จากกรณีมีหนังสือสนเท่ห์ยื่นร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง
เทศบาลนครลำปาง และอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง กรณีชาวบ้านในชุมชนพระแก้วหัวข่วง
ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง ได้รับผลกระทบจากการทำโรงงานรุ่งเจริญ เลขที่ 125/1 ชุมชนประตูตาล ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง โดยมีกลิ่นเหม็นจากน้ำยาในโรงงานเซรามิค
โชยออกมาไปถึงบ้านเรือนชาวบ้านชุมชนพระแก้วหัวข่วง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร หลังจากมีการร้องเรียนทางโรงงานได้มีการปรับปรุงแก้ไขโดยการสร้างห้องกั้น
และจัดทำระบบดูดอากาศ โดยวันที่ 6 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วย อุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม
พร้อมด้วยประธานชุมชนพระแก้วหัวข่วง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบ พบว่ามีการแก้ปัญหาแล้วจริง
พร้อมกับได้ทำบันทึกร่วมกันว่า จะทำการตรวจสอบมาตรฐานของกลิ่นภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ ว่าเกินมาตรฐานหรือไม่
แต่ระหว่างที่รอการตรวจสอบ พบว่าวันที่ 15 มิ.ย.60 ได้มีการร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวจึงขอเข้าตรวจสอบที่โรงงานรุ่งเจริญ
ผู้ถูกร้องเรียนดังกล่าว พบ น.ส.จิราภรณ์ ประพิตรไพศาล อายุ 63
ปี เจ้าของโรงงานรุ่งเจริญ นำเข้าตรวจสอบโรงงานในขั้นตอนการเคลือบแก้วตามที่ถูกร้องเรียน โดยมีการกั้นห้องกระจกล้อมรอบ
ให้คนงานทำงานอยู่ด้านใน
หากอยู่ใกล้กับห้องดังกล่าวก็จะได้กลิ่นโชยออกมาเป็นระยะ แต่เมื่อเข้าไปด้านในจะได้กลิ่นฉุนค่อนข้างแรง
โดยภายในห้องมีการจัดทำระบบพัดลมดูดอากาศเข้าไปในห้องและมีม่านน้ำกั้นอีกชั้นเพื่อไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจายออกด้านนอก เมื่อเดินตรวจสอบโดยรอบโรงงาน
ทางด้านหลังโรงงานซึ่งอยู่ใกล้กับวัดหัวข่วงก็ไม่พบว่าได้กลิ่นน้ำยาเคลือบโชยออกมาแต่อย่างใด
น.ส.จิราภรณ์ กล่าวว่า โรงงานนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2544 เกือบ 20 ปีแล้ว
เป็นโรงงานผลิตลูกกรงแก้วส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน
กระบวนการผลิตจะต้องมีการเคลือบแก้วให้เงางามก่อนนำเข้าเตาเผา
ที่ถูกร้องเรียนเรื่องกลิ่นจะเป็นขั้นตอนการเคลือบแก้ว
ซึ่งใช้น้ำมันสนผสมกับวัตถุดิบอื่นๆให้ลูกกรงเซรามิคมีความเงางาม
ที่ผ่านมาทางโรงงานจะทำการเคลือบแก้วอยู่ด้านนอกไม่ได้ทำห้องไว้
แต่ก็ไม่เคยถูกร้องเรียนมาก่อน กระทั่งมาช่วง 2 ปีหลัง
มีการร้องเรียนเรื่องกลิ่นเข้ามา จึงได้หาวิธีการแก้ไข
ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดก็แนะนำให้ทำห้องกระจกกั้นไม่ให้กลิ่นออกไปด้านนอก
โรงงานก็ได้ทำตามคำแนะนำแต่ในตอนแรกอาจจะยังไม่มิดชิดดีนัก
จึงโดนร้องเรียนเข้ามาอีก เราก็ทำการปรับปรุงอีกกั้นห้องให้ดีขึ้นและทำระบบดูดอากาศ
โดยเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบร่วมกันแล้ว
กลิ่นที่ออกมาภายนอกก็เบาบางลง
และทำบันทึกร่วมกันว่าจะทำการวัดกลิ่นในจุดที่ชาวบ้านบอกว่าได้รับความเดือดร้อน
และตรวจวัดกลิ่นในโรงงาน อีก 3 เดือนข้างหน้า แต่ล่าสุดก็ทราบว่ามีคนร้องเรียนไปยังสื่อส่วนกลางอีก
เราก็เกิดความไม่สบายใจ
เจ้าของโรงงาน
กล่าวอีกว่า จากที่พูดคุยกัน ถ้าตรวจพบว่าทางโรงงานมีกลิ่นเกินมาตรฐานก็จะสั่งให้ปิด
โดยส่วนตัวแล้วตนเองไม่ได้รับความเดือดร้อนหากต้องปิดโรงงาน เพราะอายุก็มากแล้วไม่มีใครมาดูแลต่อให้
อยากจะพักเหมือนกัน แต่ที่เป็นห่วงคือคนงานที่ยังทำงานอยู่ 30
คน ยังต้องใช้จ่ายเงินหาเลี้ยงครอบครัว
ต้องใช้หนี้สิน หากโรงงานต้องปิดไปคนงานกลุ่มนี้ก็จะตกงาน ซึ่งตนก็ได้พูดเปรยไว้แล้วว่าให้ลองหางานใหม่ ส่วนตอนนี้ก็ยังผลิตสินค้าตามออเดอร์ต่อไป
รอให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจวัดคุณภาพกลิ่นอีกครั้ง
ด้านนายเลอศักดิ์ กุลเสถียร วิศวกรชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง
กล่าวว่า ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้เข้าไปตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็พบว่าทางโรงงานได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว
มีการทำห้องกั้นเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด
ได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยกรมโรงงาน
เข้ามาลงพื้นที่ตรวจสอบและตรวจวัดกลิ่นในชุมชนพระแก้วหัวข่วง 2
จุด
ซึ่งเป็นจุดที่ร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบ และตรวจวัดกลิ่นภายในโรงงาน ในวันที่ 12-13 ก.ค.60
หากพบว่าโรงงานมีกลิ่นเกินมาตรฐาน
ก็ต้องสั่งให้หยุดดำเนินการในส่วนของการเคลือบแก้วตรงนี้ เพื่อให้หาวิธีแก้ไข หรืออาจจะแนะนำให้ทางโรงงานนำไปเคลือบที่อื่นและค่อยนำมาเผาที่นี่
ผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอหลังจากเข้าตรวจสอบแล้วเสร็จ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1134 วันที่ 23 - 29 มิถุนายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น