วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

'พินิจ' ค้านทางยกระดับ ทำลายภูมิทัศน์ ยื่นชะลอทุบกิโลยักษ์

จำนวนผู้เข้าชม url and counting visits

หลังจากที่ 'ลานนาโพสต์' นำเสนอข่าวเพื่อกระตุ้นให้สังคมและผู้เกี่ยวข้อง ได้ตื่นตัว ร่วมกันติดตามตรวจสอบเรื่องกองทุนพัฒนาไฟฟ้า จนนำมาสู่การรายงานเรื่องกิโลเมตรยักษ์ จนกระทั่งนายพินิจ จันทรสุรินทร์   อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ อดีต ส.ส.ลำปาง เปิดเผยเรื่องนี้ว่า บริเวณสี่แยกภาคเหนือ เป็นเส้นทางเข้าสู่เมืองลำปาง มีแห่งเดียวที่จะเป็นประตูเข้าสู่เมืองลำปาง และเมืองเหนือ ซึ่งสภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ได้กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติว่า จังหวัดลำปางเป็นศูนย์กลางของภาคเหนือ  เมื่อคนเข้ามาใน จ.ลำปาง จะทำอย่างไรให้มีสัญลักษณ์ของภาคเหนือได้  เราไม่ขัดข้องในการเสริมสร้างการแก้ปัญหาจราจร  แต่มีคำถามว่าการมาทำตรงนี้เพื่ออะไร ในเมื่อถนนพหลโยธินเดิม มีเส้นทางเข้าในตัวเมืองลำปาง  ไป อ.เกาะคาได้   และไป จ.แพร่ได้  ไม่จำเป็นต้องสร้างทางยกระดับเพื่อระบายรถออกไปยัง จ.แพร่  ประกอบกับ จ.ลำปางไม่ได้มีปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดมากนัก ซึ่งการติดไฟแดงเป็นเรื่องปกติ  และจะมีรถติดมากเพียงช่วงเทศกาล 

นายพินิจ  กล่าวว่า ตนมีแนวคิดว่า เสนอให้ทำเป็นอุโมงค์ลอดแทน โดยใช้เส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายลำปาง-กรุงเทพฯ ตั้งแต่หน้าไทวัสดุมาลอดใต้สี่แยกภาคเหนือ และจะไปขึ้นบริเวณใดก็แล้วแต่ความเหมาะสม  และในระหว่างการก่อสร้างทางลอด การจราจรก็จะมีปัญหาไม่มาก เพราะรถสามารถใช้เส้นทางพหลโยธินเดิม ไป จ.เชียงใหม่ จ.ตาก จ.เชียงราย ได้    หากสร้างเป็นทางลอดได้ บริเวณสี่แยกภาคเหนือก็จะยังคงสภาพเหมือนเดิมไว้  ในส่วนของงบประมาณการสร้างทางลอดอาจจะมากกว่า แต่ถ้าเป็นทางออกที่ดีกว่าก็น่าลงทุน  หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมองว่าถ้าไม่รีบทำตอนนี้แล้วงบจะตกไป  โดยส่วนตัวตนคิดว่าไม่เป็นไร ก็ให้ชะลอไปก่อน ถ้าเป็นไปได้ให้ฟังเสียงประชาชนก่อน ทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ทำสัญลักษณ์ตรงนี้ให้เป็นศักดิ์เป็นศรีแก่คนลำปาง 

อดีต ส.ส.ลำปาง  กล่าวอีกว่า  อยากให้กรมทางหลวงชะลอโครงการสร้างสะพานยกระดับไปก่อน และนำแนวคิดนี้ไปทบทวนใหม่  โดยตนเองก็จะไปพบกับอธิบดีกรมทางหลวงที่กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือขอให้ชะลอโครงการ  ให้แหตุผลว่า เมื่อสร้างสะพานแล้วภูมิทัศน์ที่จะเข้าเมืองลำปางเสียหายแน่นอน ขวางหูขวางตาไปหมด  นอกจากนั้นจะประชุมหารือกับภาคเอกชน สมาคม สโมสร  หอการค้า สภาอุตสาหกรรมฯลฯ เมื่อจะเกิดความเจริญในอนาคตต้องมีแผนที่จะเสริมสร้างศักยภาพจังหวัด นอกจากด้านเศรษฐกิจแล้วจะต้องมองในเรื่องภูมิทัศน์ให้งดงามต่อสายตาผู้มาเยือนด้วย หลักกิโลยักษ์ตนเคยเสนอว่า จ.ลำปาง ทำไมไม่สร้างต่อให้ดี อาจจะมีการทำด้านบนให้เป็นตัวหนังสือติดไฟ นครลำปางแห่งความสุข ใครที่เดินทางเข้ามาใน จ.ลำปาง ระยะ 3 กิโลเมตรก็จะมองเห็นมาแต่ไกล  ถ้าจะรื้อทำไมไม่รื้อหรือท้วงติงตั้งแต่แรกที่มีการก่อสร้าง ในเมื่อบอกว่าผิดและไม่ไดรับอนุญาต แต่พอสร้างมาแล้วก็ให้ตั้งอยู่ได้มาตั้งนานจนถึงตอนนี้   เรื่องนี้จะไปพูดคุยกับฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านด้วยว่าเห็นควรอย่างไร

หลักกิโลเมตรยักษ์ ที่ใช้งบสร้างจากเงินกองทุนพัฒนาในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า 2.89 ล้านบาท  เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมากมายตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในปี 2551 เนื่องจากมีการท้วงติงเรื่องการใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสม แต่ทางนายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางในสมัยนั้น ได้ยืนยันว่าดำเนินการถูกต้องเพราะผ่านคณะกรรมการกองทุนฯแล้ว  ต่อมาได้มีปัญหาเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่ของกรมทางหลวง  โดยมีหนังสือจาก ผอ.แขวงทางหลวงที่ 1 เชียงใหม่ แจ้งว่าไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้าง  แต่หลักกิโลยักษ์ก็ดำเนินการต่อเรื่อยมาจนเสร็จ และไม่ได้มีการทักท้วงหรือดำเนินการใดๆ กระทั่งเมื่อปี 2553 แขวงทางหลวงลำปาง ได้อนุมัติงบประมาณ 8 ล้านบาท ในการปรับภูมิทัศน์โดยรอบหลักกิโลเมตรยักษ์ ด้วยการนำต้นไม้มาปลูกทำเป็นส่วนหย่อม รวมถึงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ของกรมทางหลวงฝั่งตรงข้ามด้วย   และปัจจุบันปี 2560 กรมทางหลวงมีแผนที่จะสร้างถนนวงแหวน และสร้างถนนยกระดับผ่านบริเวณสี่แยกภาคเหนือ จึงอาจต้องทุบหลักกิโลเมตรยักษ์ทิ้งเพราะเป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง  ซึ่งขณะนี้ได้มีการก่อสร้างถนน 8 เลน และได้ไถที่ดินโดยรอบหลักกิโลเมตรยักษ์ออกแล้ว  เท่ากับว่าสูญงบประมาณที่ทำการปรับภูมิทัศน์ไปแล้ว 8 ล้านบาท หากทำการทุบหลักกิโลเมตรยักษ์ มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท  ถือว่าเป็นการสูญเสียงบประมาณไปมากถึง 11 ล้านบาท

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1133 วันที่ 16 -22 มิถุนายน 2560)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์