เหมือนลมพัดผ่าน
การมีอยู่ของสุวัฒน์ พรมสุวรรณ
เหมือนไม่เคยมีอยู่ แม้จะเคยฝากชื่อเลื่องลือไว้ที่น่าน แต่ครั้นถึงลำปาง นอกจากภาพ-เรื่องราว
ของท่านที่วูบวาบอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์แล้ว ก็ไม่อาจบอกได้เต็มคำว่า
มีงานใดบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอันสำหรับผู้ว่าฯมารอเกษียณอีกคนคนนี้
ลำปางกำลังเติบโตขยายตัว
คู่ขนานไปกับจุดยืนของ “ลานนาโพสต์” ที่เห็นว่า การเติบโตขยายตัวนั้น
จะต้องมีกำแพงขวางกั้นการไหลบ่าของความเจริญด้านวัตถุจนเกินจำเป็น
จนกระทั่งอาจผลักให้ลำปาง กลายเป็นเมืองไร้ระเบียบ จราจรติดขัดไม่แพ้กรุงเทพเช่นจังหวัดเชียงใหม่
สุวัฒน์ ไป คนใหม่มา
เห็นชื่อ เห็นนามแล้วยี่ห้อ ‘ทรงพล สวาสดิ์ธรรม’ สิงห์ดำที่ท่องยุทธภพแต่ในภาคใต้มาตลอด
คราวนี้ขึ้นเหนือมาลำปาง น่าสนใจ ไถ่ถาม และรับรู้เรื่องราวของทรงพล สวาสดิ์ธรรม
พ่อเมืองใหม่ป้ายแดงของลำปาง ที่มีอายุราชการเหลืออีกสองปี
ต้องขออนุญาตอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ข่าวบ้านเรา
ที่บันทึกไว้ คราวที่ผู้ว่าฯทรงพล ย้ายจากกระบี่ มาสงขลา และจากสงขลามาที่นี่ –
ลำปาง
พลันที่ชื่อของว่าที่พ่อเมืองสงขลาคนใหม่ที่จะมาแทนที่ของผู้ว่าฯ
ธำรงค์ เจริญกุล ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30
กันยายน 2558 นี้ถูกเปิดเผยออกมาเป็นชื่อของนายทรงพล
สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ชื่อนี้ถือว่าไม่พลิกโผมากนัก
ก่อนหน้าชาวสงขลา เพิ่งได้ร่วมแสดงความยินดีกับอดีตพ่อเมือง
นายกฤษฎา บุญราช ที่ขยับจากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง เพียงปีเดียวก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย
ตำแหน่งสูงสุดในชีวิตราชการและชาวสงขลาก็มาลุ้นต่อกับตำแหน่งพ่อเมืองคนใหม่หลังจากที่นายธำรงค์
เจริญกุล ใช้เวลา 1
ปีนิดๆ ในการทำหน้าที่พ่อเมืองที่สามารถจารึกความประทับใจและความไม่ค่อยพอใจได้พอๆ
กัน
ชื่อของพ่อเมืองสงขลาคนใหม่ถูกนักวิเคราะห์มองไว้ว่าต้องเป็นคนสงขลา
หรือไม่ก็คลุกคลีในพื้นที่มาเพียงพอเพราะสมรภูมินี้ต้องการคนทำงานไม่ต้องการคนมาเรียนรู้งานใหม่
ก่อนหน้านี้ก็มีการคาดการณ์กันหลายชื่อไม่ว่าจะเป็นนายดลเดช พัฒนรัฐ รองอธิบดีกรมการปกครอง
อดีตรองผู้ว่าฯสงขลาและทำงานในพื้นที่ชายแดนใต้ร่วมกับนายกฤษฎา มาโดยตลอด หรือชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ และอีกหลายชื่อแต่สุดท้ายหวยมาออกที่ชื่อของนายทรงพล
สวาสดิ์ธรรม
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม
ต้องบอกว่านี่คือลูกหม้อมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เลยก็ว่าได้ เกิดเมือ 25 พ.ค.2502
พื้นเพชาวอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา แต่ใช้ชีวิตวัยเรียนในเมืองกรุงเป็นส่วนใหญ่
โดยจบ ป.ตรี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ป.โท รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ดีกรีไม่ธรรมดา ชีวิตในเส้นทางราชการของผู้ว่าฯทรงพล
ต้องบอกว่าวนเวียนอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ค่อนข้างมากโดยเฉพาะกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
หรือ ศอ.บต.
เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ
อาทิ ปลัดอำเภอละงู จ.สตูล,
ปลัดอำเภอละอุ่นและอำเภอเมือง จ.ระนอง, ผู้ช่วยหัวหน้าประสานแผนและโครงการ
กรมการปกครอง, เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน
สำนักงานจังหวัดยะลา, ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายบริหารงานบุคคล
กรมการปกครอง, รักษาการผู้อำนวยการกองพัฒนาบุคคล กองกลาง
และประชาสัมพันธ์ ศอ.บต., หัวหน้าศูนย์ประสานงานปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้,
นายอำเภอบางแก้วและควนขนุน จ.พัทลุง, ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากร
ศอ.บต.
ก่อนก้าวสู่ตำแหน่งสำคัญงานปกครองในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ในปี 2557 และในวันที่ 1 ตุลาคม
2558 มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กับอายุราชการที่เหลืออีก
4 ปี มีความหมายและสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการมาเป็นแม่ทัพพัฒนาจังหวัดสงขลาในฐานะพ่อเมืองของชาวสงขลา
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม
บุคลิกที่สัมผัสได้ชัดเจนเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มง่าย พูดจาไพเราะมีคารมคมคายที่หวานหูคนฟัง
และเป็นคนขยันทั้งการทำงานและการลงพื้นที่ซึ่งสัมผัสได้ตั้งแต่ช่วงที่อยู่พื้นที่ชายแดนภาคใต้และที่กระบี่
สื่อกระบี่แอบกระซิบมาว่าเสียดายมาที่ท่านย้ายเร็วเกินไปกำลังประสานงานต่อจากผู้ว่าฯประสิทธิ์
โอสถานนท์ ได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว และเชื่อว่าชาวสงขลาจะได้ผู้ว่าฯ
นักพัฒนาตัวจริง เสียงจริงแน่นอนคราวนี้
จังหวัดสงขลา เมืองใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของภาคใต้
กำลังรอผู้นำการพัฒนาในหลายมิติไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว
สิ่งแวดล้อม การค้าการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา การส่งเสริมระบบคมนาคมทั้งทางบก
ทางเรือ ทางอากาศ การกำหนดแนวทางการเดินหน้าโรงไฟฟ้าเทพา และที่สำคัญการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้กับจังหวัดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง
ฝ่ายการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น และที่สำคัญคือองค์กรเอกชนที่ขาดเอกภาพมานานและไม่มีการแก้ไขปัญหาที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจนกลายเป็นปัญหาหมักหมมมานาน
ทั้งหมดนี้อ้างอิงจาก”ศูนย์ข่าวบ้านเรา”
และลานนาโพสต์ ตั้งใจจะเปิดใจ เปิดวิสัยทัศน์ผู้ว่าฯทรงพล สักครั้ง
ว่าจากพ่อเมืองใต้ มาแอ่วเหนือ เขาจะฝากผลงานสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ
ให้คนใต้ได้รู้ ให้คนเหนือได้จดจำอย่างไร
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1142 วันที่ 18 - 24 สิงหาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น