ปราบไม่หมด จนท.ยึดไม้เถื่อน สร้างบ้านหลังโต

จำนวนผู้เข้าชม

เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจยึดบ้านนำไม้สักมาสร้างอำพราง  เตรียมทำข้อตกลงกับชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงอยู่ใกล้ป่า ใน อ.งาว จ.ลำปาง ไม่ให้เข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างเด็ดขาด 

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 ก.พ.60 เจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายฝึกรบพิเศษที่ 3 ประตูผา เจ้าหน้าที่ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สายที่ 1 ลำปาง(กก.4 บก.ปทส.) ตำรสวจ สภ.งาว ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่ และฝ่ายปกครองอำเภองาว นำโดยพันตรีอาทิรัช ปุ๊ดหน่อย ผบ.ร้อยฝึกรบพิเศษค่ายประตูผา พร้อมด้วยนายจรัล สอาดจิตต์ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.31 แม่หวด   นำเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 55/3 หมู่ 3 บ้านห้วยทาก ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง  หลังได้รับร้องเรียนว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีการลักลอบนำไม้เถื่อนเข้ามาซุกซ่อนไว้ 

จากการตรวจสอบพบกองไม้สักหลายขนาดกองอยู่ในภายในบ้านจำนวนมาก รวมทั้งหมด 122 แผ่นเหลี่ยม และห่างออกไปพบกำลังมีการขึ้นโครงไม้ขนาดใหญ่ไว้เพื่อสร้างบ้านอีกหลัง ซึ่งไม่พบว่าไม้ดังกล่าวมีการตีทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เบื้องต้นทราบว่าเจ้าของบ้านคือนางธิดารัตน์ ไตรพีระพงษ์  ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่ได้อยู่บ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่ ยืนยันต้องทำตามกฎหมายเพราะไม้สักแปรรูปทั้งหมดได้ลักลอบตัดมาจากป่า ส่วนในกรณีสร้างบ้าน ได้แนะนำให้ใช้ไม้ที่ถูกกฎหมาย หรือว่าเปลี่ยนไปใช้วัสดุอย่างอื่นแทน  ทั้งนี้ได้มีการยึดไม้สักแปรรูปทั้งหมด นำเก็บที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลำป.31 แม่หวด พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านนายจรัล สอาดจิตต์ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.31 แม่หวด    ได้กล่าวทำความเข้าใจแก่ผู้ใหญ่บ้านบ้านหวด ตัวแทนญาติเจ้าของบ้านหลังนี้ ต่อกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจยึดไม้สักแปรรูปที่ถูกตีแปะอำพรางไว้รอบบ้านและกองไว้ในบ้านอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อสร้างความเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม้สักแปรรูปเหล่านี้เชื่อได้ว่าถูกตัดมาจากป่าสงวนแห่งชาติและป่าในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และถูกแปรรูปก่อนที่จะนำมาเก็บไว้  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ จึงต้องทำตามกฎหมายตรวจยึดไม้สักทั้งหมด ที่อยู่ในสภาพอำพรางส่วนที่ถูกสร้างแบบถาวารแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตรวจยึดแต่อย่างใด ยังคงสภาพโครงบ้านไว้ ทำให้ผู้ใหญ่บ้านและตัวแทนญาติของเจ้าของบ้านหลังนี้เข้าใจ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้ทั้งหมดเพื่อไปดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้จะได้มีการประชุมทำความเข้าใจกับชาวบ้านทั้งหมดอีกครั้ง เกี่ยวกับการห้ามเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างเด็ดขาดต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1116 วันที่  10 - 16 กุมภาพันธ์ 2560 )