การไหวเคลื่อนของคนลำปางกลุ่มหนึ่ง
ที่สำนึกรักบ้านเกิด เสียดาย และไม่ต้องการสูญเสียบางสิ่งที่มีคุณค่าต่อจิตใจ
และเป็นเอกลักษณ์ของเมืองลำปาง เช่น บ้านเก่าหลายหลัง นอกเขตพื้นที่ท่ามะโอ นับเป็นเรื่องเข้าใจได้ และ “ม้าสีหมอก”
ก็ชื่นชมความมุ่งมั่น ตั้งใจของพี่น้องคนลำปาง ที่คงไม่ปรารถนาให้ตึกราม
อาคารพาณิชย์ ตึกสูงไร้จิตวิญญาณ มาวางตั้งไว้แทนที่บ้านเหล่านั้น
แม้จะเจ็บปวด
แม้จะเสียดาย และแม้จะหวั่นใจว่า
หากยอมให้สิ่งก่อสร้างแปลกปลอมรุกเข้ามายึดพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจ ไม่ช้านาน
ลำปางก็อาจกลายเป็นเชียงใหม่ ที่นับวันคุณค่าความเป็นนครหลวงของภาคเหนือ ก็จะลดลง
ตามการเติบโตขยายตัวของเมืองสมัยใหม่
แต่เราจะทำอะไรได้มากไปกว่านั้น
เมื่อทายาทของเจ้าของบ้านเก่า ซึ่งบางหลังไม่รู้ว่าตกทอดมากี่รุ่นแล้ว
เขาต้องการขาย ต้องการจัดการกรรมสิทธิ์ของเขาและมากไปกว่านั้น ก็คือว่า
รายละเอียดในชีวิตแต่ละครอบครัว ความจำเป็นของแต่ละครอบครัว
ความเห็นพ้องต้องกันของครอบครัว ซึ่งเป็น “สิทธิส่วนบุคคล”
เขาก็มีสิทธิเต็มที่ที่จะขาย หรือโอนกรรมสิทธิ์ให้บุคคลอื่น
ในขณะเดียวกัน
ผู้ซื้อซึ่งจะเป็นนายทุนต่างถิ่น หรือคหบดีลำปาง
หรือเป็นคนกระเป๋าหนักจากที่ไหนก็ตาม เขาก็มีสิทธิที่จะจัดการที่ดินซึ่งซื้อมาโดยถูกต้องตามกฏหมาย
จะสร้างตึกสูง จะสร้างอาคารรูปทรงทันสมัย
หรือรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมเดิมเอาไว้
ก็เป็นสิทธิของผู้ซื้อเช่นกัน ตราบใดที่เขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย หรือเทศบัญญัติใด
เราอาจจะบอกได้ว่า
ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อที่ซื้อบ้านเก่า มาเพื่อทำอาคารพาณิชย์ ไม่มีความละเอียดอ่อน
ไม่มีความรู้สึกในเชิงอนุรักษ์ที่ต้องหวงแหน บ้านเก่า สิ่งของเก่าๆ
ที่อาจเป็นความภาคภูมิใจของคนลำปางส่วนใหญ่ เราวิพากษ์วิจารณ์ได้ เราแสดงออกได้
และเราอาจเรียกร้องให้ผู้ซื้อพิจารณาสร้างอาคารใหม่
ที่ไม่ไปบดบังทัศนียภาพของบ้านหลังเก่า หรือสร้างอาคารใหม่ที่กลมกลืนไปกับบ้านเก่า
แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเขาซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
นี่คือความจริง
นี่คือสิ่งที่เราไม่อาจก้าวล่วงเข้าไปได้
เราอาจจะต้องยืนมอง
บ้านเก่าที่สร้างเป็นเรือนปั้นหยา ประดับลวดลายฉลุอย่างโบราณ เช่น บ้านราชวรัยยการ
ของอำมาตย์เอกพระยาราชวรัยยการ ต้นตระกูล “กันตะบุตร” ถูกทุบทำลายไปต่อหน้าต่อตา
หรือถูกแอบซ่อนไว้ในหมู่อาคารพาณิชย์แข็งกระด้าง และเราอาจต้องซึมเศร้ากับการล้มหายตายจาก
ของบ้านเก่าเมืองลำปางไปอีกหลายหลัง ถ้าเราไม่มีกำลังพอ ระดมเงินกันมาให้มากพอ
ที่จะซื้อบ้านเหล่านั้นไว้เป็นกรรมสิทธิ์เสียเอง
แน่นอนว่า
ไม่มีทางที่เราจะสูญเสียบ้านเก่า ไปเสียทั้งหมด หากบ้านหลังนั้น
อยู่ในเขตพื้นที่ทางการ เช่น บ้านที่เคยเป็นสำนักงานของบริษัททำไม้ต่างชาติ หลุยส์
ติ เลียวโนเวนส์ บริเวณบ้านพัก อ.อ.ป.หรือแม้กระทั่งบ้านที่เคยเป็นสถานที่ตั้งของบริษัทแบงก์สยาม กัมมาจล
ทุนจำกัด ซึ่งก็คือธนาคารไทยพาณิชย์ปัจจุบัน
บริษัทแบงก์สยามกัมมาจล
สาขาลำปาง สาขาแรกๆของธนาคารพาณิชย์ไทย ที่พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
เคยเป็นผู้จัดการ และยังคงมีร่องรอยข้าวของ เครื่องใช้ ของผู้จัดการแบงก์หลายคน
รวมทั้งพล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อยู่ ณ ที่นั้น หยุดเวลาไว้ที่นั้น
ในรูปของพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย
ลำปาง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น
สถาปัตยกรรมโคโลเนียล ลักษณะเด่นคือมีมุขยื่นด้านหน้ารับด้วยเสาลอยและซุ้มโค้ง พื้นที่ชั้นล่างเคยเป็นที่ทำการธนาคาร
ส่วนชั้นบนเป็นที่พักของผู้จัดการสาขา โดยแบ่งพื้นที่เป็นห้องพัก มีผนังเกล็ดไม้โดยรอบเพื่อช่วยในการระบายอากาศและมีระเบียงรอบ
อาคารนี้มีความสำคัญในฐานะที่เป็นธนาคารแห่งแรกในจังหวัดลำปาง และเป็นธนาคารแบงก์สยามกัมมาจล
ทุนจำกัด สาขาที่ 3 ในประเทศไทย
ต่อจากสาขาทุ่งสงและสาขาเชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
เหตุใด
เราจึงรักษาบ้านหลังนี้ไว้เป็นความภาคภูมิใจของคนลำปางไว้ได้
ก็เพราะบ้านแห่งนี้เป็นของธนาคาร ซึ่งมีความมั่นคงทางการเงิน ประกอบกับความสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจของผู้บริหาร
อีกกี่สิบปี เราก็แน่ใจได้ว่าบ้านหลังนี้ไม่มีวันหายไปไหน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1144 วันที่ 1 - 7 กันยายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น