางรถยนต์กับพื้นถนน
อาศัยการบิดตัวของทอร์ชันบาร์สปริง พวงมาลัยแบบนี้จะทนถึกมากกว่าแบบแรกครับ
ส่วนตัวเสริมผ่อนแรงที่เรียกว่า
“เพาเวอร์”ปัจจุบันมี 3 แบบ ได้แก่
แบบใช้น้ำมันอย่างเดียวเรียกว่า 1.แบบไฮดรอลิคส์2.แบบไฮดรอลิคส์ร่วมกับไฟฟ้า และ 3.แบบไฟฟ้าใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวไม่มีน้ำมันเพาเวอร์
สายพานหรือปั๊มเพาเวอร์คอยดึงกำลังจากเครื่องยนต์มาช่วย
แต่จะเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดเข้ามาช่วยในการเลี้ยวและหมุนพวงมาลัยได้สะดวก ยิ่งขึ้น
ประหยัดน้ำมันมากกว่า ลดภาระเครื่องยนต์ ไม่ต้องบำรุงรักษาตามระยะ แต่เมื่อเสียยังมีค่าซ่อมค่อนข้างแพงกว่า
2 แบบแรกครับ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1095 วันที่ 9 - 15 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น