
ในห้วงระยะเวลาราว 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากคำว่าดิจิตอลแล้ว หลักและแนวคิดในเรื่องวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ก็เป็นวรรคทอง ที่เกือบทุกการพัฒนาหลักสูตรด้านนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ จะต้องเอาไว้ต่อท้ายชื่อวิชา เพื่อให้ดูไม่ตกสมัย ทั้งที่อาจยังเข้าใจไม่ถ่องแท้ และหาคนสอนวิชาเหล่านี้ยังไม่ได้
ในขณะที่ผู้ประกอบการสื่อบางราย
ก็พยายามแสดงราคาความเป็นผู้นำในเรื่องคอนเวอร์เจนซ์
ด้วยวิธีบริหารจัดการทรัพยากรข่าวให้มีมูลค่าสูงสุด
ตอบรับช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายมากขึ้น
ด้วยหวังว่าการบริหารต้นทุนในการผลิตวัตถุดิบคือข่าวนั้น
จะช่วยให้สำเร็จในทางธุรกิจ
แต่หลังจากก้าวกระโดดเข้าสู่ธุรกิจทีวีดิจิตอลไม่นาน
‘คอนเวอร์เจนซ์’ ที่ฝันกันว่า จะเป็นโมเดลในฝัน เก็บกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ กลับเป็น
‘คอนเวอร์เจ๊ง’
ที่ไม่ว่ามองระยะใกล้หรือไกลก็ล้วนไม่มีอนาคต
ในห้วงระยะเวลาเดียวกันนั้น “จอกอ”
เคยให้สัมภาษณ์กลุ่มสื่อมีเดีย อินไซด์ เอ้าท์
ในหลายเรื่องที่เกี่ยวกับบทบาทของสื่อและการกำกับดูแลเรื่องจริยธรรม
โดยเฉพาะปรากฏการณ์คอนเวอร์เจ้นท์ และบทบาทการสอนที่เป็นภาคหนึ่งในการประกอบวิชาชีพคู่ขนานไปกับงานข่าวของจอกอ
ทั้งนี้จะตัดตอนเฉพาะที่เกี่ยวข้องมานำเสนออีกครั้งหนึ่ง
เพื่อให้เห็นภาพคำทำนายชัดขึ้นว่า คอนเวอร์เจ้นท์
ไม่ใช่คำตอบสำหรับการอยู่รอดของสื่อ
โปรดอ่าน..
มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์: คุณสอนอะไร
ตอบ : Media Management [การบริหารจัดการสื่อ]
มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์: เคยได้ยินว่า มีการสอน Critical Thinking
ตอบ : มีครับ
ที่อื่นๆก็มี วิชาวิเคราะห์วิพากษ์
เพียงแต่ว่าถ้าจะพูดไปแล้วทั้งคนสอนคนเรียนก็พอกัน คนสอนก็สอนตามทฤษฎี
คือก็ว่าไปตามทฤษฎี 1-2-3-4-5 แล้วก็ไม่ได้เอาตัวอย่างจริงมาวิเคราะห์ให้เห็น
ผมว่าการวิเคราะห์นี่ถ้าจะให้เห็นภาพชัด คุณมีทฤษฎีจับมาวางแล้วคุณก็ต้องมี Case
study ใส่เข้าไปในทฤษฎีแล้วก็วิเคราะห์ออกมาด้วย มันก็เป็นแบบนี้
ทั้งสองด้าน จะไปโทษเด็กก็ไม่ได้ ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ช่วยสอนให้เด็กคิดเท่าไร
มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์: Media Management สอนอะไร
ตอบ : ความจริงมันกว้างมากนะ Media Management ก็คือการบริหารจัดการสื่อ
ผมก็สอนมาประมาณสิบกว่าปี มันก็วิวัฒนาการตั้งแต่การบริหารจัดการสื่อที่เป็นหนังสือพิมพ์
แล้วก็มาเป็นวิทยุโทรทัศน์ มาเป็น New Media [สื่อใหม่]
มาเป็น Media Convergence [การหลอมรวมสื่อ]
แต่โดยวิธีสอนของผมนี่ ผมสอนแนวคิดมากกว่าที่จะสอนเรื่องของตัว fact หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
แนวคิดในเรื่องของการบริหารจัดการ เรื่องสำคัญๆที่ผมมักจะสอนบ่อยๆ
คือผมให้ดูว่าบทบาทขององค์กรสื่อว่ามีบทบาทที่คู่ขนานกัน
คือบทบาทของความเป็นองค์กรธุรกิจกับบทบาทขององค์กรเพื่อประโยชน์สาธารณะ
อันนี้เป็นบทบาทที่ขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลา
เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณเลือกบทบาททำธุรกิจ
คุณก็อาจจะสูญเสียบทบาทของสื่อมวลชนที่ถูกต้องในเรื่องการเลือกภาพ เลือกข่าวต่างๆ
นี่ก็เป็นประเด็นที่ผมพยายามสอดแทรกอยู่ตลอดเวลาในการสอนเรื่องของการบริหารจัดการสื่อ
มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์: ความหมายของคำว่าสื่อหลอมรวมแบบกระชับให้เข้าใจได้ง่ายคืออะไร
ตอบ : คือไม่มีใครนิยามชัดเจนว่าสื่อหลอมรวมเป็นอะไร
แต่ในเชิงบริหารธุรกิจ ก็อาจจะบอกได้ว่า พูดเรื่องการบริหารก่อนนะ
สื่อหลอมรวมก็คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
คือในเมื่อวัตถุดิบในการทำงานโดยเฉพาะงานสื่อคือข่าวอยู่แล้ว
ถ้าคุณมีสักหน่วยหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการนำข่าวนำภาพมา
แล้วคุณก็ไม่ต้องไปตั้งอีกตั้งหลาย unit เพื่อที่จะไปแต่ละสื่อ
คุณก็เอา unit นี้แหละ
แล้วก็มีคนในวงหนึ่งซึ่งอาจจะเรียกร้องทักษะเป็น multimedia skill คือมีความสามารถในการบริหารจัดการหลายๆสื่อ คุณก็ไปบริหารก้อนนี้ก้อนเดียว
แทนที่จะเป็นหลายๆก้อน มันก็จะดีในแง่ธุรกิจคือลดต้นทุน
แต่ผมคิดว่าในสังคมไทย
ในสื่อไทยไม่ได้พูดที่ใดโดยเฉพาะเจาะจงนะครับ มันคงเป็นเรื่องยากอยู่
เพราะเราคงไม่สามารถหาบุคลากรที่มีความสามารถอย่างนี้ในระดับที่น่าพึงพอใจได้
คือทำน่ะทำได้ แต่ในระดับที่เราคิดว่าควรจะเป็นนี่ คงจะยาก
อันนี้คือในแง่ของการบริหารจัดการ
แต่พูดถึงในแง่ของสื่อ
ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องที่อาจจะจำเป็นต้องฝึกฝนหรือให้ความรู้ของสื่อให้เขาเข้าใจว่าบาทบาทของเขาจากนี้ไปไม่ใช่บทบาทที่เขาจะไปโฟกัสที่จุดหนึ่งจุดใดอีกต่อไปแล้ว
เขาไม่สามารถที่จะไปบอกว่าอาณาเขตเขาอยู่แค่นี้นะ เขาส่งงานหนังสือพิมพ์นะ
แล้วคุณอย่ามายุ่งกับผมนะ ไม่ได้แล้ว คุณต้องมีความสามารถที่จะทำหลายๆ
สื่อไปในเวลาเดียวกัน คุณต้องเปิดหน้าได้ ต้องวิเคราะห์ข่าวต้องออกทีวีได้
ถึงแม้หน้าตาคุณจะไม่สวยไม่หล่อก็ตาม แต่คุณต้องมีความสามารถ คุณต้องทำออนไลน์ได้
อันนี้ก็คือเป็นการคอนเวอร์เจนท์ในแง่ตัวบุคคลโดยใช้เครื่องมืออันเดียวกัน
คือต้องไปนั่งคิดครับว่านิยามเรื่องนี้คืออะไร ผมก็ยังไม่เห็นใครให้นิยามที่ชัดเจน
มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์: เป็นการลดต้นทุนการผลิต?
ตอบ : การลดต้นทุนนี่มองเห็นชัดเจนเพราะว่ามันคำนวณนับค่าในเชิงสถิติได้
แต่ในเชิงของสื่อสารมวลชน ผมคิดว่ามันก็ยังคงเป็นภาพเทาๆ อยู่
ยังไม่ชัดเจนเท่าไรว่ามันคืออะไร
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1109 วันที่ 16 - 22 ธันวาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น