โครงการก่อสร้างเป็นศูนย์รวมสถานีรถม้าจังหวัดลำปาง
งบประมาณ 14
ล้านบาท เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ประชาชนชาวลำปางจับตามอง โดยเทศบาลมีโครงการที่จะทุบอาคารศูนย์เยาวชนเทศบาลนครลำปาง
หรือโรงยิมเดิม ที่อยู่ติดกับโรงเรียนเทศบาล 4
สร้างเป็นสถานีรถม้าดังกล่าว และจะย้ายโรงยิมไปอยู่บริเวณตลาดเทศบาล 4 ตรงข้ามห้างบิ๊กซีลำปาง ซึ่งอยู่ระหว่างการเริ่มก่อสร้าง
หลังจากประชาชนทราบเรื่อง
ก็ได้เกิดกระแสคัดค้านขึ้น เนื่องจากเห็นว่าโรงยิมยังคงใช้งานได้ ปัจจุบันสถาบันการศึกษาหลายแห่ง
รวมทั้งเด็กและเยาวชน ยังคงมาใช้ในการแข่งขันกีฬาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทศบาลนครลำปางก็ใช้สถานที่ดังกล่าวในการจัดแข่งขันกีฬาด้วยเช่นกัน เพียงแต่ต้องมีการปรับปรุงในบางส่วนเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องเสียงบประมาณทุบทิ้ง หรือสร้างขึ้นใหม่ ประกอบกับการสร้างสถานีรถม้าในบริเวณดังกล่าว
อาจจะไม่มีผู้ประกอบการรถม้าเข้าร่วม
เพราะจะมีจุดจอดรถตามโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
เพื่อกระจายรายได้กันไป
โดยนายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรี ได้กล่าวการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า
จะทุบโรงยิมก่อสร้างสถานีรถม้าอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งมีวิธีการบริหารจัดการไว้อยู่แล้ว
เพื่อจะหารายได้ให้กับกลุ่มรถม้า
ล่าสุด
ได้มีการนำป้ายคัดค้านมาติดตั้งบริเวณด้านหน้าโรงยิม จำนวน 2 ป้าย
และปากทางเข้าชุมชนโรงเรียนเทศบาล 4 อีก 1 ป้าย โดยมีข้อความว่า “ทุบโรงยิมเพื่อสร้างสถานีรถม้า ทุบโรงยิมที่ประชาชนต้องการ
สร้างสถานีรถม้าที่สารถีไม่ต้องการ เพื่อ?” และ “ชาวชุมชนเทศบาล 4
ไม่เอาสถานีจอดรถม้า”
ในเรื่องนี้ นางรัญจวน คำพิชัย ประธานชุมชนเทศบาล 4 เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งทราบเรื่องว่าจะมีการทุบโรงยิมสร้างเป็นสถานีรถม้า
หลังจากที่เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา และรู้จากทางอินเตอร์เน็ตอีกทาง จากที่ได้พูดคุยกันในชุมชน คิดว่าเป็นโรงยิมแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว
ควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อให้เด็กใช้ประโยชน์ได้
ประชาชนไม่ต้องเดินทางไกลเวลามีการแข่งขันกีฬา
เพราะบริเวณนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอยู่แล้ว
รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าก็มีที่ขายของ สร้างรายได้เป็นอาชีพ หากย้ายโรงยิมไปอยู่ตรงข้ามห้างบิ๊กซี ก็จะมีความเสี่ยงมากกว่า
ต้องเดินทางไกล และทำให้พ่อค้าแม่ค้าในชุมชนขาดรายได้ และสิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือ
ปัญหาจากกลิ่นปัสสาวะ และอุจจาระของม้า ที่จะส่งกลิ่นเหม็น
เพราะรถม้าจะต้องมาจอดหลายคันมาก
จะต้องมีกลิ่นรบกวนเด็กนักเรียนและชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง เพราะจุดดังกล่าวเป็นชุมชนและโรงเรียน
อีกอย่างหากมีการจัดงานประเพณีบริเวณห้าแยกหอนาฬิกา และมีกลิ่นเหม็นของปัสสาวะของม้าออกไป
ก็จะเกิดความไม่เหมาะสม ทำให้เสียภาพลักษณ์ต่อนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมงาน
ส่วนชั้นสองที่คิดว่าจะทำเป็นห้องพิพิธภัณฑ์
จะมีคนเข้าไปดูหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
นางรัญจวน
กล่าวต่อไปว่า ถ้ามาปรับปรุงโรงยิมให้เป็นสถานที่เล่นกีฬาที่มีมาตรฐาน จะเอาเจ้าหน้าที่ของเทศบาลมาดูแลก็ได้
หากมาหน่วยงานไหนมาขอใช้สถานที่เล่นกีฬาก็สามารถขอเก็บค่าบำรุงรักษาได้ โดยไม่ต้องคิดแพง
ดีกว่าสร้างสถานีรถม้าเยอะ ซึ่งตอนนี้ก็คุยกับคนในชุมชนเป็นบางส่วนแล้ว ต่อไปจะเดินออกสำรวจหรือเชิญประชุม เพื่อสอบถามความคิดเห็นของคนในชุมชนว่าจะต้องการหรือไม่
ซึ่งจากที่คุยกันในเบื้องต้นแล้วไม่มีใครเห็นด้วยกับเรื่องนี้
เทศบาลควรจะมาทำประชาพิจารณ์ก่อนว่าประชาชนต้องการหรือไม่ เพราะสมาคมรถม้าเองก็ยังเอ่ยปากว่าไม่ได้ต้องการเลย
รถม้ามีสถานีจอดอยู่ในแต่ละจุดอยู่แล้ว
มีลูกค้าประจำอยู่แล้ว เกรงว่าถ้าทำจะเสียงบประมาณไปเปล่า เทศบาลควรใช้สถานที่มาสร้างสวนหรือส่งเสริมสุขภาพประชาชนให้มีร่างกายแข็งแรง ดีกว่าการนำมลภาวะไม่ดีมาอยู่กลางเมืองหรือมาอยู่ในชุมชน อยากจะให้ทางเทศบาลมาปรับปรุงโรงยิมให้ดูดีขึ้น
ในส่วนที่ทรุดโทรม ให้เหมาะสมเป็นลานกีฬาที่ทุกคนสามารถมาออกกำลังกายด้วยกันได้
ด้านแม่ค้าขายน้ำดื่มหน้าโรงยิม
กล่าวว่า ไม่มีคนในชุมชนคนไหนต้องการสถานีรถม้าอย่างแน่นอน
แม้แต่เด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 ที่อยู่ติดกับโรงยิมก็ไม่ต้องการ
เพราะกลิ่นเหม็นจะมารบกวนการเรียนของเด็ก หรือแม้แต่เวลากินข้าว เด็กก็จะกินไม่ลง แต่ถ้าปรับปรุงให้สะอาดขึ้นก็ยังต้อนรับนักกีฬาจากหลายๆโรงเรียนที่มาขอใช้อาคารเป็นที่แข่งขันกีฬาได้
และไม่ใช่แค่เด็กนักเรียนเท่านั้น ที่ผ่านมาแต่ละปี ตนเองก็ขายของอยู่ตรงหน้าโรงยิมมาโดยตลอด
ก็พบว่ายังมีเอกชนจากหลายแห่ง มาขอทำการแข่งขันเกือบจะทุกหน่วยงาน
แต่เมื่อเอาไปสร้างเป็นที่จอดรถม้าแล้ว เด็กจะไปแข่งขันกันที่ไหน
ถึงจะสะดวกและปลอดภัยเท่ากับตรงนี้
ขณะนี่นายอัครินทร์
พิชญกุล นายกสมาคมรถม้าลำปาง กล่าวว่า ตนเองไม่ได้คัดค้านให้มีการสร้างสถานีรถม้า
แต่การสร้างที่โรงยิมเดิมต้องดูว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากให้รถม้าไปอยู่ตรงนั้นแล้วจะมีใครขึ้นไหม
ต้องดูความคุ้มค่าด้วย เพราะงบประมาณที่นำไปก่อสร้างไม่ใช่น้อย เป็นเงินถึง 14
ล้านบาท เสียดายโรงยิมที่จะต้องทุบทิ้งไปเพราะยังใช้งานได้อยู่ เกรงว่าจะได้ไม่เท่าเสีย อีกประการคือ รถม้ามีวิถีชีวิตของรถม้าเอง
คือการจอดให้บริการตามจุดต่างๆที่มีนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดรายได้
การที่จะให้ไปอยู่รวมกันต้องศึกษาให้มากว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่สามารถไปบังคับเขาได้
หากไม่มีรายได้เขาก็ต้องออกไปอยู่ที่อื่น สิ่งที่คิดว่าเทศบาลควรทำคือปรับปรุงจุดจอดรถม้าต่างๆให้ดียิ่งขึ้น
มีห้องน้ำไว้ให้บริการ
นายกสมาคมรถม้า
กล่าวอีกว่า อยากให้นายกเทศมนตรี
ทดลองจ้างรถม้าไปจอดที่โรงยิมดูสัก 1 เดือน
ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการหรือไม่ จะจ่ายค่าจ้างวันละ 300-500 บาทก็แล้วแต่ตกลง ถ้าไปจอดในจุดนั้นแล้วเขามีรายได้
เขาก็อาจจะไม่เอาค่าจ้างจากนายกฯก็ได้ แต่ถ้าไม่มีคนมาใช้บริการ
ก็ต้องพิจารณาแล้วว่าควรจะดำเนินการต่อไปหรือไม่
ส่วนผู้ประกอบการรถม้า
บริเวณด้านหน้าโรงแรมเวียงทอง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้ามีสถานีรถม้าก็ดี
แต่ไม่ใช่การรวมรถม้าไว้ที่เดียวกันทั้งหมด อยากให้มีการปรับปรุงจุดจอดเดิมมากกว่า
ให้กำหนดสถานีรถม้าเป็นจุดไป
เพราะทุกวันนี้รถม้าที่จอดอยู่หน้าโรงแรมเวียงทองมีอยู่ 10
กว่าคัน วันหนึ่งได้วิ่งแค่ 5 คันเท่านั้น
บางคนก็ไม่มีรายได้ หากให้ไปรวมอยู่ 80 คัน แล้วจะจัดคิวกันอย่างไร
รวมทั้งการเดินทางไม่สะดวกทั้งสารถีและนักท่องเที่ยว ถ้ามีทัวร์มาลงที่โรงแรมเวียงทอง
และโรงแรมเวียงลคอร รถม้าจุดนี้ก็ออกไปรับได้เลย
หากไปอยู่ที่ห้าแยกต้องตีรถม้ากลับมารับนักท่องเที่ยว
และถ้านักท่องเที่ยวจะไปขึ้นรถม้า รถบัสก็ต้องออกไปส่งอีก ทำให้รถติด
ไม่มีที่จอดรถ
สารถีรถม้า
กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องการคือ
ให้เทศบาลนำงบมาปรับปรุงถนนบริเวณจุดจอดรถม้าด้านหน้าโรงแรมลำปางเวียงทอง
เพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ เวลาล้างทำความสะอาดก็เกิดน้ำขัง เกิดกลิ่น เกิดยุง
และขอถังขยะเพิ่มขึ้น ตอนนี้มีถังขยะแค่ 2 ถัง ไม่เพียงพอ
อีกอย่างคือต้องการให้สร้างหลังคาบริเวณเกาะริมถนน
ให้สารถีรถม้ามีที่พักอาศัยหลบแดดหลบฝน เพราะทุกวันนี้ต้องอาศัยอยู่หน้าตึกต่างๆ
หากมีคนมาเช่าตึกเปิดกิจการ สารถีก็จะไม่มีที่อยู่อาศัย จะให้ยุบจุดจอดตรงนี้ก็คงไม่ได้
เพราะเป็นจุดใหญ่ที่รองรับนักท่องเที่ยวในเขต อ.เมืองลำปาง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1146 วันที่ 15 - 21 กันยายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น