
ลานนาโพสต์
คว้ารางวัลสิทธิมนุษยชนเป็นปีที่ 2 รางวัลชมเชย จากผลงาน “คนบ้านแหง
ต้านการเมือง โค่นป่า ระเบิดภูเขา ถมลำธาร ทำเหมือง”
เมื่อวันที่
26 มกราคม 2560 เวลา 14.00 น.
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้จัดงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัล “รางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน” ประจำปี 2559
ณ โรงแรมสุโกศล กรุงเทพฯ
โดยมอบรางวัลผลงานสื่อมวลชนดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนให้สื่อหนังสือพิมพ์ระดับชาติ
สื่อออนไลน์ และโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล
ส่วนหนังสือพิมพ์ระดับท้องถิ่นและสื่อโทรทัศน์ในระบบเคเบิลท้องถิ่นไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลดีเด่น
แต่ได้รับรางวัลชมเชยแทน
นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ประธานกรรมการแอมเนสตี้
อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า สื่อมวลชนเปรียบเสมือน “ครู”
ผู้ทำหน้าที่ในการร่วมกันบ่มเพาะคนในสังคมให้ตระหนักถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน
และเคารพซึ่งกันและกันมากขึ้น จึงเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างกำลังใจให้กับสื่อมวลชนที่ทำงานอย่างหนักในการนำเสนอข่าวสารในแง่มุมที่คำนึงถึงการเคารพ
ส่งเสริม และปกป้องสิทธิมนุษยชน
ด้วยการจัดมอบรางวัลผลงานสื่อมวลชนดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนขึ้น
เพื่อสร้างความตระหนักให้กับคนในสังคม และสื่อมวลชนจะได้มีพลังในการยืนหยัดที่จะทำงานเพื่อปกป้องส่งเสริมสิทธิมนุษยชนต่อไป
ในส่วนของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
ประเทศไทยเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนเคารพการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
ที่ต้องได้รับการคุ้มครองไม่ให้ถูกข่มขู่และคุกคาม
ประธานกรรมการแอมเนสตี้
อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า
คณะกรรมการตัดสินผลงานรางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2559 ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากสายสื่อมวลชนและสายสิทธิมนุษยชน
จากการคัดสรรและตัดสินผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมด ผลการตัดสินมีดังนี้
รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อหนังสือพิมพ์ระดับชาติ ประกอบด้วยรางวัลดีเด่น 2 รางวัลๆ ละ 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ข่าวชุด “พิพาทที่ดินราไวย์
ปมละเมิดสิทธิ์ไล่ชาวเลพ้นแผ่นดินเกิด” หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
สารคดีเชิงข่าว "Forest
clampdown hurts poor" หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์
รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อหนังสือพิมพ์ระดับท้องถิ่น ประกอบด้วยรางวัลชมเชย 2 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ข่าวชุด “คนบ้านแหง ต้านการเมือง โค่นป่า ระเบิดภูเขา
ถมลำธาร ทำเหมือง” หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ข่าว “ชาวเลย์ราไวย์
ฮึดสู้! รักษาสิทธิ์ที่ทำกิน " หนังสือพิมพ์ปักษ์ใต้ทูเดย์
รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อออนไลน์ ประกอบด้วยรางวัลดีเด่น 1 รางวัล ๆ ละ 30,000
บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ สารคดีเชิงข่าว “มหากาพย์ "จีที 200" กับบาดแผลในใจของคนจังหวัดชายแดนใต้” เว็บไซด์ข่าวไทยพีบีเอส
และรางวัลชมเชย 3 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท
พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ สารคดีเชิงข่าว “บาดแผลที่บ้านโต๊ะชูด อ.ทุ่งยางแดง คำขอโทษของรัฐและน้ำตาของผู้สูญเสีย” เว็บไซด์ข่าวไทยพีบีเอส
สารคดีเชิงข่าว “คนไม่มีสิทธิ์”...40
ปีที่ไร้ตัวตนของชาวลาวอพยพ” เว็บไซด์โพสต์ทูเดย์
และสารคดีเชิงข่าว “สั่งซ่อมพลทหาร
พลาดพลั้งถึงตาย ใครต้องรับผิดชอบ” เว็บไซด์ไทยรัฐออนไลน์
รางวัลข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว
ประเภทสื่อโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประกอบด้วยรางวัลดีเด่น 2 รางวัล
ๆ ละ 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ
ได้แก่สารคดีเชิงข่าว "สิทธิเด็ก...สิทธิปกป้องชุมชน” สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี
สารคดีเชิงข่าว "เบื้องหลังคดีเผานั่งยางบ้านผือ...กับพยานที่ยังมีชีวิต" สถานีโทรทัศน์ NOW26
และรางวัลชมเชยอีก 3 รางวัลๆ ละ 10,000
บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ สารคดีเชิงข่าว “ซ้อมทรมาน คำสารภาพสุดท้ายที่ปลายด้ามขวาน” สถานีโทรทัศน์ TNN24
สารคดีเชิงข่าว " ‘ฉุด’ กระชากชีวิต” สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี
และสารคดีเชิงข่าว "เด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้...บาดแผลจากความรุนแรง" สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี
รางวัลข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว
ประเภทสื่อโทรทัศน์ในระบบเคเบิลทีวี ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลดีเด่น
แต่มีรางวัลชมเชย 1
รางวัลๆ ละ 10,000 บาท
พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ สารคดีเชิงข่าว “แพะทุ่งกุลา” สถานีโทรทัศน์เสียงไทยแลนด์เคเบิลทีวี
นางสาวพรเพ็ญ
คงขจรเกียรติ กล่าวต่อว่าในปีนี้นายมินาร์ พิมเพิล ผู้อำนวยการอาวุโสงานปฏิบัติการระดับโลกของแอมเนสตี้
อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้แก่สื่อมวลชน
นอกจากนั้นยังจัดให้มีการปาฐกถาในหัวข้อ “สื่อป้องสิทธิ” โดยนายสุรชา บุญเปี่ยม บรรณาธิการข่าวอาวุโสสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์
และนางสาววันเพ็ญ
คุณนา นักข่าวพลเมืองผู้รายงานข่าวผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ในจังหวัดเลย
และกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่เป็นบุคคลสำคัญที่สุดของงานในวันนี้ที่ได้ช่วยกันขับเคลื่อนและเป็นสื่อกลางในการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและให้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนทั้งที่ผ่านมาและจะทำต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น