วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

จงเติบโตให้เร็ว ‘Startup’

จำนวนผู้เข้าชม IP Address

ช่วงนี้ใครๆก็พูดถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) ซึ่งอาจจะหมายถึงธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว (Growth) และกลายเป็นธุรกิจกระแสสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือในวงธุรกิจเกิดใหม่ รวมไปถึงโครงการของรัฐบาลไทยที่กระจายงบประมาณลงมาสนับสนุนให้มีธุรกิจเกิดใหม่ แต่ใช้ศัพท์ ให้เก๋ไก๋ตาม ยุคสมัย และดูเหมือนจะกลายเป็นศัพท์ ที่เรียกแทน “SME”

คำนิยาม “Startup” ที่ดีที่สุดนั้นมาจาก Paul Graham จาก Y Combinator ศูนย์บ่มเพาะชื่อดัง Top 5 ของโลกในสหรัฐอเมริกา ที่ได้เขียนไว้ในบทความไว้ตอนหนึ่งว่า “Startup = Growth” หรือ การเติบโตและการเติบโตStartup ที่ดี จะต้อง โตเร็ว อย่างน้อยปีละ 1,000% ขณะที่ “SME” (Small Medium Enterprises) จะค่อยๆเติบโต ปีละ 30%-50% หรือหากเป็นช่วงเกิดใหม่ก็อาจอยู่ที่ปีละ 100%-200% แต่ ธุรกิจ Startup นั้นมีเป้าหมายที่หากได้น้อยกว่านั้น ถือว่าธุรกิจ Startup นั้น ยังไม่โตหรืออาจถึงโตยาก ดังนั้นธุรกิจStartup จะต้องเป็นกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการเติบโต เช่น การบริการ เป็นที่ต้องการของตลาดที่มีขนาดใหญ่ และ มีความสามารถในการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่นั้นได้

โอกาสทางธุรกิจ ในการตลาดและการขายในยุคนี้ จึงจำเป็นต้องมีศักยภาพด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อนำพาธุรกิจของตัวเองเข้าถึงตลาด ให้มากที่สุด ข้ามขีดจำกัดของการเติบโตให้มากที่สุด

ใครที่เข้าโครงการ Startupของรัฐบาล รวมถึงเจ้าหน้ารัฐเองก็ต้องทำความเข้าใจและต้องเตรียมพร้อม ให้ก้าวสู่การเป็นธุรกิจที่ “โตเร็ว” ให้จงได้

เท่าที่สัมผัสข้อมูลจากผู้ประกอบการในภาคเหนือ มักมองตรงกันว่า ความเป็นจริงแล้ว ผู้ประกอบการย่อมปรารถนาจะดีดตัว Startup กัน ทุกกรณี แต่ส่วนใหญ่ก็ขาดความรู้ความเข้าใจในวิธีการดีดตัวให้โตเร็วอย่างที่ว่า ศักยภาพอาจจะมี แต่ขาด Know how หรือ โอกาสทางตลาด ดังนั้นการอัดฉีด จึงไม่ใช่แค่การพัฒนาแบบวิชาการ แต่ต้องลงเป็นพี่เลี้ยงอย่างจริงจัง มากกว่าแค่ไปทำรายงานให้จบว่าดันผู้ประกอบการ Startup แล้ว

เรื่องนี้สถาบันการศึกษาที่รับโครงการ Startup ไว้ในมือ รู้ดี ว่าบางทีมันเป็นแค่ผักชีโรยหน้า

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1144 วันที่ 1 - 7 กันยายน 2560)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์