
คนเล็กคนน้อยในประเทศนี้ ไม่ใช่เพียงมีที่ยืนน้อยอย่างยิ่งในสังคมเท่านั้น หากแต่บนพื้นที่สื่อไม่ว่าสื่อบ้านนอกหรือเมืองกรุง พวกเขาก็ถูกมองข้ามด้วย ด้วยเหตุนี้ ลานนาโพสต์ จึงเลือกที่จะเป็นสื่อของคนเล็กคนน้อย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาบนพื้นที่สาธารณะ
แม้พลังอำนาจทางสังคมที่เขามีต่อเราจะไม่มากพอที่จะขับเคลื่อนให้ลานนาโพสต์เป็นสื่อที่คนกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวางก็ตาม
เรื่องของนักปลูกต้นไม้ชื่อดัง
ป่วยหนัก ประกาศจะขอปลูกต้นไม้จนตาย เผยปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 3 ล้านต้น ก็เช่นเดียวกัน
ข่าวเล็กๆที่ใครหลายคนอาจไม่ได้สนใจ
เพราะข่าวนี้ไม่ได้มีกระแสเปรี้ยงปร้างเหมือนข่าวเลืิอกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
หรือข่าวน็อต มินิ แต่ข่าวนี้มีคุณค่าข่าวมากมาย ที่สะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆอย่าง
โดยเฉพาะความอุตสาหะ ตั้งใจ แม้ว่าจะมีคนมองว่าเขา “บ้า” ก็ตาม
หากย้อนเวลาไปเมื่อ 30 ปีก่อน
(พ.ศ.2531) ทุกวันตอนเช้าและหลังเลิกงาน
จะเห็นดาบวิชัย สุริยุทธ ขี่มอเตอร์ไซด์ตระเวนปลูกต้นไม้ไปตามพื้นที่ต่างๆ
ในอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ
โดยในระยะแรก ในสายตาชาวบ้าน เขาถูกมองว่าเป็นคนบ้า
แม้ว่าจะถูกสังคมมองไปในทางเช่นนั้น เขาก็ยังคงปลูกต้นไม้อยู่เรื่อยไป
อำเภอปรางค์กู่เป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษ
และจังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย
มีการปล้นชิงลักขโมยเป็นคดีความมากมาย
ดาบวิชัยในฐานะผู้เติบโตมาในพื้นที่และเจ้าพนักงานสอบสวนรับรู้ถึงปัญหามาตลอด
จึงเกิดความคิดที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ให้ดีขึ้น
จากความคิดเล็กๆในวันนั้น ทำให้เขาตัดสินใจปลูกต้นไม้
เนื่องจากเห็นว่าจะผลที่จะตามมาจะเป็นผลที่ยั่งยืน
เป็นประโยชน์ไปถึงคนรุ่นลูกรุ่นหลาน
จน 10 ปีผ่านไป
ที่ดาบวิชัยปลูกต้นไม้ทุกวัน
สังคมเริ่มเห็นผลจากการปลูกต้นไม้ของข้าราชการตำรวจตัวเล็กๆคนหนึ่ง
เกิดโครงการปลูกต้นไม้ในที่สาธารณะเพื่อส่วนรวมเกิดขึ้น ได้แก่ รณรงค์ปลูกต้นยางนา
เพื่อเอาไว้สร้างบ้านเรือน รณรงค์ปลูกต้นตาล ซึ่งเป็นพืชสารพัดประโยชน์
รณรงค์ปลูกต้นคูน ต้นไม้ประจำภาคอีสานและประจำชาติไทย และ
รณรงค์ให้เปลี่ยนการทำนาปีเป็นไร่นาสวนผสม
จนอำเภอปรางค์กู่กลายเป็นอำเภอที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งต้นไม้ที่เขาปลูกนั้นสามารถสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในอำเภอได้
แม้ว่าตอนนี้ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ
นักปลูกต้นไม้ชื่อดังของประเทศไทย กำลังป่วยด้วยโรคหัวใจวาย
รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ตามแขนขาติดสายน้ำเกลืออยู่ และมีลูกชายมาเฝ้าดูแลตลอดเวลา เป็นเวลากว่า 30 ปี
ของความตั้งใจที่จะปลูกต้นไม้แม้ว่าร่างกายจะเจ็บป่วย
แต่วันนี้ดาบวิชัยได้มีมือซ้ายมือขวามาร่วมในการปลูกป่าคือ นายเสริมศักดิ์
กล้วยนิตย์ และ นายถวัลย์ แสนภู่ มาร่วม กลายเป็น 3 เสือเฒ่าผู้โหยหาป่า
โดยได้ทำการปลูกต้นตาลทดแทนต้นที่ตัดทิ้งไปจำนวนมาก เนื่องจากไปกีดขวางการก่อสร้างคลองส่งน้ำและการขยายถนนของหมู่บ้านหลายแห่ง
และการปลูกต้นไม้ที่ตนทำอยู่นี้ เป็นการดำเนินการตามโครงการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง
คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก
เพราะได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นโครงการเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นโครงการที่คล้ายกัน
สอนให้คนรู้จักการใช้จ่ายอย่างประหยัดและทำการเกษตรเพื่อให้พออยู่พอกิน
และปลูกป่าให้ความชุ่มชื้นแก่แผ่นดิน ซึ่งนับตั้งแต่ปลูกต้นไม้ ถึงปี 2548
ข้าราชการเกษียณคนนี้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 2,000,000
ต้นและโหมปลูกต้นไม้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทุกแห่งที่เป็นพื้นดิน
จนถึงขณะนี้ตนได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว จำนวน 3,000,000 ต้น
และจะปลูกไปเรื่อยจนกว่าตนจะตาย
และเมื่อหายป่วยแล้วก็จะออกไปปลูกป่าต่อไป
เพื่อเดินตามรอยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ด้านเศรษฐกิจพอเพียงทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของแผ่นดินต่อไปจนกว่าจะตายไปจากโลกนี้
แร็ค ลานนา
ขออัญเชิญพระราชดำรัสของพ่อหลวง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2521
พระบรมราโชวาทในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา
ดังความตอนหนึ่งว่า
“....ธรรมชาติแวดล้อมของเรา
ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดิน ป่าไม้ แม่น้ำ ทะเล และอากาศ มิได้เป็นเพียงสิ่ง สวยๆ งามๆ
เท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของเรา
และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเราไว้ให้ดีนี้
ก็เท่ากับเป็นการปกปักรักษาอนาคตไว้ให้ลูกหลานของเราด้วย...”
แม้ว่าแร็ค
ลานนาจะไม่ได้ลงมือปลูกต้นไม้เหมือนอย่างดาบวิชัย
แต่ความหวงแหนป่าไม้ ไม่ได้ต่างกันเลย ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
พื้นที่ข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ได้นำเสนอข่าวสิ่งแวดล้อม
จะเห็นข่าวการลักลอบตัดไม้ทำลายอยู่ทุกสัปดาห์
และไม่เคยจับมอดไม้ได้เลยแม้แต่คนเดียว
ก่อนหน้านี้เคยมีคนบอกว่าทำไมลานนาโพสต์ถึงนำเสนอข่าวสิ่งแวดล้อมมากกว่าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับอื่น ก็เพราะความเชื่อและศรัทธาที่มีต่อคนเล็กคนน้อย
ในทุกครั้งที่เขาต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง และเราก็จะเป็นคล้ายลมใต้ปีกส่งชัยชนะให้เขาในบางเรื่องที่ผ่านมา
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1105 วันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น