
เซรามิคลำปางตื่นตัวอาศัยเส้นทางการค้าชายแดน แม่สอด-เมียวดี บุกตลาดเมียนมา หอการค้าตากพร้อมเป็นพี่เลี้ยงเชื่อมโยงธุรกิจ นักวิชาการชี้ผู้ประกอบการต้องเร่งสร้างฐานการค้าและเกาะติดต่อเนื่อง
จากการสัมมนาหลักสูตร
“เจาะลึกการค้า โลจิสติกส์ และการลงทุน ไทย-เมียนมา”วันที่
21 กันยายน 2559ณ โรงแรมเวียงลคอร จังหวัดลำปาง โดยมีนายสามารถ ลอยฟ้า
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายและอนุมัติโครงการนี้และเป็นประธานเปิดงาน มีหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดลำปาง
หอการค้าจังหวัดตาก และผู้ประกอบการเซรามิคที่เข้าร่วมโครงการและสนใจในตลาดเมียนมาร์
หรือ พม่า เข้าร่วม สัมมนาในการนี้มีนายพงศ์ชัย ตันอรุณชัย
รองเลขาธิการหอการค้าจังหวัดตากให้ข้อมูลเจาะลึกเส้นทางยุทธศาสตร์
การค้าการลงทุนในประเทศเมียนมา ผ่านเส้นทางการค้าชายแดนแม่สอด จ.ตาก
แก่ผู้ประกอบการลำปางซึ่งหอการค้าจังหวัดตากยินดีและพร้อมเป็นพี่เลี้ยงในการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างไทย
เมียนมา อีกด้วย
นายกิตติวงศ์
สิงหเสมานนท์ที่ปรึกษาและหัวหน้าโครงการ
ลำปางเมืองเซรามิค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
ให้สัมภาษณ์ว่า ในโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงกิจกรรม
และสรุปผลจากโครงการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มีนโยบายเปิดตลาดอุตสาหกรรมเซรามิคไปยัง
เมียนมา หรือพม่า โดยนำผู้ประกอบการเซรามิคจากลำปางไปศึกษาดูงานและพบปะแลกเปลี่ยนแนวทางการค้ากับนักธุรกิจชาวเมียนมา
ตามเส้นทางถนนเชื่อมชายแดนแม่สอดจังหวัดตากไปยังฝั่งเมียวดีของพม่า ไปยังเมืองผาอัน
เมืองเมาะละแหม่ง รวมทั้งเมืองย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาเมื่อเดือนกรกฎาคม
59 ที่ผ่านมาเพื่อช่วยส่งเสริมด้านการตลาดในอาเซียน
โดยการประสานงานและนำโดยหอการค้าจังหวัดตาก ร่วมกับหอการค้าเมียวดี พม่า
ซึ่งประสบผลสำเร็จค่อนข้างมากเนื่องจาก
นักธุรกิจในพม่าให้ความสนใจมากหลังจากทราบว่า
ลำปางอยู่ใกล้กับชายแดนพม่าและเป็นแหล่งของเซรามิคของไทย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเซรามิคไทยเองก็มีโอกาสไปเห็นสินค้าของตัวเองวางขายในพม่า
ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นสินค้าที่มีพ่อค้าคนกลางนำเข้าไปขายด้วยเช่นกัน
"การเชื่อมโยงธุรกิจในโครงนี้
เกิดความตื่นตัวและเกิดมิติของความหวังและโอกาสทางการค้าของกลุ่มอุตสาหกรรมเซริกอย่างเป็นรูปธรรม
เพราะการไปพบเห็นและเชื่อมโงผ่านองค์กรหอการค้าทั้งฝั่งไทยและพม่าเป็นความร่วมมือด้านช่องทางแลกเปลี่ยนทางการค้าที่มีความเชื่อถือสูง
มีความชัดเจน และเป็นโอกาสของการค้าระหว่างผู้ผลิตถึงผู้ซื้อโดยตรง
แทนรูปแบบการค้าผ่านพ่อค้าคนกลางทั่วไป ดังนั้น
ความต้องการทางตลาดฝั่งพม่าที่ต้องการสินค้าเซรามิคลำปางก็สามารถสื่อสารกันทางตรง
เรื่องการขนส่งและระเบียบการค้านำเข้าส่งออก
ก็มีหอการค้าตากและเมียวดีเป็นพี่เลี้ยงถือว่าเป็นทางลัดได้ค่อนข้างมาก"
ที่ปรึกษาและหัวหน้าโครงการ
ลำปางเมืองเซรามิคยังกล่าวอีกว่า
โอกาสอื่นๆที่มีความเป็นไปได้และน่าจะเติบโตค่อนข้างเร็วในส่วนของลำปางกับพม่า คือ
ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเพราะลำปางเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีพม่าเกี่ยวข้อง
ลำปางมีวัดพม่ามากที่สุดของไทย หากนักธุรกิจพม่า
หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมีกำลังก็สามารถเข้ามาเที่ยวลำปาง
แม้ขณะนี้พม่าอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องความยุ่งยากในการทำเดินทางข้ามมาไทย
แต่เชื่อว่าหากมีโครงการแลกเปลี่ยนทางการค้าโดยมีภาครัฐของทั้ง 2
ฝ่ายรับรองการใช้ใบผ่านแดนชั่วคราวก็จะเพิ่มโอกาสในการค้าและการท่องเที่ยวได้มากขึ้นและเชื่อว่าในอนาคตตลาดพม่ายังมีช่องทางการค้าที่มีโอกาสเติบโตค่อนข้างมาก
ดังนั้นแม้ไม่มีโครงการของรัฐเข้ามาสนับสนุนแต่ ผู้ประกอบการในลำปางต้องสานต่อและเกาะติดตลาดนี้อย่างต่อเนื่องจึงจะช่วยให้เกิดการค้าระหว่างกันต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1097 วันที่ 23 - 29 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น