เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.60 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่
ลป.26 (แม่เรียง) ทหาร ชป.ประจำที่ว่าการอำเภอเกาะคา ตำรวจป่าไม้ กก.4 บก.ปทส.
สายที่ 1ลำปาง ตำรวจ ชุด ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่
สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3
ลำปาง เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ (ลำปาง) ตำรวจ
สภ.เกาะคา ผู้ใหญ่บ้าน กำนันในพื้นที่
ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่บริเวณพื้นที่ป่า ท้ายหมู่บ้านทุ่งขาม หมู่ 9 ต.ใหม่พัฒนา อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ที่กำลังแผ้วถางป่าและเผาป่าได้ในที่เกิดเหตุ 1 คนคือ นายสำราญ นันตี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 6 บ้านสันกำแพง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู 1 คัน
นอกจากนี้ยังพบชายต้องสงสัยที่อยู่ในป่าแปลงพื้นที่เดียวกันอีกสองคน
คนแรกเป็นเยาวชนชายอายุ 17 ปี ยืนลับๆล่อๆอยู่หน้ารถ ส่วนอีกคนเป็นเยาวชนชายอายุ 14 ปี เช่นกันแอบซ่อนตัวหลังกระท่อมในพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเยาวชนทั้งสองมาสอบสวนเบื้องต้น
พบเงินสดกว่า 3 พันบาท
พร้อมอุปกรณ์เสพยาบ้าและกระดาษฟอยด์ที่ใช้เสพยาบ้า มีคราบยาบ้าติดอยู่ 2 ชุด โดยทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า
ได้ขับรถมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อมาช่วยน้าในการแผ้วถางป่าและเสพยาบ้าไปด้วย โดยเฉพาะเยาวชนอายุ 14 ปี ยังเรียนอยู่ชั้น ม.ต้น โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ได้โดดเรียนโดยการเอาชุดนักเรียนซ่อนแล้วสวมใส่ชุดธรรมดาหลบหนีโรงเรียนเพื่อมาเสพยาบ้า
ทางเจ้าหน้าที่เห็นถึงกับสลดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น อีกทั้งสองคนยังเป็น พี่น้องกัน
ยังชักชวนกันมาเสพยาบ้าและหนีโรงเรียน
เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการเรื่องยาเสพติดทันที
ส่วนตัวนายสำราญ ที่ถูกจับกุมได้นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบพยานหลักฐานในการบุกรุกแผ้วถางป่า
นำตัวส่ง ร.ต.อ.กันต์กวี มีธรรม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เกาะคา โดยแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นใน พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ
นอกจากนั้น คณะเจ้าหน้าที่
ได้เดินสำรวจตรวจยึดพื้นป่าคืนอีก 6 จุด รวม 6 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่
ซึ่งป่าทั้งหมดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ พบว่ามีการแผ้วถางจากใจกลางป่า แล้วค่อยลุกลามออกมาหาถนนสายหลักเป็นพื้นที่กว้าง
แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้นำป้ายต่างๆมาแจ้งเตือนห้ามบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติต่อไป
และหากพบก็จะดำเนินคดีทางกฎหมายจนถึงที่สุด
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1134 วันที่ 23 - 29 มิถุนายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น