กฟผ.จัด
ค.3 ราบรื่น ชาวบ้านต่างแสดงความเห็นหนุนโรงไฟฟ้าทดแทน “สุนทร ใจแก้ว” เจ้าเก่ายันเสนองบประมาณ 500 ล้านดูแลคุณภาพชีวิตชาวบ้าน ด้าน
“ศุกร์” นายก อบต.บ้านดง เสนอยกมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่คุมเข้ม
ประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 2 พันคน นำร่างรายงาน เสนอ สผ.ในขั้นต่อไป
เมื่อวันที่
23 ก.ย.60 ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ
กฟผ.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ในการทบทวนร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (ค.3)
โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4 - 7 จาก 600 เมกะวัตต์ เป็น 655 เมกะวัตต์ โดยมี ประชาชนในพื้นที่ 5 ตำบลของ อ.แม่เมาะ
ได้แก่ ตำบลแม่เมาะ ตำบลสบป้าด ตำบลนาสัก ตำบลบ้านดง และตำบลจางเหนือ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการสรุปและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
โดยบริเวณพื้นที่จัดประชุมได้มีการคุมเข้มผู้ที่เข้าร่วมเวทีครั้งนี้อย่างเข้มงวด
มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ กฟผ.แม่เมาะ
ตั้งจุดตรวจสอบผู้ที่ผ่านเข้าออกตั้งแต่ถนนทางเข้าวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ
กฟผ.แม่เมาะ ถนนภายในทุกเส้นทาง มีการตั้งเครื่องสแกน โลหะและวัตถุระเบิด
ตรวจสอบกระเป๋า โทรศัพท์มือถือ ผู้เข้าประชุม เพื่อป้องกันการพกอาอาวุธต่างๆเข้ามาในห้องประชุม
ขณะที่ห้องประชุม คึกคักเป็นอย่างมาก เพราะมีประชาชนสนใจเข้าร่วมเวทีครั้งสุดท้ายประมาณ
2,300 คน และมีผู้ลงชื่อแสดงความคิดเห็น
51 คน โดยส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทน
เนื่องจากเรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันต้องการให้ทาง กฟผ.แม่เมาะดูแลในเรื่องของคุณภาพชีวิตของชาวบ้านอย่างเคร่งครัด
ไม่ให้เหมือนที่ผ่านมาเพราะชาวบ้านและผู้ที่ได้รับผลกกระทบในอดีต
ยังคงกังวลกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้น แม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาขึ้นแล้วก็ตาม
นายสุนทร
ใจแก้ว อดีตนายก อบต.สบป้าด
หนึ่งในผู้ร่วมแสดงความคิดเห็น เสนอให้ กฟผ.อุดหนุนงบประมาณปีละ 500
ล้านบาท ดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวแม่เมาะ คนละ 2,000 บาท
ต่อคนต่อเดือน
แก้ไขระบบลูกจ้างให้รับคนในพื้นที่เข้าทำงานเป็นลูกจ้าง กฟผ.
เพื่อความมั่นคงในอาชีพ และการดูแลด้านความปลอดภัย เนื่องจากใน
อ.แม่เมาะมีคนต่างถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยมาก
ต้องสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อปพร.
เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ต้องเข้ามาดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
เห็นด้วยในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทน
แต่ กฟผ.จะต้องเน้นย้ำเรื่องผลกระทบ เสียง กลิ่น ฝุ่นละออง คุณภาพอากาศ
โดยนำเสนอข้อมูลผ่านทาง ครม. นายรัฐมนตรี ให้ กฟผ.เข้ามาแก้ไขปัญหานี้
ไม่อยากให้คนแม่เมาะทะเลาะกัน กฟผ.ต้องทำตามระบบเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาน นายสุนทร กล่าว
ด้านนายศุกร์
ไทยธนสุกานต์ นายก อบต.บ้านดง กล่าวว่า จากรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯที่ผ่านมา
ได้เรียกร้องให้มีการศึกษาครอบคลุมทั้ง 44 หมู่บ้าน
การพัฒนาพลังงานไฟฟ้าต้องเดินหน้าต่อไป ขณะเดียวกันการกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมต้องยกระดับขึ้น
สผ.ต้องนำรายงานฉบับนี้ผนวกเป็นกฎหมาย เดิมรายงานฉบับ
600 เมกะวัตต์มีกฎหมายแร่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพชุมชนละ
2 แสนบาท
ซึ่งเป็นรูปธรรมแต่เห็นว่างบประมาณน้อยไป
ดังนั้นจะต้องเพิ่มวงเงินงบประมาณในกองทุนนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ พร้อมกันนี้ อยากให้
กฟผ.ตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนนเส้นทางลำเลียงของรถพ่วงเขต
ต.บ้านดง แต่ละวันมีรถผ่านโดยเฉลี่ย 500 กว่าคัน และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ให้
กฟผ.กำหนดขอบเขตรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้มีการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ด้วย
นอกจากนั้นยังมีชาวแม่เมาะแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง
เช่นการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่ารองรับการอพยพ การใช้จ่ายเงินงบประมาณกองทุนพัฒนาไฟฟ้า
เป็นต้น
ดร.
เบญจภรณ์ บุณยพุกกณะ ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง
เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า จากการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น
(ค.1) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2560 และการประเมินและจัดทำรายงาน
(ค.2) เมื่อวันที่ 13 – 16 มิถุนายน 2560
ที่ผ่านมา บริษัทที่ปรึกษาได้นำข้อมูลมาเพื่อจัดทำมาตรการต่าง ๆ
ให้ลดข้อห่วงกังวลของประชาชน และมาชี้แจงในประเด็นสำคัญ อาทิ
เรื่องการทำ
EHIA ใหม่ สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้
เพราะถือเป็นการก่อสร้างเพื่อสาธารณประโยชน์ในฐานะองค์กรของรัฐ จึงได้รับการยกเว้นจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในการขอใบอนุญาต
ซึ่งใบอนุญาต รง.4 กฟผ.
สามารถใช้สิทธิของเครื่องจักรเดิมที่มีอยู่ โดยไม่เข้าข่ายการขยายโรงงาน ทั้งนี้ EHIA
ใหม่ต้องได้รับความเห็นชอบ จึงจะดำเนินการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้
เรื่องการจ้างงานในพื้นที่
จะมีการกำหนดเป็นนโยบายปฏิบัติให้พิจารณาคัดเลือกคนในอำเภอแม่เมาะเข้ามาทำงานเป็นอันดับ
โดยปัจจุบันมีการจ้างงานท้องถิ่นในชุมชนแม่เมาะ จำนวนรวมทั้งสิ้น 4,835
คน ส่วนการแก้ปัญหาอุบัติเหตุและจราจร
มีการการกำหนดมาตรการความปลอดภัยของผู้สัญจรอย่างชัดเจน
โดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน
และกำหนดมาตรการลงโทษผู้ขับรถบรรทุกเถ้าลอยหรือรถบรรทุกยิปซัม
และหน่วยงานที่ควบคุมดูแลการซื้อขายอย่างชัดเจน
รวมทั้งจัดเตรียมรถกู้ภัยและดับเพลิงสำหรับกรณีฉุกเฉิน
สำหรับการแก้ปัญหาอาชญากรรมจากแรงงานต่างถิ่น
มีการกำหนดมาตรการควบคุมและแก้ไขปัญหา อย่างเข้มงวด
ไม่ให้ทำผิดกฎหมายหรือก่อปัญหากับชุมชน
นอกจากนี้ยังกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาการใช้บริการด้านสุขภาพของแรงงานต่างถิ่น
โดยจัดให้มีห้องพยาบาล เจ้าหน้าที่ และรถฉุกเฉิน ตลอดบริเวณพื้นที่ก่อสร้างไว้ด้วย
นอกจากนี้
เรื่องการบริหารจัดการเถ้าลอย มีแนวทางให้ชุมชนจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อซื้อเถ้าลอยจาก
กฟผ. โดยปัจจุบันได้รับความเห็นชอบแล้ว อยู่ระหว่างการจัดทำให้เป็นไปตามระเบียบ
กฟผ.
ทั้งนี้
ประชาชนยังสามารถแสดงความคิดเห็นรวมถึงข้อเสนอแนะในขั้นตอนการทบทวนร่างรายงาน EHIA (ค.3)
ฉบับนี้ได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม
2560 ผ่านทาง 1.) อีเมล์ : [email protected]
และ [email protected] 2.) คุณวีณิฐฐา
วรเกียรติธนากร และคุณรัตติยา งามประดิษฐ์ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง
แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด 151 อาคารทีม ถนนนวลจันทร์
แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 และ 3.) โทรศัพท์ 0-2509-9000 กด 3201-5 ต่อ 104, 106 4.) โทรสาร 0-2509-9109
สำหรับขั้นตอนต่อไปหลังจากจัดทำเวที
ค. 3 แล้ว ต้องนำเสนอ คณะผู้ชำนาญการจากส่วนราชการและองค์กรอิสระ นักวิชาการ
อีก 2 คณะ ต่อจากนั้นนำเสนอคณะกรรมการสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
(สผ.)พิจารณา เมื่อเห็นชอบแล้วก็นำเสนอ ครม.อนุมัติ และต้องขอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าจาก
กกพ. ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.61
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1148 วันที่ 29 กันยายน - 5 ตุลาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น