ประดู่200ปี ถูกตัดกลางป่า ต้องใช้ช้างลาก

จำนวนผู้เข้าชม

พบไม้ประดู่ต้นใหญ่อายุหลายร้อยปี ขนาด 3 คนโอบ ถูกตัดแปรรูปซุกซ่อนลำห้วยในป่า  เจ้าหน้าที่ต้องนำช้างเข้าลากไม้ออกจากป่า  ตรวจยึดดำเนินคดีตามกฎหมาย   อีกรายเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าตรวจสอบเขต ต.เวียงมอก อ.เถิน ยึดไม้สักได้อีก 69 ท่อน

           

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.59  เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน นำโดย นายจรัล  สะอาดจิตต์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป. 31 ( แม่หวด )  พร้อมด้วย นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 สำนักจัดการทัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.  สายที่ 1  เจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ  กรมป่าไม้  เจ้าหน้าที่สวนป่าแม่พร้าว   ตำรวจ กก.ตชด.ที่ 33 เชียงใหม่   ชุด  ชป.ศปทส.ภ.จว.ลำปาง   ตำรวจ ศปทส.ภ.5   ตำรวจ สภ.งาว   และ เจ้าหน้าที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือตอนบน  สนธิกำลังกันกว่า 30 นาย   เข้าตรวจยึดไม้หวงห้ามแปรรูป เป็นไม้มะค่า และไม้ประดู่  ขนาดใหญ่จำนวน  7  แผ่นเหลี่ยม ถูกนำมาซุกซ่อนอยู่ในลำห้วย  บางแผ่นจมน้ำอยู่ในลำห้วย บางแผ่นวางอยู่ที่พื้นดินใต้กอไผ่  เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา หมู่ที่ 7  ต.บ้านหวด   อ.งาว

           

โดยเจ้าหน้าที่ต้องนำช้างเดินเท้าเข้าไปในป่า ระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อให้ช้างชักลากไม้ออกมา เนื่องจากไม้มีขนาดใหญ่    ตรวจสอบจากตอไม้ที่ถูกตัดแล้วขนาดใหญ่ประมาณ 3 คนโอบ คาดมีอายุประมาณ 200 ปี   ซึ่งทางกลุ่มมอดไม้ได้นำมาแปรรูปเป็นแผ่น เพื่อให้ทำการขนย้ายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

           

การเข้าตรวจยึดครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจาก นายสายันต์ บุญใจวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองถ้อย หมู่ที่ 7 ต.นาครัว อ.แม่ทะ จว.ลำปาง แจ้งว่าได้ออกตรวจพื้นที่พบไม้ที่แปรรูปแล้วซุกซ่อนอยู่ในลำห้วย  ในป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวาท้องที่บ้านหวด  อ.งาว ไม่ทราบว่าเป็นไม้แปรรูปดังกล่าวเป็นของผู้ใดทำการแปรรูปและนำมาซุกซ่อนไว้ จึงแจ้งให้ นายดนุศักดิ์  หมื่นโฮ้ง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ สายที่ 1 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3  ลำปาง เข้าดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีตามกฎหมาย   จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการในพื้นที่ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องดังกล่าวร่วมกันออกตรวจยึดไม้แปรรูปดังกล่าว  นำเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป. 31 (แม่หวด)

พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484   มาตรา 11ฐาน “ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต”   มาตรา48 แก้ไขตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 106/2557 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ฐาน “มีไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลบ.ม. ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”    และมาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ( 2) แก้ไขตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๖/๒๕๕๗ เรื่องแก้ไข  เพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ฐาน “มีไม้ที่ได้แปรรูปแล้วรวมปริมาตรไม้เกินหนึ่งลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครอง นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาวันที่ 5 พ.ย. 9 ที่หน่วยป้องกันและรักษาที่ ลป.24 (แม่มอกตอนขุน)  ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง กำลังเจ้าหน้าที่ นำโดยนายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่3(ลำปาง)  นายศุภวิชญ์ สาครินทร์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาที่ ลป.24 (แม่มอกตอนขุน)   สายตรวจส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้  เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย ฝ่ายปกครองอำเภอเถิน ตำรวจ ศปทส.ภ 5 ลำปาง   นำของกลางเป็นไม้สักเถื่อนที่แปรรูปเป็นแผ่นเหลี่ยมขนาดใหญ่จำนวน 59 แผ่นเหลี่ยม มาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยพร้อมทำบันทึกจับกุมและส่งคดีให้ พนักงานสอบสวน สภ.เวียงมอก ดำเนินการตามกฎหมาย

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ได้นำหมายศาลจังหวัดลำปางเข้าตรวจค้นบริเวณยุ้งฉางข้าวที่ดัดแปลงนำไม้สักเถื่อนซุกซ่อนไว้ข้างใน  ภายในพื้นที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านเด่นไม้ซุง หมู่ 14 ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง โดยพบของกลางเป็นไม้สักแปรรูป ซุกซ่อนในยุ้งฉางดังกล่าวถึง 44 ท่อน เจ้าหน้าที่วัดปริมาตรได้ 1.64 ลบ.ม.  ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้า ป่าไม้หน่วยป้องกันและรักษาที่ ลป.24 (แม่มอกตอนขุน) ได้ออกลาดตระเวน ในพื้นที่และพบกลุ่มมอดไม้กำลังลำเลียงไม้มากองไว้  เพื่อที่จะขนย้ายใส่รถ แต่เมื่อมอดไม้เห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหลบหนีไปได้  เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพบไม้สักแปรรูป  25 ท่อน ในที่เกิดเหตุป่าละเมาะ และเมื่อเดินตรวจสอบพบร่องรอยมาจากบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ ไปขอหมายศาลจังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบ และพบการกระทำผิดจริงซึ่งจะได้เรียกและติดตามเจ้าของบ้านมาสอบสวนต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1104 วันที่ 11-17 พฤศจิกายน 2559)