ห ลังผ่านมา 10 ปี
ศาลปกครองสูงสุดก็สั่งยุติการแสวงหาข้อเท็จจริง คดีพิพาทเรื่องสุสานหอย
ระหว่างชาวบ้านกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
โดยคาดว่าจะมีคำวินิจฉัยเร็วๆนี้ หลังจากศาลปกครองกลางได้ตัดสินให้เพิกถอนประทานบัตรในพื้นที่แหล่งที่พบซากหอยขมดึกดำบรรพ์
แต่ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ยังโต้แย้งกันอยู่ จนกว่าศาลสูงจะตัดสินขั้นสุดท้าย
น่าสนใจท่าทีของ
กฟผ.ที่เปิดกว้างสำหรับการรักษาแหล่งโบราณ หรือสุสานหอย สำหรับการเรียนรู้
ทั้งที่มีถ่านหินสะสมอยู่ถึง 126 ตัน ผลิตไฟฟ้าได้ 30
ปี ตีมูลค่าได้ 2 แสนล้านบาท แต่มูลค่าทางใจ
และการพบซากสุสานหอยที่ประเมินมูลค่ามิได้ เป็นสมบัติของชาติ สำคัญกว่า
เราอาจติดภาพ
“ผู้ร้าย” ของ กฟผ.ที่มุ่งแต่จะระเบิดทำลายผืนดิน ภูเขา เพื่อขุดค้นหาถ่านหิน
แหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า หรือมีภาพของผู้ก่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็เป็นปรากฏการณ์ร่วมในหลายพื้นที่ที่มีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่
แต่เราอาจมองข้ามความจริงในหลายครั้งทั้งอดีต และปัจจุบันว่า กฟผ.และแม่เมาะ
ก็มีคุณต่อแผ่นดินนี้ไม่น้อยไปกว่าองค์กร หรือคนอื่นๆ
และพวกเขามีใจที่จะรับรู้ว่าคุณค่าของผืนแผ่นดิน ที่มีสมบัติล้ำค่า เช่น สุสานหอย
ติดตรึงอยู่นั้น มากกว่างานในภารกิจรับผิดชอบ คือผลิตไฟฟ้าให้คนเกือบทั้งประเทศใช้
เรื่องของสุสานหอย
ผ่านมาเนิ่นนาน อาจจำเป็นต้องทบทวนและฉายภาพทั้งหมดให้เห็น โดยผ่านงานวิจัย
อ้างอิงผู้เขียน คือ mae
moh ในส่วนที่ว่าด้วยที่มาและความสำคัญ
โดยลำดับความตั้งแต่ภารกิจของเหมืองถ่านหิน
เหมืองถ่านหินลิกไนต์ อำเภอแม่เมาะตั้งอยู่หมู่ที่
2 ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง มีพื้นที่เต็มโครงการประมาณ 150
ตรารางกิโลเมตร เป็นเหมืองแบบเปิด คือเหมืองที่พัฒนามาจากเหมืองหาบ
ใช้เครื่องจักรเปิดหน้าดินออกเป็นชั้นๆจนถึงชั้นถ่าน
มีการขุดหน้าดินเพื่อนำถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า
โดยแปรสภาพพลังงานที่สะสมอยู่ในถ่านหินให้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยใช้น้ำเป็นตัวกลาง ประกอบด้วยส่วนที่สำคัญ
2 ส่วน คือ พื้นที่ทำเหมืองลิกไนต์และโรงจักรผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งใช้ถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงหลัก
ผลการสำรวจพบว่า
แอ่งสะสมตัวของแหล่งถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะ เป็นแอ่งระหว่างหุบเขามีลักษณะรีคล้ายรูปไข่
ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 135
ตารางกิโลเมตร มีส่วนกว้างสุด 8.8 กิโลเมตร และส่วนยาวสุด
18.3 กิโลเมตร มีโครงสร้างธรณีวิทยาเป็นแบบกระทะหงาย (Syncline)
มีแนวชั้นลิกไนต์โผล่ปรากฏบริเวณขอบแอ่งทั้งทางด้านตะวันออก และตะวันตกและค่อยๆ
ลาดเอียงลงไปทางตอนกลางแอ่งจนถึงระดับความลึกประมาณ 450 เมตร
และมาถึงตอนที่พูดถึงการค้นพบสุสานหอย
ในบริเวณประทานบัตรเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะได้มีการค้นพบซากหอยขมดึกดำบรรพ์
บริเวณเขตประทานบัตรที่ 14349/15341 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.)ต่อมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกรมทรัพยากรธรณี ได้เข้าสำรวจร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 4
ครั้ง
พบว่าเป็นซากหอยขมสกุล
Bellamya
สะสมตัวเป็นชั้นเมื่อประมาณ 13 ล้านปีมาแล้ว
มีลักษณะเป็นชั้นรูปเลนส์ หนาที่สุด 12 เมตร และแผ่ออกไปครอบคลุมพื้นที่ประมาณกว่า
50 ไร่ ซึ่งมีความหนาที่สุดในประเทศไทย
และเป็นชั้นซากหอยน้ำจืดที่หนาที่สุดในโลก
ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่มีคุณค่าที่จะมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ทางธรรมชาติวิทยา
และให้กระทรวงอุตสาหกรรมกันพื้นที่ 43 ไร่ออกจากแปลงประทานบัตรของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
เพื่อประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์ต่อไป
ความโดยสรุป
บอกชัดว่า นี่เป็นชั้นซากหอยน้ำจืดที่หนาที่สุดในโลก ความเป็นที่สุดในโลกนั้น
ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของคนแม่เมาะ และคนลำปาง แต่ต่อไปข้างหน้า
เมื่อขั้นตอนคดีความผ่านพ้นไป สถานที่นี้
ย่อมมีศักยภาพที่จะต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ศึกษาหาความรู้ ทั้งสำหรับคนไทย
และต่างประเทศได้
ความไม่พยายามยื้อพื้นที่เพื่อภารกิจหลักของ
กฟผ.คือผลิตไฟฟ้า แต่กลับให้ความสำคัญและยอมรับคุณค่าทางใจ
ย่อมเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1143 วันที่ 25 - 31 สิงหาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น