จำนวนผู้เข้าชม
จากเด็กชายสู้ชีวิตที่ตระเวนรับจ้างทำงานหลายรูปแบบมาตั้งแต่อายุ
8 ปี ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า ชื่อของ เม้ง กังสดาลสุวรรณ เป็นที่รู้จักในแวดวงช่างทำกุญแจทั่วภาคเหนือ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านทองและธนาคารในจังหวัดลำปาง ไม่มีใครไม่รู้จักชายวัย 75
ปีคนนี้ ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญการทำกุญแจและเปิดตู้เซฟทุกรูปแบบ
เม้งบริการตั้งอยู่บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา
ภายในห้องแถว 1
คูหาอัดแน่นไปด้วยกุญแจสารพัดแบบ
กับเครื่องไม้เครื่องมืออันเกี่ยวเนื่องกับการทำงาน ที่ราคาค่างวดของมันนั้น
สูงลิ่วนับล้าน อย่างไรก็ตาม ลุงเม้งยังคงนั่งอยู่กับโต๊ะไม้เก่า ๆ
ที่ต่อขึ้นเองสมัยเริ่มรับทำกุญแจเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2514 นับเป็นร้านทำกุญแจร้านแรกในเมืองลำปางก็ว่าได้
ก่อนหน้านั้นช่างทำกุญแจมือฉมังคนนี้ เป็นลูกจ้างร้านจักรยานแห่งหนึ่งแถววัดน้ำล้อม เมื่อถึงวันที่จักรยานถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์ไซค์ เจ้าของร้านจักรยานจึงต้องคิดหาทางขยับขยาย ลุงเม้งในฐานะลูกจ้าง มองเห็นกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ ก็เกิดความคิดว่า หากสามารถทำกุญแจได้คงดี เพราะในเมืองลำปางยังไม่มีร้านทำกุญแจเลยสักร้าน ว่าแล้วเจ้าของร้านจักรยาน ซึ่งพอจะเห็นฝีมือทางเชิงช่างของลูกจ้างคนนี้อยู่บ้าง จึงไปหาซื้อกุญแจจากร้านขายของเก่ามาให้ลูกจ้างหนุ่มฝึกฝีมือ
ก่อนหน้านั้นช่างทำกุญแจมือฉมังคนนี้ เป็นลูกจ้างร้านจักรยานแห่งหนึ่งแถววัดน้ำล้อม เมื่อถึงวันที่จักรยานถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์ไซค์ เจ้าของร้านจักรยานจึงต้องคิดหาทางขยับขยาย ลุงเม้งในฐานะลูกจ้าง มองเห็นกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ ก็เกิดความคิดว่า หากสามารถทำกุญแจได้คงดี เพราะในเมืองลำปางยังไม่มีร้านทำกุญแจเลยสักร้าน ว่าแล้วเจ้าของร้านจักรยาน ซึ่งพอจะเห็นฝีมือทางเชิงช่างของลูกจ้างคนนี้อยู่บ้าง จึงไปหาซื้อกุญแจจากร้านขายของเก่ามาให้ลูกจ้างหนุ่มฝึกฝีมือ
“ตอนนั้นก็ราว ๆ ปี
พ.ศ. 2508
นี่แหละ ที่ผมหัดทำกุญแจครั้งแรก” ลุงเม้งเท้าความ “ศึกษาเองครับ
หาวิธีเปิดแม่กุญแจ ถ้ากุญแจดี ๆ อย่างของอเมริกา หรือเยอรมนีจะยากหน่อย
บางทีเปิดไม่ได้ ที่เปิดได้ส่วนใหญ่เป็นกุญแจของไทย”
ในเมื่อยังติดขัดอยู่
เจ้าของร้านจักรยาน ซึ่งเชื่อมั่นในฝีมือลุงเม้ง จึงเดินทางไปกรุงเทพฯ
เพื่อตามหาช่างกุญแจเก่งๆ ซึ่งตอนนั้นมีอยู่ 2 คน
ทว่ากลับถูกปฏิเสธเมื่อขอให้สอนเทคนิคการทำกุญแจ
แม้จะหยิบยื่นค่าตอบแทนสูงลิบให้ก็ตาม หลังนายจ้างกลับมามือเปล่า
ลุงเม้งจึงขอโอกาสเดินทางไปกรุงเทพฯ ด้วยตนเองบ้าง พร้อมกับนำแม่กุญแจติดมือไปด้วย
ลุงเม้งใช้เวลา 3 วันอยู่กับช่างกุญแจระดับเซียน
2 คนที่กรุงเทพฯ อาศัยการสังเกตและถามไถ่อย่างถ่อมตน
ก่อนจะกลับมาลำปางพร้อมวิชาการทำกุญแจในระดับที่เรียกได้ว่า “ทะลุปรุโปร่ง”
ยกเว้นอย่างเดียวที่ยังทำไม่ได้ นั่นคือการเปิดตู้เซฟ
ปี พ.ศ. 2508 ลุงเม้งยังคงเป็นลูกจ้างร้านจักรยาน
ขณะเดียวกันก็รับทำกุญแจด้วย ชื่อเสียงขจรขจาย แม้แต่พวกฝรั่งที่ทำงานสถานีเรดาร์
(ในยุคสงครามเวียดนาม ลำปางเป็นจังหวัดหนึ่งที่อเมริกามาตั้งสถานีเรดาร์ที่อำเภอห้างฉัตร
จากนั้นย้ายมาอยู่ที่อำเภอเกาะคา ก่อนจะยกเลิกไปเมื่อปี พ.ศ. 2519) หากมีปัญหาเรื่องกุญแจก็มักจะมาหาลุงเม้งเสมอ หลังๆฝรั่งเริ่มมีปัญหาเรื่องตู้เซฟ
ลุงเม้ง ซึ่งยังเปิดตู้เซฟไม่ได้ จำต้องปฏิเสธไป
“วันหนึ่งวิศวกรฝรั่งที่สนิทสนมกัน
มาตามผมไปสถานีเรดาร์ โอย….สมัยนั้นทหารฝรั่งเต็มไปหมด
ต้องมีคนเซ็นรับรองผมหลายคนกว่าจะเข้าไปได้ วิศวกรคนนั้นเอาหนังสือของหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ
มาให้ผมดู โอ้โห ในนั้นบอกหมดเลยว่า วิธีเปิดตู้เซฟมีกี่แบบ ทำอย่างไรบ้าง
ผมอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกหรอกนะครับ อาศัยดูจากรูป” ตั้งแต่เช้าจดเย็น
ลุงเม้งนั่งจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับตู้เซฟในหนังสือฝรั่ง ก่อนจะกลับบ้านด้วยหัวใจพองโต
“ตู้เซฟมีจุดสำคัญที่เรียกว่า
หัวใจ ต้องหาหัวใจให้เจอครับ ถ้าเจอแล้วเจาะลงไป ไม่ว่าอย่างไรก็เปิดออก”
หลังออกจากการเป็นลูกจ้างร้านจักรยาน
ปี พ.ศ. 2518
ลุงเม้งต่อโต๊ะไม้สำหรับนั่งรับทำกุญแจอยู่บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา
สองเดือนแรกได้เงินวันละ 40-50 บาท
เดือนที่สามเพิ่มเป็นวันละ 200-300 บาท
กระทั่งมีการก่อสร้างมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ช่วงนั้นลุงเม้งรับทำกุญแจให้ ได้เงินถึงวันละ1,000
บาท เก็บหอมรอมริบจนสามารถซื้อห้องแถวที่ห้าแยกหอนาฬิกา
ซึ่งลุงตั้งโต๊ะรับทำกุญแจอยู่ด้านหน้านั่นเอง
“เดี๋ยวนี้งานเปิดตู้เซฟไม่ค่อยมีแล้วครับ
เมื่อก่อนลูกค้าจดรหัสไว้ในกระดาษบ้าง สมุดบ้าง แล้วทำหาย
แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างถูกเซฟไว้ในโทรศัพท์มือถือหมด” ช่างกุญแจสูงวัยหัวเราะ
ทุกวันนี้ลูกค้ามักเดินเข้ามาในร้านเม้งบริการพร้อมลูกกุญแจและความต้องการเพียงแค่ปั๊มลูกกุญแจเป็นส่วนใหญ่
ส่วนกรณีที่ล่อแหลม ลุงเม้งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป อย่างเช่น กุญแจรถมอเตอร์ไซค์หาย
ลูกค้าจะให้ช่างออกไปทำให้ที่รถนั้น ลุงเม้งจะปฏิเสธทุกกรณี
ต้องยกมอเตอร์ไซค์มาทำที่ร้านเท่านั้น แต่หากต้องการให้ช่างไปทำที่รถจริง ๆ
ลุงเม้งจะแจ้งตำรวจเพื่อลงบันทึกยืนยันเป็นหลักฐานไว้ ส่วนกรณีกุญแจรถยนต์หาย
หรือลืมไว้ในรถ ลุงเม้งจะเอากุญแจประตูมาทำที่ร้าน ซึ่งใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง
หวังถ่วงเวลาหากเป็นการโจรกรรมจริง ๆ แต่ก็อีกนั่นแหละ
ลุงเม้งก็มีวิธีจับพิรุธอีกหลายอย่าง
“สมัยนี้กุญแจรถยนต์มีไมโครชิปหมดครับ
ยากกว่าเดิม 10
เท่า” นั่นเป็นสาเหตุที่ลุงเม้งต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์กว่า 1 ล้านบาทเพื่อทำกุญแจฝังไมโครชิปและแก้ปัญหาเกี่ยวกับกุญแจรถยนต์ที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ให้ได้ทุกรูปแบบ
กว่า 52 ปีที่ลุงเม้งคลุกคลีอยู่กับกุญแจและตู้เซฟ
ดึกดื่นค่อนคืนหากมีคนตามตัวก็ต้องออกไป หรือแม้แต่ลูกค้าต่างจังหวัดอย่างเชียงราย
หรือเชียงใหม่ก็ยังรู้จักลุงเม้ง ทุกวันนี้แม้ลำปางจะมีร้านทำกุญแจกว่า 30 ร้าน แต่หากปัญหานั้นหนักหนาสาหัส ร้านเม้งบริการจะถูกนึกถึงก่อนเป็นอันดับแรก
ลุงเม้งบอกว่า “กุญแจน่ะเกิดขึ้นมาเองเสียเมื่อไรล่ะครับ มนุษย์นี่แหละที่สร้างมันขึ้นมา เพราะฉะนั้น มนุษย์ก็ต้องแก้ปัญหาของมันให้ได้”
ลุงเม้งบอกว่า “กุญแจน่ะเกิดขึ้นมาเองเสียเมื่อไรล่ะครับ มนุษย์นี่แหละที่สร้างมันขึ้นมา เพราะฉะนั้น มนุษย์ก็ต้องแก้ปัญหาของมันให้ได้”
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1138 วันที่ 21 -27 กรกฎาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น