
มหากาพย์เทศบาลเมืองเขลางค์นคร อีก 49 วันหมดสัญญา ก่อสร้างได้แค่ 21 เปอร์เซ็นต์ ผู้รับจ้างยื่นแผนวิกฤตขอขยายเวลาก่อสร้างถึงเดือน ต.ค. 60 ขณะที่ต้องโดนปรับวันละ 1.8 แสนบาท และรับภาระค่าเช่าสำนักงานอีกเดือนละ 1 แสน เหตุสร้างไม่ทันตามเวลาที่กำหนด ขณะที่อดีตบริษัทรับช่วงยื่นฟ้องถูกหลอกให้รับงาน เรียกค่าเสียหายกว่า 150 ล้านบาท
· ปัญหามาก
กรณีการก่อสร้างสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
ตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมือง เขตชุมชนบ้านร้อง หมู่ 12 ต.ชมพู อ.เมือง
จ.ลำปาง ประสบปัญหาเรื่อยมาตั้งแต่เริ่มจัดซื้อที่ดินในปี
2551 สมัยของนายดนูดล วรรณปลูก เป็นนายกเทศมนตรี มาจนถึงการขออนุมัติงบประมาณในการก่อสร้าง ปี 2555 และเริ่มประมูลผู้รับจ้างและทำสัญญาในปี 2556 แต่ก็ต้องยกเลิกสัญญาไปเนื่องจากประสบปัญหาร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างผิดแบบ ต่อมาปี 2558
ได้มีการประมูลหาผู้รับเหมารายใหม่ มีการเซ็นสัญญาและเริ่มดำเนินการก่อสร้าง
กำหนดครบสัญญาในปี 2560 แต่ปรากฏว่ายังประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ้างงาน
การร้องเรียนไม่จ่ายค่าแรง ทำให้งานล่าช้าไปอีก จนถึงขณะนี้จะครบสัญญาในวันที่ 20
พ.ค. 60
แต่งานก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
· เหลือเวลา 49 วัน
ลานนาโพสต์
สอบถามนายจาตุวัฒน์ ตุ้ยเต็มวงศ์ ปลัดเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร
ดูแลเรื่องการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลฯ
ซึ่งผู้รับจ้าง คือ บริษัท เอ็ม.วี.เอส ดีเวลลอปเม้นท์ 1688 จำกัด สัญญาเริ่มตั้งแต่วันที่ 29
ก.ย.58 ถึงวันที่ 20 พ.ค. 60 รวมระยะเวลา 600 วัน งบประมาณ 178,050,000 บาท ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างได้
21.132 เปอร์เซ็นต์ ล่าช้าไป 431 วัน อยู่ระหว่างการทำงานงวดที่ 4 เหลือเวลาทำงานอีก 49 วัน จากงวดงานทั้งหมด 20 งวด
เบิกจ่ายไปได้เพียง 3 งวดเท่านั้น เป็นเงิน 25,461,150 บาท โดยตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.60 ผู้รับจ้างจะต้องเสียค่าปรับให้กับเทศบาลวันละ
178,050 บาท รวมทั้งจ่ายค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาคุมงาน
9,312.30 บาท
รวมเป็นเงิน 187,362.30 บาทต่อ
· ผู้รับเหมาขอขยายเวลา
สำหรับปัญหาดังกล่าว
ทางเทศบาลได้ดำเนินการเร่งรัดกับทางบริษัทที่ปรึกษา และบริษัทผู้รับจ้างทำงาน
ซึ่งขณะนี้ ทางบริษัทผู้รับจ้างได้ส่งแผนวิกฤต เพื่อปรับแผนการทำงานใหม่ ณ วันนี้อยู่ระหว่างการจ้างของสัญญาในงวดที่ 4 มีการปรับแผนงานว่า งวดที่ 4 จะต้องเสร็จภายในวันที่ 30 เม.ย. 60 งวดที่ 5
ต้องเสร็จวันที่ 30 พ.ค.60 ทั้ง 2
งวดทำงานซ้อนกันอยู่ ซึ่งทั้งหมด 20 งวดงานจะต้องแล้วเสร็จในวันที่
17 ต.ค.60 โดยจะมีการประชุมร่วมกันที่ไซต์งานเพื่อติดตามการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันทางผู้รับจ้างก็ต้องจ่ายค่าปรับวันละ 1.8 แสนบาท เนื่องจากเสร็จไม่ทันสัญญาที่กำหนด
·ยังไม่ยกเลิกสัญญา
ปลัดเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
กล่าวว่า เรื่องจะยกเลิกสัญญาหรือไม่นั้น ในขั้นแรกทางเทศบาลได้ให้สิทธิ์บริษัทที่ปรึกษา
ซึ่งได้มีการจ้างเข้ามาควบคุมงาน
ให้ประเมินว่าทางบริษัทผู้รับจ้างยังสามารถทำงานได้หรือไม่ แต่ตอนนี้เรายังให้โอกาสผู้รับจ้างทำงาน
เนื่องจากได้มีการส่งแผนวิกฤตมาแล้ว
และทางบริษัทที่ปรึกษายืนยันว่าทางผู้รับจ้างยังสามารถทำงานได้อยู่ ถ้าเมื่อใดที่บริษัทที่ปรึกษาแจ้งว่า ผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานได้แล้ว
ก็ต้องอาศัยสัญญาในข้อ 5 ระบุว่า
ถ้าผู้รับจ้างได้ลงมือทำงานภายในกำหนด และไม่สามารถแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา
หรือมีเหตุให้เชื่อได้ว่าไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จ
หรือจะแล้วเสร็จล่าช้ากว่ากำหนดเวลา หรือผู้รับจ้างทำผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง
หรือตกเป็นผู้ล้มละลาย
หรือเพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมงาน ที่ปรึกษา
ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าจ้าง
ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญานี้ได้
· นายกฯกำชับติดตามงาน
กรณีที่อาจมีบุคคลภายนอกมองว่าผู้บริหารไม่มีความกระตือรือร้นติดตามเร่งรัดงานเท่าที่ควร
ทำให้เกิดงานล่าช้า นายจาตุวัฒน์
กล่าวว่า นายกเทศมนตรีก็ไม่ได้ละเลย
ท่านกำชับตลอดให้ติดตามเร่งรัด ติดตามแผนวิกฤตให้ทำตามแผนให้ได้ และกำชับว่าการประชุมของคณะกรรมการตรวจการจ้างทุกคนต้องไปร่วม หากไม่มีภารกิจนายกฯจะเข้าไปดูหน้างานตลอด การประชาสัมพันธ์ได้มีการประชุมประธานชุมชน
และแจ้งให้ชุมชนทั้ง 63 ชุมชนทราบว่าความเคลื่อนไหวการก่อสร้างเป็นอย่างไร
วัตถุประสงค์ของนายกฯคือต้องการให้ทุกส่วนราชการมาอยู่ร่วมกัน
ทุกวันนี้กระจัดกระจายอยู่กันหลายที่ งานกองการศึกษาอยู่ที่โรงเรียนแพะดอนตันเดิม งานไฟฟ้างานกองช่างอยู่ที่บ้านบุญเกิด
งานเครื่องจักรกลอยู่พระบาท ทำให้การบริหารจัดการล่าช้า
เพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
· ค่าเช่าเดือนละแสน
สิ่งที่นายกฯ
วิตกกังวลมากคือ ต้องจ่ายค่าเช่าให้กับทีโอทีเดือนละประมาณ 1
แสนบาท เท่ากับปีละ 1.2 ล้านบาท ล่าสุดนายกฯได้สั่งการมาว่า
หากสัญญาการก่อสร้างสิ้นสุดวันที่ 20 พ.ค.60 ภาระในการจ่ายค่าเช่าได้แจ้งไปทางบริษัทผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบ
เทศบาลจะไม่ใช้งบประมาณของเทศบาลจ่ายแล้ว
เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบของผู้รับจ้างที่ทำงานเสร็จล่าช้า
ไม่ใช่ความผิดของเทศบาล ในส่วนของค่าปรับที่ต้องจ่ายวันละ 1.8 แสนก็ต้องจ่ายต่างหาก
คิดว่าน่าจะเริ่มในเดือน มิ.ย.นี้
เบื้องต้นจากการพูดคุยทางวาจา บริษัทยินดีที่จะจ่ายค่าเช่าให้
ซึ่งได้มีการแจ้งหนังสือไปแล้ว แต่ยังไม่มีหนังสือตอบกลับมา ปลัดเทศบาลฯ กล่าว
· บริษัทตะวันฯชี้แจง
ทั้งนี้
เมื่อวันที่ 24 เม.ย.60 ที่ผ่านมา
บริษัทตะวัน เมเนจเมนท์ แอนด์ ซัพพลาย(2559) จำกัด
ซึ่งเคยรับช่วงงานก่อสร้างสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร จากบริษัท เอ็ม.วี.เอส
ดีเวลลอปเม้นท์ 1688 จำกัด ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงปัญหาการทำงานที่ผ่านมา
กรณีการร้องเรียนต่างๆ
เพื่อต้องการสร้างความกระจ่างให้กับสังคมและชาวลำปางได้รับทราบ
· อ้าง เอ็ม.วี.เอส.หลอก
โดยผู้บริหาร
บริษัทตะวันฯ เปิดเผยว่า บริษัท
เอ็ม.วี.เอส ฯ ได้มีการขายงานให้กับบริษัทตะวัน ในวงเงิน 152
ล้านบาท จากงบประมาณที่ประมูลมา 178 ล้านบาท โดยมีการหัก 10 เปอร์เซ็นต์ของงวดงานแต่ละงวด
ซึ่งบริษัทตะวันฯ ได้เข้ามาทำตั้งแต่งวดที่ 1 ถึงงวดที่ 3 มีการเบิกจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว
และมาพบว่าสัญญาว่าจ้างไม่ถูกต้อง ในข้อ 7 การจ้างช่วง
ระบุไว้ว่า ผู้รับจ้างต้องไม่เอางานทั้งหมดหรือบางส่วนในสัญญา
ไปจ้างช่วงต่อหนึ่งโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง ซึ่งทางบริษัทตะวันฯไม่ทราบข้อนี้มาก่อน การจ้างงานก็ไม่ได้มีการแจ้งเทศบาล
จึงถือว่าบริษัทเอ็ม.วี.เอส.ฯ ทำผิดในสัญญา เหมือนกับหลอกให้บริษัทตะวันฯ
เข้ามาทำงานตรงนี้ เป็นความเห็นแก่ตัว
เหมือนจับเสือมือเปล่า ตั้งแต่เริ่มงานบริษัทตะวันฯ ลงทุนเองทั้งหมด อยู่ๆบริษัทเอ็ม.วี.เอส.ก็มาบอกเลิกสัญญากับบริษัทตะวันฯ
บอกว่าบริษัทตะวันฯทำงานล่าช้า งานขาด
ถ้าทำงานขาดจริงแล้วเทศบาลจะยอมให้เบิกจ่ายได้อย่างไร ซึ่งได้ส่งงานไปแล้ว 3
งวดและมีการเบิกจ่ายทั้งหมดแล้ว
เหตุผลที่อ้างมาค้านกันมาก
· ฟ้องเรียก 150
ล้าน
ทางบริษัทตะวันฯ
ได้ฟ้องศาลกับบริษัท เอ็ม.วี.เอสฯ ข้อหาฉ้อโกง หลอกลวง และเรียกร้องค่าเสียหายทางคดีแพ่งตามยอดเงินที่จ้างบริษัทตะวันฯ
152 ล้านบาท
เหตุผลที่ฟ้องตนเองไม่ได้เสียดายเงินที่ลงทุนไป ที่ผ่านมารับงานใหญ่กว่านี้ แต่เพื่อรักษาชื่อเสียงของบริษัท
ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ในจังหวัดลำปางก็เข้าใจว่าบริษัทตะวันฯมาโกงคนลำปาง ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น ยืนยันว่าเราไม่เคยมีประวัติเสีย
ไม่เคยโกงใคร นอกจากนั้นได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
หรือ ป.ป.ป. ซึ่งทราบว่าได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว
ผู้บริหารบริษัทตะวันฯ
กล่าวทิ้งท้ายว่า หากรอบนี้มีการแจ้งยกเลิกสัญญา และมีการเปิดประมูลใหม่
บริษัทตะวันฯจะเข้าร่วมประมูลงานด้วยอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมเรื่องการผิดสัญญาข้อ
7
กับปลัดเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
กล่าว ปัจจุบันการติดต่อประสานงานและการกำกับดูแล
เทศบาลยังติดต่อกับบริษัทผู้รับจ้างที่ทำสัญญากับเราอยู่
ถือว่าเขายังไม่ผิดเงื่อนไขสัญญา ยังเป็นคู่สัญญาและควบคุมการทำงานได้
ยังติดต่อประสานงานกันได้ตามปกติ
จากข้อเท็จจริงที่ทราบ คือทางบริษัทผู้รับจ้างมีการจ้างเฉพาะส่วนงาน
ไม่ได้จ้างงานทั้งหมด
ทางบริษัทผู้รับจ้างเองก็ไม่ได้ทำหนังสือแจ้งมาที่เทศบาล ซึ่งเป็นการตกลงกันเองระหว่างบริษัท ดังนั้น การเกิดปัญหาการร้องเรียนที่ผ่านมา
ก็เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ล่าช้า ซึ่งทางจังหวัดได้เชิญทั้งบริษัท
และแรงงานไปคุยกันหลายรอบ
ทางเทศบาลชี้แจงว่าสามารถดูแลบังคับผู้รับจ้างที่อยู่ในเงื่อนไขสัญญาได้เท่านั้น การเบิกจ่ายเงินทั้ง 3
งวด ก็มีการจ่ายให้กับบริษัทคู่สัญญาของเทศบาลเอง
ผู้รับจ้างจะนำเงินไปจ่ายให้กับแรงงาน
หรือค่าวัสดุก่อสร้างอย่างไรบ้างก็ไม่ทราบได้
ส่วนเรื่องการร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
หรือ ป.ป.ป. ได้มีคณะ
ป.ป.ป.มาพบกับนายกเทศมนตรี ประมาณเดือน ม.ค. 60 เพื่อมาดูเนื้องานการก่อสร้าง
เนื่องจากผู้ร้องได้ร้องเรียนในประเด็นว่า
เทศบาลจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างมากกว่าเนื้องาน
จึงได้นำคณะ ป.ป.ป.เข้าไปดูที่หน้างาน ผลสรุปออกมาทราบว่า เนื้องานปัจจุบัน
21 เปอร์เซ็นต์ กับเงินที่จ่ายไป 25
ล้านบาทเศษ ปริมาณงานมากกว่าเงินที่จ่ายไป
คณะ ป.ป.ป.ก็ไม่ได้ติดใจ
แต่ทราบว่าล่าสุดเมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทางคณะ
ป.ป.ป.ได้เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้ผ่านทางเทศบาล โดยมีทีมงานของบริษัทที่ปรึกษาพาเข้าไปตรวจสอบในสถานที่ก่อสร้าง
ขณะนี้บริษัทที่ปรึกษายังไม่ได้รายงานผลให้เทศบาลทราบ ปลัดเทศบาลฯ กล่าว.
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1126 วันที่ 28 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น