เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมอาคารสำนักงานโครงการเขื่อนกิ่วคอหมา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง สำนักชลประทานที่ 2 ลำปาง จัดกิจกรรมสื่อสัญจร บริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำวัง ภายใต้โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ประตูระบายน้ำบ้านวังยาว ต.แม่กั๋ว อ.สบปราบ จ.ลำปาง เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำวัง และเตรียมเชื่อมโยงแนวคิดนโยบายเกษตร 4.0 มาปรับใช้ในพื้นที่ชลประทานลุ่มน้ำวังอย่างมีประสิทธิภาพร้อยแบบเปอร์เซ็นต์ โดยมีนายอัตถพงษ์ ฉันทานุมัติ รองผู้อำนวยการ สำนักงานชลประทานที่ 2 พร้อมคณะผู้บริหารร่วมให้ความรู้และตอบข้อซักถาม
นายอัตถพงษ์
กล่าวว่า
เนื่องจากลุ่มน้ำวังที่มีพื้นที่อยู่ราว 10,791 ตารางกิโลเมตร ประมาณ 6,746,250
ไร่ มีความยาวตามลำน้ำรวม 460 กิโลเมตร และปัจจุบันนี้ลุ่มน้ำวังยังประสบกับปัญหาอุทกภัยในฤดูน้ำหลากและภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งจากการขยายตัวของชุมชน
ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับจังหวัดตามไปด้วย
ทำให้เกิดปัญหาความต้องการน้ำในการพัฒนามากยิ่งขึ้น
ทั้งในด้างสังคมชุมชนและด้านพื้นที่ทางการเกษตรที่เป็นปัจจัยหลักในอาชีพที่ทำอยู่
จึงส่งผลให้เกิดปัญหาความต้องการน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ในลุ่มน้ำสาขาลำน้ำแม่ตุ๋ย แม่น้ำวังตอนกลาง
แม่น้ำจาง ลำน้ำแม่ต๋ำ แม่น้ำวังตอนล่าง
ซึ่งมาจากการขยายตัวของพื้นทางการเกษตรที่เกินศักยภาพของน้ำในลุ่มน้ำ
และยังเกิดปัญหาในช่วงฤดูน้ำหลากหลายพื้นที่ก็มักจะประสบปัญหาน้ำท่วมสูงจนสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมาก
แม้ว่าพื้นที่ลุ่มน้ำวังจะมีการพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่อย่างเขื่อนกิ่วลม
เขื่อนแม่จางและเขื่อนกิ่วคอหมาแล้วก็ตาม เคยทดลองปล่อยน้ำจากเขื่อนกิ่วลมออกมา 10
ล้าน ลบ.ม. แต่พบว่าน้ำมาถึงท้ายน้ำเพียง 3 ล้าน ลบ.ม. เพียง
20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำที่ปล่อยมาทั้งหมด ซึ่งบรรเทาปัญหาในพื้นที่ลุ่มน้ำวังตอนกลางได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1136 วันที่ 7 - 13 กรกฎาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น