
อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตคืบหน้า
เตรียมนำเข้า ครม.พิจารณาแล้ว
ขณะเดียวกับกลุ่มเครือข่ายประชารัฐขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จี้ให้เร่งรัดการประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท
อ.งาว ด้วย ลั่นไม่ยอมเสียพื้นที่ 2
หมื่นไร่ให้กลุ่มชาติพันธุ์
จากที่เครือข่ายประชารัฐขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ
จ.ลำปาง นำโดยนายสำคัญ วรรณบวร
ประธานเครือข่ายฯ
ได้รวมตัวกันเพื่อผลักดันให้มีการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ
บริเวณดอยพระบาทซึ่งครอบคลุมพื้นที่ป่ากว่า 99,000 ไร่ เขตติดต่อ 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.แม่เมาะ และ อ.แม่ทะ ทั้งนี้
เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็น
ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า
ปัญหาหมอกควันไฟป่า
ปัญหาน้ำแล้ง ซึ่งการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
จะทำให้เกิดการควบคุมดูแลป่าได้อย่างเป็นระบบ และทั่วถึงมากขึ้น
แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชน จ.ลำปาง ในการขับเคลื่อน
เมื่อวันที่
7 ก.พ.60 ที่ผ่านมา
ที่ห้องประชุมสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ลำปาง นายดำรัส
โพธิ์ประสิทธิ์
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (สาขาลำปาง) เป็นประธานการประชุมการขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต
หรือดอยพระบาท ร่วมกับนายพูลสถิต
วงศ์สวัสดิ์ ผอ.ส่วนอุทยาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 นายสำคัญ วรรณบวร
ประธานเครือข่ายประชารัฐขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จ.ลำปาง และตัวแทนจากหลายภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน
เพื่อเตรียมการจัดทำวีดีทัศน์และข้อมูลต่างๆ นำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ในวันที่ 14 ก.พ.60
สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้
นายสำคัญ วรรณบวร
ประธานเครือข่ายประชารัฐขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จ.ลำปาง กล่าวว่า หลังจากที่มีการประชุมเมื่อวันที่
21 ก.ค. 59 ได้ข้อสรุปว่าดำเนินการตามขั้นตอนตามหนังสือคู่มือการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ
คือ เสนอแนวคิด หลักการและเหตุผล ให้ประชาชน ผู้นำท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่อยู่โดยรอบบริเวณร่างแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต ได้รับทราบ ขอประชาคมความเห็นการสนับสนุนให้จัดตั้ง
ขอมติจากสภาท้องถิ่น
รวมทั้งเผยแพร่แนวคิดหลักการและเหตุผล
ให้ประชาชนในจังหวัดลำปางได้รับทราบด้วย ดังนั้นจึงได้มีการเข้าพบผู้บริหารท้องถิ่น
ชี้แจงความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งอุทยาน ซึ่งมีหลายท่านให้การสนับสนุน
จากนั้นได้มีการตั้งคณะทำงาน โดยมีนายอนันต์ แก้ววัน หัวหน้าวนอุทยานม่อนพระยาแช่
เป็นเลขาในเรื่องการสำรวจความคิดเห็นชอบประชาชนในพื้นที่
กรณีที่จะลงสำรวจตามหมู่บ้าน เพื่อนำความคิดเห็นมาร่วมกันปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ชาวบ้านเสนอแนะ
ต่อมาวันที่
9 ก.ย.59
ได้ทำเรื่องขอเสนอจัดตั้งอุทยานแห่งชาติให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางแล้ว
พร้อมทำหนังสือไปถึงอธิบดีและรัฐมนตรีส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอพิจารณาเรื่องนี้ พร้อมกันนี้ทางเครือข่ายได้ทำหนังสือเร่งรัดเรื่องการประกาศเขตพื้นที่เตรียมการอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท
อ.งาว ในคราวเดียวกันด้วย เนื่องจากมีประเด็นเรื่องของกลุ่มชาติพันธุ์ขอพื้นที่ 2 หมื่นไร่ไปเป็นพื้นที่จิตวิญญาณ
ซึ่งยืนยันไม่ได้ว่าในอนาคตหากให้พื้นที่ไปแล้วจะเป็นอย่างไร
ประกอบกับจะเป็นตัวอย่างกับผืนป่าอื่นๆว่าใครจะมาขอใช้ก็ให้ได้
ซึ่งป่าเป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง จึงได้ทำเรื่องเร่งรัดไป
รวมทั้งขอจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตด้วย
นายพีระเมศร์
ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท กล่าวเพิ่มเติมกรณีพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทว่า ตั้งแต่ปี 2541 ที่ได้มีการกันพื้นที่ 1,338 ไร่ เมื่อมีการขยายตัวของชุมชนได้กันเพิ่มเป็น
4,082 ไร่ ส่วนพื้นที่จิตวิญญาณได้มีการกันไว้แล้ว
ซึ่งทางกลุ่มชาติพันธุ์ได้มีการเรียกร้องเพิ่มเติมมาอีก ซึ่งเกินความจำเป็น
เราได้ชี้แจงไปว่าการใช้วิถีปกติสามารถดำเนินการได้
ถ้าเป็นอุทยานแห่งชาติที่ตรงนี้จะอยู่ถาวรตลอดไป แต่ถ้ากันพื้นที่ให้ต่อไปจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผืนป่าจะยังสมบูรณ์
เราเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง เคยชี้แจงไปหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ยอมเข้าใจ
เจตนาของรัฐคือรักษาพื้นที่ป่าไว้
เนื่องจากพื้นที่ป่าบริเวณนั้นยังสมบูรณ์อยู่ ซึ่งเขาอ้างว่าตรงนั้นเป็นของเขา
แต่จริงแล้วไม่ใช่เพราะเป็นของส่วนรวมของคนทั้งประเทศ
เราไม่ได้ห้ามให้เข้าใช้พื้นที่ แต่ต้องมีกฎกติการ่วมกัน
ทางรัฐจะสามารถเข้าไปสนับสนุนด้วยซ้ำไป
แต่เขาไม่ยอมจะขอดูแลพื้นที่เอง ซึ่งเมื่อเข้าไปเป็นพื้นที่จิตวิญญาณแล้ว
กฎหมายก็จะไม่สามารถไปบังคับใช้อะไรได้ วันหนึ่งหากเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่แห่งนั้น
เราก็จะไม่สามารถควบคุมได้
นายสำคัญ
กล่าวว่า ในเรื่องการเข้าไปใช้พื้นที่ป่า
ทางอุทยานไมได้ขัดข้อง แต่ทางกลุ่มชาติพันธุ์เองที่ไม่ยอม ซึ่งถ้าตกลงกันไม่ได้
อุทยานก็จะไม่เกิด เมื่อมาขอจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต
ก็จะมีคนเลียนแบบขึ้นมาอีก จะขยายระบาดออกไป ไม่เช่นนั้นคงจะขอป่าที่ไหนเป็นของตัวเองก็ได้
ด้านนายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13
(สาขาลำปาง) กล่าวว่า กรมอุทยานดีใจที่มีประชาชนมีส่วนร่วมที่จะเข้ามาดูแล
แต่การจะยกป่าสมบูรณ์ให้ใครจะมากหรือน้อยก็ต้องใช้หลักของการพิสูจน์ทราบ เช่น
ภาพถ่ายทางอากาศ กรณีการเป็นจิตวิญญาณในพื้นที่อื่นก็ได้มีการประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ
ประชาชนก็ยังเข้าไปใช้ประโยชน์ในผืนป่าได้ตามปกติ ถึงแม้จะประกาศเป็นเขตอุทยาน
ก็ยังเป็นป่าของส่วนรวม
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่
13 กล่าวว่า เรื่องการผลักดันอุทยานแห่งชาติ ที่ จ.ลำปาง
ตนเองจะนำเรียนอธิบดีอีกทางหนึ่ง ซึ่งท่านติดตามให้ความสนใจเรื่องนี้มาก
และจะมีผู้บริหารระดับรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.ลำปางด้วย
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1116 วันที่ 10 - 16 กุมภาพันธ์ 2560 )
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น